3 รุ่น สไตล์ Ducati Hypermotard 698 Mono REV, Multistrada V4 Rally, DesertX Rally

 

3 รุ่น สไตล์ Ducati Hypermotard 698 Mono REV, Multistrada V4 Rally, DesertX Rally 

 

เรามาเริ่มที่รุ่นตัวเล็กสุดอย่าง Ducati Hypermotard 698 Mono REV กันก่อน ตัวของ Ducati Hypermotard 698 Mono REV ทางค่ายได้เคลมว่าแรงที่สุดในรุ่น

 

 

เครื่องยนต์มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด 659cc  ลูกสูบขนาด 116 มิลลิเมตร มีแรงม้าอยู่ที่ 77.5 แรงม้า ที่รอบ 9,750 รอบ/นาที แรงบิด 63 นิวตันเมตร ที่รอบ 8,000 รอบ/นาที ระบายความร้อนด้วยน้ำเกียร์ 6 สปีด กำลังอัดอยู่ที่ 13.1:1 ตัวเครื่องยนต์ยังมี Slipper and Self-Servo Wet Multiplate Clutch โหมดการขับขี่ 4 โหมด Sport, Road, Wet ,Urber ระบบ Slide By Brake, Ducati Wheelie Control, Engine Brake Control, Ducati Power Launch, Ducati Traction Control น้ำหนักไม่รวมของเหลวอยู่ที่ 151 กิโลกรัม เฟรมเป็นเฟรมแบบ Tubular Steel Trellis Frame

 

 

โช้กหน้าเป็นแบบ Up-Side Down ของ Marzocchi แบบ Fully Adjusttable ที่มีขนาดแกนโช้กอยู่ที่ 45 มิลลิเมตร มีระยะยุบอยู่ที่ 215 มิลลิเมตร เบรกหน้าแบบดิกส์เบรกเดี่ยวที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 330 มิลลิเมตร ปั๊มเบรกล่างเป็นของ Brembo M4.32 ยางหน้ามีขนาด 120/70 ขอบ 17 นิ้ว

โช้กหลังเป็นของ Sachs แบบ Fully Adjusttable มีระยะยุบอยู่ที่ 240 มิลลิเมตร เบรกหลังเป็นแบบดิกส์เบรกที่มาพร้อมกับจานเบรกขนาด 245 มิลลิเมตร ปั๊มล่างเป็นของ Brembo เช่นกัน ยางหลังมีขนาด 160/60 ขอบ 17 นิ้ว

ระบบเบรกหน้าหลังมาพร้อมกับระบบ Connering ABS จาก Bosch

ถังน้ำมันมาพร้อมกับถังขนาด 12 ลิตร 

 

 

สำหรับ Ducati Quick Shift (DQS) ถ้าเป็นตัว REV จะได้ติดรถมาเลย แต่หากเป็นตัว STD ต้องซื้อ Option เพิ่ม

ไฟรอบคันมาในแบบ Full LED ไฟหน้ายังมาพร้อมกับไฟ DRL

ในส่วนราคาของ Ducati Hypermotard 698 Mono มีราคาอยู่ที่ 449,000 บาท

Ducati Hypermotard 698 Mono REV มีราคาอยู่ที่ 499,000 บาท

เบาะมีความสูงอยู่ที่ 904 มิลลิเมตร

ฐานล้อมีขนาด 1,443 มิลลิเมตร

หน้าจอของตัวรถมาในแบบ TFT LCD ขนาด 3.8 นิ้ว 

 

 

ฟิลลิ่งของการขับขี่

ท่านั่ง

ท่านั่งต้องบอกว่าความสูงจากเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 904 มิลลิเมตร เรียกว่าสูงเอาเรื่องเลยทีเดียว ด้วยส่วนตัวผมสูง 177 เซ็นติเมตร เรียกได้ว่าสุดปลายเท้าเลยทีเดียว

 

 

การควบคุม

สนามที่เราใช้ในการทดสอบก็คือสนาม MSP สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามเล็กด้วยตัวรถที่มาพร้อมกับแฮนด์เป็นแฮนด์บาร์ทำให้ควบคุมง่าย น้ำหนักรถที่เบาทำให้เราควบคุมได้ง่าย พลิ๊กได้ไวแต่หากขี่ในสนามที่เล็กๆแบบ MSP ต้องยอมรับว่าด้วยระบบเบรกที่ดี และอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม หากไม่ฟิตรับรองเลยว่ากินกำลังแขนแบบสุดๆ 

