Master Of Torque ชื่อนี้ต้องยกให้กับ 2024 Yamaha MT-09
Master Of Torque ชื่อนี้ต้องยกให้กับ 2024 Yamaha MT-09
ถ้าหากพูดถึง Master Of Torque ชื่อนี้ใครหลายๆคนคงคิดถึงรถตระกลู MT ของ Yamaha ที่เรียกได้ว่าหากตั้งชื่อนี้ให้ก็คงไม่เกินจริง เพราะรถตระกลู MT มีแรงบิดที่เยอะมากๆ ทำให้ตัวรถขี่ได้สนุกเป็นอย่างมาก
วันนี้ทางเราก็ได้มาทำการทดสอบ 2024 Yamaha MT-09 แน่นอนว่าได้ขี่ทั้งตัวธรรมดา และตัว SP แน่นอนว่าตัวใหม่ล่าสุดนี้เป็นตัวเจนเนอร์เรชัน 4 ที่ได้ปรับปรุงมาให้เยอะมากๆ เรียกได้ว่าใส่มาเต็มเลยไม่ว่าจะเป็น
โช้กหน้าเป็นโช้ก Up-Side Down มีขนาดแกนโช้กอยู่ที่ 41 มิลลิเมตร จาก KYB ที่สามารถปรับค่าได้ โช้กหลังเป็นของ KYB เช่นกัน แต่ถ้าหากตัว SP โช้กหน้าจะเป็น KYB Premium ที่ปรับค่าได้ทุกอย่าง โช้กหลังจะเป็นของ Öhlins ที่สามารถปรับได้แบบ Full Adjustable มาพร้อมกับรีโหมดปรับสองฝั่ง (รีโมทปรับค่าคอมเพรสชั่น, ปรับสปริงแบบไฮดรอลิค)
เบรกหน้าเป็นดิกส์เบรกคู่แบบเรเดียนเม้าส์ที่ใช้ขนาดจานดิกส์หน้าอยู่ที่ 298 มิลลิเมตร ในส่วนของตัว SP ปั๊มล่างจะเป็นปั้มของ Brembo monoblock Stylema® จับคู่กับปั๊มบนโลโก้ขาว จาก Brembo ทั้งตัว STD และ SP
เบรกหลังเป็นปั้มจาก Nissin มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 245 มิลลิเมตร
ในส่วนของยาง ต้องบอกว่ายางรถให้มาเป็นของ Bridgestone BATTLAX HYPERSPORT S23 ซึ่งต้องบอกว่ายางที่ให้มาเป็นตัวท๊อปที่เจ๋งสุดๆเลยก็ว่าได้ มั่นใจได้เลยว่ายางติดรถดีอย่างแน่นอน ยางหน้าใช้ขนาด 120/70 ยางหลังใช้ขนาด 180/55 ขอบ 17 นิ้ว
เครื่องยนต์ของตัวรถเป็นเครื่องยนต์ขนาด 890 แบบ CP3 ที่มาพร้อมกับ Assist and Slipper ที่มีแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 119 แรงม้า ที่รอบ 10,000 รอบ/นาที แรงบิดอยู่ที่ 93 นิวตันเมตร ที่รอบ 7,000 รอบ/นาที ผ่านมาตรฐาน Euro5+ เรียบร้อยแล้ว ความคุมด้วยคันเร่งไฟฟ้า และ IMU แบบ 6 แกนและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ไวต่อการเข้าโค้งพัฒนาจาก R1, IMU 6 แกนขนาดกะทัดรัดควบคุมระบบช่วยผู้ขี่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของ MT-09 SP รวมถึงระบบควบคุมการยึดเกาะถนน 3 ระดับ (TCS), ระบบควบคุมการเลื่อน (SCS), ระบบควบคุมการยกล้อหน้า (LIF) และ ระบบควบคุมเบรก เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันนี้มี เข้าเกียร์-ลดเกียร์แบบลื่นไหลด้วยระบบ Quick Shifter ที่ได้รับการพัฒนามาเป็น Generation ที่ 3 แล้ว ทำงานได้ทั้ง Up-Down ที่สมูทมากๆ ระบบควบคุมการลื่นไถลด้านหลัง (BSR) ซึ่งให้ความเสถียรเมื่อล้อหลังล็อคภายใต้การเบรกมากเกินไปโดยการควบคุมระดับแรงบิดที่เกิดขึ้น
