Honda CRF450RL ยาแก้มือตึง!!!

ครั้งนี้บอกได้เลยว่าทาง Honda ได้เอารถกึ่งรถสูตรมาให้เราได้สัมผัสกับความแรงของ Honda 450RL ต้องบอกว่าตัวของ Honda CRF450RL เป็นรถที่นำเข้าจาก ญี่ปุ่น ทั้งคันเลย เรามาดูสเปคเครื่องยนต์กันดีกว่าว่ามันต่างอะไรจากรถสูตรตัว R บ้าง

เครื่องยนต์ของ Honda CRF450RL เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้เครื่องของตัว R มาพัฒนา ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 449cc Unicam OHC 4 วาล์ว มีแรงบิดที่ 32 นิวตันเมตร ที่รอบ 3,500 รอบ/นาที (ตัว R มีแรงบิดที่ 42 นิวตันเมตร ที่รอบ 7,390 รอบ/นาที) ระบายความร้อนด้วยน้ำ หม้อน้ำซ้ายความจุอยู่ที่ 1.45 ลิตร แรงอัดเครื่องยนต์อยู่ที่ 12 : 1 เกียร์ 6 สปีด (ตัว R 5 สปีด) กระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ = 96.0 x 62.1 มิลลิเมตร เฟรมเป็นเฟรมอลูมิเนียม ตัวเฟรมจะใหญ่กว่าตัว R เพราะว่าเครื่องยนต์มีเพลงข้อเหวี่ยงที่ใหญ่กว่านั่นเอง

ช่วงล่างหรือระบบรองรับน้ำหนัก ต้องบอกว่ายกมาจากตัว R เลย ซึ่งโช้กหน้าเป็นแบบ Up-Side Down ที่มีขนาดแกนโช้กอยู่ที่ 49 มิลลิเมตร ที่สามารถปรับค่าได้อย่างครบครัน โช้กหลังจาก Showa ที่สามารถปรับค่าได้ มาพร้อมกระเดื่องทดแรงแบบ Pro-Link ซึ่งเป็นช่วงล่างเดียวกับ CRF450R เซ็ทอัพจากโรงงานจะเซ็ทมากลางๆเพื่อทาง On-Off Road ถังน้ำมันขนาด 7.6 ลิตร ตัวถังทำมาจากไทเทเนียม ทำให้เบามากๆ ตัวรถมีน้ำหนักตัวที้ 131 กิโลกรัม แบตเตอรี่ตัวรถเป็นแบต Lithium-ion 12 V. ที่มีขนาดกระทัดรัด และน้ำหนักเบา ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว ล้อหลังขนาด 18 นิ้ว ขอบจาก D.I.D. Aluminum ยางหน้าขนาด 80/100 ยางหลังขนาด 120/80 ยาง Trails GP IRC เบรกหน้าเป็นดิกส์เบรกที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 260 มิลลิเมตร เบรกหน้าปั๊ม 2 พอท เบรกหลัง เป็นดิกส์เบรกแบบ 1 พอท ที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 240 มิลลิเมตร ซึ่งมีที่ครอบจานดิกส์มาให้ด้วย สวิงอาร์มเป็นสวิงอาร์แบบอลูมิเนียมที่มียูรีเทรนอยู่ข้างใน แฮนด์บาร์เป็นแบบ Renthal ที่ช่วยซับแรงสั่นสะเทือนมายังผู้ขับขี่ได้ ไฟรอบคันมาในแบบ Full LED ครบถ้วนตามกฏหมายกำหนด หน้าปัดเรือนไมล์ LED ที่บอกฟังก์ชั่นต่างๆ (ไม่มีบอกรอบเครื่องยนต์กับไฟบอกเกียร์)

มิติของตัวรถอยู่ที่ กว้าง x ยาว x สูง อยูที่ 845 x 2,280 x 1,260 มิลลิเมตร ความสุงจากเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 994 มิลลิเมตร ฐานล้ออยู่ที่ 1,500 มิลลิเมตร ความสูงจากเครื่องยนต์ถึงพื้นอยู่ที่ 315 มิลลิเมตร