 

 

อัตราเร่ง

แน่นอนว่าเครื่องยนต์ถูกถอดแบบมาจากเครื่องยนต์ Panigale V4 ที่มารพ้อมกับแรงม้าที่ 77.5 แรงม้า เรียกได้ว่าแรงที่สุดในรุ่นอีกด้วย หากบิดระบบแทร็กชั่นคอลโทล ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ 1,2 รับรองมีหงายอย่างแน่นอน 

 

 

ระบบเบรก

เบรกหน้าของตัวรถปั๊มล่างให้ Brembo M4.32 ปั๊มบน Brembo โลโก้ขาว จับคู่จับจานเบรกขนาด 330 มิลลิเมตร หากกำแรงๆต้องบอกว่ามีท้ายยกแน่นอน ระบบเบรกต้องบอกว่าเยี่ยมสุดๆ

สรุปแล้ว

ตัวรถเป็นรถที่ขี่สนุกเป็นอย่างมากตัวรถมีน้ำหนักเบา ขับขี่ได้ง่าย พลิ๊กได้ไว อัตราเร่งดีสุดๆหากใครได้ลองรับรองเลยว่าติดใจอย่างแน่นอน

 

 

คันต่อมาที่เราได้ทดสอบ Multistrada V4 Rally

เป็นมอไซค์แบบ Adventure touring ขนาดใหญ่ที่มีเทคโนโลยีเพียบพร้อมสำหรับการเดินทางไกลมากที่สุดมาพร้อมกับ Concept Long range touring / First class comfort / All

 

 

เครื่องยนต์มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V4 Granturismoขนาด 1158cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ เครื่องยนต์ลูกนี้ให้แรงม้าอยู่ที่ 170 HP ที่รอบ 10,500 รอบ/นาที แรงบิดอยู่ที่ 125 นิวตันเมตร ที่รอบ 8,750 รอบ/นาที มาพร้อมกับ Slipper Clutch และ Ducati Quick Shift (DQS)

 

 

terrain ability

เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการเดินทางไกลและนิยมใช้จักรยานยนต์ในการเดิน

ทางเป็นหลัก รุ่นนี้มาพร้อมกับ Minimum preload ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถลดความสูงมอเตอร์ไซค์ลงได้ ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสพื้นได้ง่ายขึ้น เพียงปลายนิ้วสัมผัส

ล้อซี่ลวดน้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว และ 17 นิ้ว ทำให้น้ำหนักเบา 3.2

ยางหน้าใช้ขนาด 120/70 ยางหลังใช้ขนาด 170/60

เบรกหน้าแบบดิกส์เบรกคู่ที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 320 มิลลิเมตร จับคู่กับปั๊มล่าง Brembo

เบรกหลังแบบดิกส์เบรกที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 265 มิลลิเมตร ปั๊มล่างใช้ของ Brembo เช่นกัน

กิโลกรัม วามสูงใต้ท้องเพิ่มสูงขึ้นอีก 15 มม. เพื่อการเดินทางไกล และ

สุมบุกสมบันได้มากขึ้น ระบบกันสะเทือนอิเล็กทรอนิกส์ Skyhook

Suspension EVO, หน้าจอ TFT ขนาดใหญ่, เรดาร์ป้องกันการชนหน้า-หลัง

ถังน้ำมันขนาดใหญ่ 30 ลิตร น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 238 กิโลกรัม เฟรมเป็นเฟรมแบบ Monocoque

รายละเอียดแต่ละโหมดการขับขี่ยังสามารถปรับแต่งได้ในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น Power Mode, DTC, ABS, DWC, EBC, DQS และอื่นๆ อีกทั้งยังมี Power Mode ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อการขับขี่แบบ Off-road โดยเฉพาะ ที่ลดกำลังสูงสุดของเครื่องยนต์เหลือเพียง 114แรงม้า จากกำลังสูงสุด 170 แรงม้า  โหมดการขับขี่ มีทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ 1.) Sport 2.) Touring 3.)