หน้าจอของตัวรถเป็นหน้าจอ TFT Full Colour ขนาด 5 นิ้ว หน้าจอสามารถเลือกธีมได้ 5 แบบ ในรุ่น SP จะมีธีม Track มาให้ด้วย แถมยังสามารถเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนได้ หน้าจอสามารถเชื่อมต่อกับแอพ Garmin StreetCross ได้
ไฟรอบคันมาในแบบ Full LED ระบบเบรกมาพร้อมกับระบบ ESS (Emergency Stop Signalling)
ถังน้ำมันมีขนาด 14 ลิตร น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 194 กิโลกรัม
ฟิลลิ่งของการขับขี่
ท่านั่ง
ท่านั่งของตัวรถต้องบอกว่าปรับใหม่จาก Gen ก่อน แฮนด์เตี้ยลง ทำให้ตัวรถมีความสปอร์ตมากขึ้นอีกด้วย ช่วงเว้าของถังน้ำมันมีเยอะขึ้นทำให้บริเวณช่วงขาเบาะแคบลงทำให้เท้าเหยียบพื้นได้มากขึ้น
อัตราเร่ง
ต้องบอกว่าอัตราเร่งมีความสมูทมากขึ้นกว่าตัวก่อนๆหน้านี้ เนื่องด้วยคันเร่งแบบไฟฟ้า แต่ตอบสนองได้ไวมากๆ แต่รอบปลายของตัวรถต้องเรียกได้ว่าความเร็วปลายมีมากกว่าเดิมโดยความเร็วสูงสุดที่ 240++ Km/hr เลยครับ
ช่วงล่าง
ด้วยช่วงล่างของตัวรถเรียกได้ว่ามีความนิ่งพอสมควรเลย พลิ๊กได้ไวมากๆ องศามุมเทลที่ปรับมาใหม่ ทำให้ตัวรถเลี้ยวได้ไวมากขึ้น ในส่วนของตัว SP ที่ช่วงล่างดีกว่า ช่วงช่างจะรู้สึกได้เลยว่าแน่นกว่า
เบรก
ระบบเบรกของตัวรถในรุ่น STD ต้องบอกว่าเอาอยู่สบายๆ ด้วยรถของทางค่าย Yamaha ระบบเบรกดีมากๆ อยู่แล้ว ทำให้เราเบรกได้อย่างมั่นใจเลย ในส่วนของตัว SP ที่เป็นเบรกของ Brembo monoblock Stylema® เบรกดีสุดๆ สามารถเบรกได้ลึกกว่าตัว STD อีกด้วย
สรุป
ตัวของ 2024 Yamaha MT-09 เป็นรถที่ต้องบอกว่าปรับใหม่มามากพอสมควร คันเร่งสมูทขึ้นกว่าตัว Gen 3 แต่รอบปลายทำได้ดีกว่าเยอะเลย การเลี้ยวรถ การควบคุมรถทำได้ง่ายกว่ามากๆ เบรกตัวรถก็แจ่ม ซื้อมาแทบไม่ต้องทำไรเพิ่มเลย นอกจาก เปลี่ยนท่อ และติดกันสะบัดเพิ่ม รับรองสนุกแน่นอน
ในส่วนราคาของ 2024 Yamaha MT-09 มีราคาอยู่ที่ ราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 447,000 บาท ในรุ่น Standard และราคา 489,000 บาท สำหรับรุ่น SP
หากใครสนใจ 2024 Yamaha MT-09 ก็สามารถเข้าไปดูที่ศูนย์ Yamaha Rider Club ใกล้บ้านได้เลย
ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : www.mocyc.com
Page Facebook : www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : instagram.com/mocycthailand