เนื่องจากเป็นรถที่เรียกได้ว่ากึ่งรถสูตร การบำรุงรักษาก็ต้องมากกว่ารถแบบธรรมดาอยู่ที่ ทาง Honda เคลมไว้ว่า น้ำมันเครื่อง และกรองน้ำมันเครื่องกำหนดเปลี่ยนทุกๆ 1,000 กิโลเมตร ถ้าในการแข่งขันเปลี่ยนทุกๆ 8 สนาม (ถ้ารถแข่งทุกคนก็คงเปลี่ยนทุกๆ 1 สนามอยู่แล้ว) เครื่องยนต์ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอยู่ที่ 1.10 ลิตร หลังเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องใช้ 1.15 ลิตร ถ้ามีการผ่าเครื่องยนต์ใช้ 1.45 ลิตร กรองอากาศทำความสะอาดพร้อมกับเคลือบน้ำมันทุกๆ 1,000 กิโลเมตร หรือถ้าแข่งขันทุกๆ 1 สนาม ทาง Honda เคลมไว้ว่ากรองอากาศเปลี่ยนทุกๆ 3 ปี ราคาของรถถ้าเทียบกับของที่ให้มาถือว่าคุ้มค่ามากๆครับ ราคาของตัวรถอยู่ที่ 339,000 บาท

ฟิลลิ่งของการขับขี่

เส้นทางที่เราใช้ทดสอบเป็นเส้นทางที่มีเกือบครบทุกอารมณ์ของโมโตครอสเลย ไม่ว่าจะเป็น ทางทราย หินลอย ทางโดด เนินตัด ขึ้นเนินสูง เหลือเพียงแต่ลงน้ำเท่านั้นที่ยังไม่ได้ลอง เส้นทางยาวประมาณ 4 กิโลเมตรกว่าๆกันเลยทีเดียว

ท่านั่งเป็นท่านั่งที่เรียกได้ว่าเป็นรถสูตรเลยก็ว่าได้ ความสูงจากเบาะถึงพื้นสูง 944 มิลลิเมตรแอดสูง 177 เซ็นติเมตร เรียกได้ว่าสุดปลายเท้าเหมือนกัน

สำหรับคนที่ถามว่าแล้วความแรงของตัวเครื่องหล่ะ เป็นไงบ้าง ต้องบอกว่าตัวรถถ้าบิดคันเร่งหนักบอกได้เลยว่าอาจจะมีท้ายขวางกันเลยทีเดียว ทอร์กของตัวรถเยอะมากเลยทีเดียว เนื่องจากยางติดรถมาเป็นยางแบบกึ่ง ทำให้การตะกุยดินไม่ดีเท่ายางแบบสายลุยนั่นเอง หรือเรียกง่ายๆหล่ะก็ เอาแรงบิดลงไปล้อไม่หมด ตัวคลัชท์ต้องบอกว่าไม่มี Assist Slipper Clutch ทำให้การดีดคลัชท์สำหรับบางคนอาจจะยากเลย การออกตัวต้องบอกว่าตัวรถต้องรีดคลัชท์ออกตัว (รอบสูงๆเข้าไว้) ไม่งั้นมีดับแน่นอน การเลี้ยวโค้งเช่นกัน หากปล่อยไหลอาจจะทำให้รถดับแล้วล้มแปะได้ จึงต้องทำให้เราต้องเลี้ยงรอบเครื่องยนต์ไว้ตลอด ในส่วนของช่วงล่าง ต้องบอกว่า ช่วงล่างของตัวรถเป็นสิ่งที่ตัวแอดชอบมากๆเลย เพราตัวช่วงล่างยกมาจากตัว R ที่สามารถปรับค่าได้ครับถ้วนทั้งโช้กหน้า และโช้กหลัง แอดน้ำหนัก 75 กิโลกรัม ตอนกระโดดจั๊มเนิน โช้กไม่มีการยันเลย เรียกได้ว่าแจ่มมากๆ สิ่งที่ชอบอีกอย่างของตัวรถนั่นก็คือ ระบบเบรก ต้องบอกว่าระบบเบรกสั่งได้ดั่งใจเลย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ของสายมือตึงจริงๆครับ ถ้าให้พูดถึงกำลังของเครื่องยนต์ต้องบอกว่า รอบมาไวเลยเนินชัน ดันเกียร์ 2-3 สบายๆ

สรุปแล้ว

Honda CRF450RL เป็นรถสูตรที่ถูกพัฒนามาเพื่อสายเดินทางเข้าป่า กำลังของเครื่องยนต์เหลือเฟือเลย ตัวรถมีน้ำหนักที่เบา สิ่งที่ให้มากับรถคุ้มค่ามากไม่ว่าจะเป็น แฮนด์แบบ Renthal ถังน้ำมันไทเทเนียม เฟรมอลูมิเนียม ตัวเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนามาจากตัว R คุ้มค่ากับเงิน 339,000 บาทเลย ช่วงล่างก็ยกมาจากตัว R ซึ่งโช้กหน้าหลังสามารถปรับค่าต่างๆตามที่เราต้องการได้ สำหรับคนที่พึ่งเคยสัมผัส อาจจะต้องใช้เวลาสักพักพอสมควรเพื่อทำความรู้จักกับตัวรถ ระบบเบรกก็แจ่ม น้ำหนักตัวรถก็เบาเพียง 131 กิโลกรัม