Urban 4.) Enduro

ความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาสสำหรับผู้ขับขี่

- จอแสดงผล TFT ขนาด 6.5 นิ้ว

- เบาะความสูงสามารถปรับความสูงได้ 825 และ 845

เปิดตัวทั้งหมด 2 สีทางเลือก ได้แก่ Aluminum Matt Black ราคา

1,479,000 บาท และ Ducati Red ราคา 1,469,000 บาท

ฟิลลิ่งสำหรับการขับขี่ 

 

 

ท่านั่ง

ต้องบอกว่าท่านั่งเป็นท่าที่สบายๆตามสไตล์ทัวร์ริ่ง เมื่อคล่อมรถจะรู้สึกได้ว่าน้ำหนักของรถจะหนักไปทางข้างหน้ารถเยอะพอสมควรเลย

กำลังเครื่องยนต์

ต้องบอกก่อนว่าสนามที่เราใช้ทดสอบค่อนข้างเล็กจึงทำให้ไม่สามารถได้ลองอะไรมากนักแต่เครื่องยนต์ระดับบ 1000cc ขึ้นไป อัตราเร่งต้องบอกว่าดีเยี่ยมอยู่ที่ เกียร์สองกระแทกคันเร่งออกล้อหน้ามีลอยจากพื้น

 

 

เบรก

เบรกของตัวรถต้องบอกว่าหนึบมากๆ เพียงแค่เบรกหน้าอย่างเดียว วรถจะทำการเบรกหลังให้เราด้วย ทำให้ระยะเบรกสั้นลงกว่าเดิมเป็นอย่างมาก

การควบคุม

ถึงตัวรถจะมีน้ำหนักที่เยอะตามสไตล์รถทัวร์ริ่ง แต่เวลาพลิ๊กรถตอบสนองได้ไวมากๆ แถมยังรู้สึกได้เลยว่าเวลาเลี้ยวแล้วรถมีความแน่ไม่ดิ้น 

 

 

สรุปแล้ว

Multistrada V4 Rally เป็นรถที่ขี่ง่ายเป็นอย่างมาก หากใครอยากขี่รถ Adventure แต่อยากได้ความแรงแบบรถสปอร์ตต้อง Multistrada V4 Rally เท่านั้น

 

 

ส่วน DesertX Rally ตัวโหดออฟโรด

จัดเต็มออพชั่นเพื่อรองรับการขี่ทางไกลที่ท้าทายทั้งความอึดของรถและผู้ขับขี่ โดยรุ่นนี้ปรับปรุงสมรรถนะให้เป็นรถออฟโรดที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด หรือแม้แต่เพื่อการแข่งขัน DesertX Rally สะท้อนให้เห็นถึงการอัพเกรดที่เกิดขึ้นกับจักรยานยนต์สำหรับแข่งขันซึ่งได้รับรางวัลประเภทสูบคู่ของ Iron Road Prologue ทั้งในด้านดีไซน์ เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ มาพร้อมกับเฟรมที่ทนทาน, ระบบกันสะเทือนลองทราเวล, วงล้อขนาดใหญ่, โหมด Rally พิเศษสำหรับทางวิบาก พร้อมพาคุณลุยได้ในทุกเส้นทาง DesertX Rally มาพร้อมค่าตัว 869,000 บาท

 

 

แน่นอนว่าเราได้สอบสอบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นสำหรับรุ่นนี้ต้องบอกว่า

สัมผัสแรก

ต้องบอกว่าความโหดของเครื่องยนต์ลูกนี้เริ่มรู้สึกได้ตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์เลย ด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบแบบ L-Twin ที่เรียกว่า Testastretta 11° ขนาด 937cc ให้แรงม้าสูงสุดที่ 110 แรงม้า ที่รอบ 9,250 รอบ/นาที แรงบิดอยู่ที่ 92 นิวตันเมตร ที่รอบ 6,500 รอบ/นาที

 

 

ถ้าหากสายลุยต้องมาทาง DesertX Rally ที่พร้อมลุยได้ตลอดเวลา

หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูที่ได้ศูนย์ Ducati ได้เลย

ขอบคุณ Ducati Thailand มากๆครับที่ให้พวกเราทีมงาน Mocyc.com เข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้

 

ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : www.mocyc.com
Page Facebook : www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : instagram.com/mocycthailand