เปิดประวัติ Honda CBR600RR ที่มีตำนานยาวนานมากว่า 30 ปี

CBR600RR หลังจากอยู่มายาวนานถึง 30 ปี โดยในปี 2016 เป็นปีสุดท้ายที่เป็นตำนานของสปอร์ตเรพลิก้าคลาส 600 ของค่ายปีกที่นำมาขาย ซึ่งได้ยุติไลน์การผลิต ประกอบด้วยเหตุผลหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น เรื่องมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 4 ที่จะมีการบังคับใช้อย่างเข้มงวดในปี 2017 และเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องก็ คือยอดขายไม่ค่อยจะสู้ดีนัก และถ้าพัฒนาต่อคงเป็นเรื่องที่ต้องลงทุนเป็นอย่างมาก จึงทำให้ต้องหยุดการผลิตแต่เพียงเท่านี้

เรามาทำความรู้จักกับ CBR600RR กันดีกว่าครับว่ามีกี่รุ่น ซึ่งครั้งนี้เราจะนำเสนอแต่ CBR600 ที่ใช้รหัส RR เท่านั้น เรามาดูกันเลยครับว่ารหัส RR เริ่มต้นในปี ค.ศ.ไหนกัน

 

 

ปี 2003-2006 Honda CBR600RR เรียกได้ว่าเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บและเป็นการฉีกกฏของรถแนวซุปเปอร์สปอร์ตเลยก็ว่าได้ ทาง Honda เองได้ขยายเครื่องยนต์ให้แรงขึ้นเป็น 117 แรงม้าที่ 13,500 รอบ/นาที ให้โหดดุตามสายพันธุ์ RR เรียกว่าเป็น มีDNA ของ RCV มาแบบเต็มๆเลยทีเดียว ในปี 2005 ทาง Honda ได้เสริมอ๊อฟชั่นให้กับ CBR600RR โดยการติดตังโช้คหน้าแบบ Up-SideDown และปั๊มเบรกแบบเรดียนเม้าท์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นเข้าไปอีกสำหรับ CBR600RR ในโฉมนี้

สเปกเครื่องยนต์

เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 67x42.5 มิลลิเมตร

แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 117 ตัว ที่ 13,500 รอบ/นาที 

แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 66.4 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบ/นาที น้ำหนักตัวรถอยู่ที่  169 กิโลกรัม

 

 

2007-2012 Honda CBR600RR

ในปี 2007 ฮอนด้าปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่เพิ่มกำลังในรอบกลางให้ดีกว่าเดิม ปรับปรุงโฉมใหม่หมดอีกครั้ง โดยวางช่องดักลมไว้ตรงกลางระหว่างไฟคู่หน้าหรือที่เรารู้จักกันในชื่อแรมแอร์ ในการปรับปรุงส่งผลให้แรงม้าเพิ่มขึ้น 2 แรงม้า และสามารถใช้งานบนถนน หรือสนามได้ดีขึ้นนั่นเอง และในปี 2009 ได้ติดตั้งระบบ ABS เพิ่มเติมให้กับรถโฉมนี้อีกด้วยทำให้โฉมนี้เป็นที่รู้จักและเป็นโฉมที่แรงมากๆในยุคนั้นเลยในส่วนตัวของแอดเอง เคยเอาเครื่องยนต์ของ CBR600RR ปี 2007 มาทำรถฟอมูล่านักเรียน ซึ่งบอกว่าความแรงไม่เป็นรองใครเลย

สเปกเครื่องของโฉมนี้

เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 67x42.5 มิลลิเมตร

แรงม้าสูงสุดที่ 119 แรงม้า ที่รอบ 13,500 รอบ/นาที ทอร์กสูงสุดที่ 67.7 นิวตันเมตร ที่รอบ 11,000 รอบ/นาที

น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 156 กิโลกรัม ซึ่งแรงม้าที่เพิ่มมาก็มาจากการทำทางเดินอากาศขึ้นมาใหม่นั่นเอง

 

 

2013-2017 Honda CBR600RR

ในปี 2013 มีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างเพื่อให้ฟัดกับคู่แข่งได้อย่างสูสี ไม่ว่าจะเป็นโฉมหน้า, การปรับแกนโช้คอัพให้ใหญ่ขึ้นเป็น 43 มม., เพิ่มระบบเบรค C-ABS และเปลี่ยน ECU ใหม่ แต่สุดท้ายหลังจากปี 2016 CBR600RR มันจะกลายเป็นตำนาน อันเนื่องมาจากผลพวงมาตรฐานไอเสียใหม่ในปี 2017 จึงทำให้ไม่ได้ไปต่อและก็ได้ปิดตำนานที่ยาวนานกว่า30ปีไปในที่สุด

เรามาดูสเปกเครื่องของโฉมนี้กันครับ

เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 67x42.5 มิลลิเมตร

แรงม้าสูงสุดที่ 119 แรงม้า ที่รอบ 13,500 รอบ/นาที ทอร์กสูงสุดที่ 67.7 นิวตันเมตร ที่รอบ 11,000 รอบ/นาที

น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 196 กิโลกรัม โฉมนี้เองที่ได้มีการปรับหลายๆอย่าง และตัวน้ำหนักของรถเองได้เพิ่มขึ้นมาอีหลายกิโลเลยทีเดียว เรียกได้ว่าถ้าเทียบกับตัวเก่าถือว่าแบกกระสอบข้าวสารอีกเกือบๆ 1 กระสอบเลย

 

 

นี่คือตำนานของ CBR600RR ที่ยาวนานมากว่า 30 ปี และเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวแว่วมาว่า Honda CBR600RR กำลังจะกลับมาอีกครั้งในปี 2020 ถ้ากลับมาจริงๆคงกลับมาอย่างยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน