รูปแบบกิจกรรม
สำหรับรูปแบบกิจกรรมยังคงยึดหลักเหมือนสนามแรก ๆ โดยแบ่งเป็นรอบแทร็คเดย์และโทรฟี่ ซึ่งมีเพิ่มรอบแทร็คเดย์ในวันศุกร์ 1 วัน ซึ่งจะเป็นกิจกรรมผู้ขับขี่ได้ซิ่งในแทร็คตั้งแต่ 7 โมงเช้า ยัน 5 โมงเย็น ซึ่งรวมทั้งหมดจากเดิม 8 เซสซันเพิ่มมา 7 เซสซัน รวมเป็น 15 เซสซันด้วยกัน แบ่งได้ดังนี้
DAY 1: วันแรกของการเตรียมตัวเข้าสนาม ลงทะเบียนชำระค่าสมัครและถ่ายรูปนักแข่งเพื่อรับสติกเกอร์หมายเลขติดที่รถ ก่อนเปิดรอบการซ้อมวันแรกตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ตามกรุ๊ปขับขี่ในแต่ละเซกชัน แบ่งเป็นเซกชันละ 15 นาที
DAY 2: ยังคงเป็นรอบการลงซ้อมขี่ในสนามแข่งที่ทางผู้จัดเพิ่มเซกชันมาให้นักขี่ได้ขี่กันแบบอิ่ม ๆ ตั้งแต่ทั้ง 7 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นแบบไม่มีเว้นพักเอาให้หายเสี้ยนกันไปเลยทีเดียว
DAY 3: สำหรับวันที่สองยังคงอยู่ในช่วงกิจกรรมแทร็กเดย์ในรอบเช้า และบรีฟกติกาสำหรับนักแข่งที่จะลงควอลิฟายในช่วงบ่าย เพื่อหาลำดับกริดสตาร์ทและแบ่งรุ่นแข่งขันในรอบโทรฟี่ของวันอาทิตย์
DAY 4: ช่วงของกิจกรรมโทรฟี่สำหรับการแข่งขัน (7 รอบสนาม) โดยแยกเป็นรุ่นต่าง ๆ นับตั้งแต่รุ่นรถคลาสเล็ก Hodna MiniBike Trophy 125 cc. ไปจนถึง Fuchs Silkolene SuperBike 1,000cc. ตามล่าหาแชมป์ประจำสนามพร้อมรางวัลไปครอบครอง
Super Sport400cc. Class B ยังครองแชมป์ร่วมแข่งมากที่สุด: รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดยังคงเป็นรถสปอร์ตคลาส 400 รุกกี้อย่าง Supersport 400cc. Class B ซึ่งมีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากถึง 28 คัน โดยส่วนใหญ่ล้วนเป็นนักแข่งหน้าใหม่ที่พร้อมเปิดประสบการณ์ในสนาม และบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุก ซึ่งนอกจากการแข่งขันในสนามแล้ว เหล่านักบิดยังคงได้เรียนรู้ไลน์ในสนามแข่งไปพร้อมกับการขับขี่ร่วมกับผู้อื่น หรือเรียกได้ว่า ซิ่งได้ แซงได้ แต่ต้องขับขี่อย่างมีน้ำใจ ระมัดระวังไม่ให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย
SuperBike 1000cc. ศึกแห่งศักดิ์ศรีรุ่นพันซีซี : หนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองและยังคงครองใจแฟน ๆ สาวกซูเปอร์ไบค์กับ SuperBike 1000cc. Class A หรือซูเปอร์ไบค์รุ่นโปรที่รวมนักบิดตัวตึงระดับแนวหน้าของสายล่ารางวัลรายการแทร็คเดย์ทั่วประเทศอยู่ที่รุ่นนี้แล้ว และครั้งนี้ยังคงได้รับกระแสความนิยมต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังได้รับการสนับสนุนรุ่นการแข่งขันจากแบรนด์น้ำมันเครื่องชื่อดังจากเยอรมันอย่าง Fuchs Silkolene ในการแข่งขันครั้งนี้อีกด้วย
Scooter 400cc. Open ศึกของเหล่าสายขิง : ศึกแห่งศักดิ์ศรีการปะทะของเหล่ารถสกูตเตอร์ Scooter 400cc. Open รวมรถรุ่นชูโรงของแต่งละค่ายแต่ละแบรนด์ มาร่วมสาดขิงกันแบบไม่มีใครยอมใคร อาจเรียกได้ว่านอกจากสกิลการขับขี่ของไรเดอร์แล้ว การโมดิฟายตกแต่งเครื่องยนต์ก็ยังเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้นักบิดสามารถคว้าโพเดี้ยมในสนามครั้งนี้ไปได้
สปอนเซอร์ใจดีร่วมสนับสนุนมากถึง 37 แบรนด์
และสิ่งสำคัญเป็นหัวใจหลักที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เหล่าผู้สนับสนุนกิจกรรมมากถึง 37 แบรนด์จากหลายภาคส่วน ประกอบไปด้วยยาง Pirelli ยางแข่งระดับโลกจากสัญชาติอิตาลี มาบริการเปลี่ยนยางภายในงาน ค่ายรถจักรยานยนต์ ThaiHonda และ KTM ที่มาร่วมสร้างสีสันภายในงาน พร้อมสานฝันกับการพาเหล่าสาวกมาร่วมสนุกในกิจกรรมตลอดทั้ง 4 วัน และเปิดบูธสินค้า พร้อมเปิดรุ่นการแข่งขันสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสำหรับลูกค้าค่ายรถประกอบไปด้วย Honda Cup, Honda Minibike Trophy 125cc และ KTM 390 Series
และมีแบรนด์สินค้าอีกหลายรายที่ร่วมมอบของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์คุณภาพให้กับนักแข่ง ได้แก่ WISE ผลิตภัณฑ์ดูแลรถครบชุด, Red Bull เครื่องดื่ม Energy Drink, D.I.D ผลิตภัณฑ์ชุดโซ่ สเตอร์ และอื่นๆ มากมาย อาทิ Dinese/AGV, BRD, CAT, ID Helmet, Kushitani, Liqui Moly, Ohlins, Raceline, Real Helmet, SHARK Helmet, Six Speed, พรมซิ่ง, YakRyder, Zipper Biker, BilmolaHelmet, RaidenHelmet, MotoWolf, MotoFox, EaziGripRacing, R&Gracing, Revoteq และ Forgtec เพื่อเสริมกำลังใจและเพิ่มความพิเศษให้กับทุกคนที่ร่วมงาน
แตกมันส์ ยันเซอร์กิต
ของอร่อย..เพียบ!!
พร้อมเติมพลังงานกันต่อกับบูธ Café Showpow พร้อมบริการอาหารและเครื่องดื่มมากมาย พร้อมเมนูซิกเนเจอร์กับไก่ย่างสุดฮอตสูตรตำหรับจากทางร้าน และฟู้ดทรัคส์เจ้าดังมากมาย จัดหนักให้ลูกค้าได้อิ่ม ครบ ทุกรสชาติ กันภายในงานทีเดียว ด้วยกระแสการตอบรับที่น่าสนใจจากยอดชมออนไลน์ผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งในช่องทางเพจ SuperBike Fanpage โดยมีผู้เข้าชมเข้าดู มากกว่าสนามแรกถึง 2.4 ล้านครั้ง
สำหรับสนามสุดท้ายจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน สำหรับผู้ที่สนใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรม สามารถติดตามข่าวสารผ่านทางแฟนเพจ SuperbikeMag.com Trackday&Trophy หรือช่องทางเพจ Superbike Magazine (Thailand's Edition) Fan Page ลงทะเบียนผ่านเว็บไซค์ https://www.superbikemag.com/trackday/ รับรองว่ายิ่งใหญ่ สนุก และเร้าใจไม่แพ้รอบแรกแน่นอน!
