The Best Bike And Bike Of The Year รวมรถที่ดีที่สุดในปี 2020

The Best Bike And Bike Of The Year รวมรถที่ดีที่สุดในปี 2020

 

มีบ้างมั้ยที่คุณอยากจะขับรุ่นนั้นแต่ไม่มีโอกาสได้ขับ หรือว่าคุณอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อน ได้รู้ว่ารถที่เราเลือกใช้นั้นมันดีมากแค่ไหน ในครั้งนี้ Bike Of The Year 2021 นี้ ได้รวมเหล่ารถต่าง ที่มีขายในปี 2020 ที่ผ่านมานี้ ซึ่งจุดประสงค์ของการจัดในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการทดสอบรถในรุ่นต่าง ๆ ให้ใกล้เคียงกับที่ลูกค้าได้ซื้อไปใช้ในชีวิตประจำวันและหาจุดบกพร่องเพื่อนำไปพัฒนาในรุ่นต่อไป

ก็มีทั้งรถที่เคยขับและไม่เคยตั้งแต่ 125cc ไปจนถึง 1100cc และมีรถให้ทดสอบมากถึงราว ๆ 60 คันเลยทีเดียวจะให้พูดกันจนหมดทุกคันผมคงจะเล่นกันยาวไปถึงปลายปี 2021 เลยทีเดียว ผมเองจะยกโมเดลบางโมเดลที่ผมคิดว่าเป็น The Best และเป็นรถที่สามารถใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน ของผมมาแล้วกันว่าทำไมผมถึงหยิบยกโมเดลนี้เป็น Bike Of The Year 2021 ของผม

มาเริ่มกันที่รถเล็กก่อนละกันในพิกัด 125cc แน่นอนว่าสไตล์ผมนั้นก็คงไม่พ้นรถสไตล์ Racing นิด แบบ Honda Grom ซึ่งให้พูดถึงการขับขี่ที่คล่องตัวตังรถเบา และมีความโดดเด่นต้อง Honda Grom การเลี้ยว มุดในที่แคบ ได้ง่าย ฐานล้อที่กว้างพอตัวและได้ยางเดิม ที่ใหญ่ เลี้ยวต่อเนื่องพลิกรถได้ง่าย ส่วนโค้ง High Speed นั้นอาจจะต้องเปลี่ยนยางเซ็ตโช๊คให้เข้ากับผู้ขับขี่เล็กน้อย และตัวรถก็ยังสามารถเปลี่ยนได้หลากหลายโฉมไม่ว่าจะเป็น Motard , Adventure , Scrambler ให้คุณได้สนุกดับมันได้หลากหลายแนว

และถ้าหากว่าเป็น Automatic 125cc หละ ผมยกให้กับ Yamaha Grand Filano เลยเพราะเครื่องยนต์ที่เป็น Blue Core Energy / Hybrid System เครื่องยนต์ที่เดินนิ่มแทบจะนึกว่าไม่ได้ติดเครื่องยนต์ เร่งติดมือน้ำหนักเบาสบายพลิกรถง่ายสบาย เจอกับลูกระนาดก็มีสะเทือนอยู่บ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ในเรื่องของการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นถือว่าทำได้เยี่ยมเลยทีเดียว

มาถึงในพิกัด 150cc กันบ้างก็ต้องบอกว่าเลือกไม่ถูกจริง แต่ถ้าหากให้ผมเลือกออกมา 1 คัน ผมขอเลือก Yamaha WR155R รถ Enduro น้องเล็กสายลุย ที่ผมนั้นสามารถเอาไปลุยได้ทุกสถานการณ์ ทำไมผมถึงเลือก Yamaha WR155 เป็นเพราะว่าผมนั้นได้สัมผัสรักแรกของ Enduro ก็เพราะโมเดลนี้มีขับขี่ง่าย มือใหม่ก็สามารถขี่ได้ในทางฝุ่น และอีกอย่างที่ผมประทับใจและหลาย คนก็รู้ดีนั่นก็คือ Yamaha WR155R สามารถนำไปเปลี่ยนล้อเป็น Super Moto ได้ ทีนี้แหละไม่ว่าจะทางดำหรือทางฝุ่นก็มาดิคร้าบบบบ!!!

ถัดขึ้นมาอีกนิด ถ้าหากให้เรียงตามใบคะแนนที่เขากำหนดให้มา เนื้อหานี้ก็คงจะยาวเป็นหางว่าวเพราะทางทีมงานได้จัดเรียงรุ่นทดสอบละเอียดย่อยมาก ผมเองก็จะรวบเป็นกลุ่มก้อนแล้วทำให้เพื่อน ได้เห็นภาพไปตาม กัน คลาสต่อไปที่ผมจะพูดถึงนั้นเป็น 250cc-300cc ในคลาสนี้ที่ผมได้มีโอกาศทดสอบนั้นก็จะมี Yamaha YZF-R3 , Yamaha MT-03 , Honda CBR250RR และ Honda CRF300L

มาพูดถึง Enduro และ Naked Bike กันก่อนแล้วกัน Honda CRF300L ผมเองก็ได้มีโอกาสได้ไปทดสอบก่อนใคร และได้พบว่ารถที่เหมาะกับคนที่ชอบเป็นสายลุยขับขี่มันส์ ยาว และมีทักษะพอตัว อัตราเร่งดี เปิดเป็นมา CRF300L ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน ส่วน MT-03 โฉมใหม่นี้ ความรู้สึกแตกต่างจากตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเป็นรูปโฉม และท่านั่งที่ทำให้เปลี่ยนการขับขี่ไปจากเดิมมาก ความเป็น Naked Bike มีเยอะขึ้นกว่าเดิมจากตัวก่อนที่จะออกไปทาง Touring นั่งสบายหน่อย

และในโฉม Sport ในพิกัด 250cc-300cc นั้นก็จะมีอยู่ 2 รุ่นด้วยกันได้แก่ Yamaha YZF-R3 และ Honda CBR250RR ทั้ง 2 โมเดลนี้มีความแตกต่างในด้านของการใช้งานอย่างเห็นได้ชัด โดยส่วนตัวผมนั้นได้เป็นเจ้าของ Yamaha YZF-R3 ในโฉมของ 2015 อยู่แล้วซึ่งในโฉมเดิมนั้นความรู้สึกส่วนตัวคิดว่ามีความคล่องตัวกว่าโฉมใหม่ด้วยตัวถังที่เล็กกว่าและตำแหน่งการนั่งที่ให้มาพอดีกับตัวผมเอง ในโฉมใหม่นี้คิดว่า ใช้ในชีวิตประจำวันก็ดี ขับขี่ไปที่ไกล ก็ได้ หรือจะเป็นสายสนามก็สามารถลงทำการขับขี่ได้สบาย แต่จะต้องเป็นสนามที่มีความกว้างของสนามมากพอสมควรจึงจะพอดีกับตัวรถเช่นสนามเช่นสนามช้าง หรือสนามพีระ รับรองว่าขับขี่ได้อย่างมันส์แน่นอน

ส่วนในเรื่องของ Honda CBR250RR นั้นด้วยความที่เป็น Racing Raplica ทำจุดศูนย์ถ่วงมาอย่างดีพลิกรถในโค้งเอสต่อเนื่องได้สบาย เข้าโค้งได้อย่าง นิ่ม และผมเองก็ได้มีโอกาสทดสอบโหมดการขับขี่ทั้ง 3 โหมด ไม่ว่าจะเป็น Comfort Sport และ Sport+ เห็นความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในเรื่องของการเดินคันเร่งในโค้ง การออกตัว หรือแม้กระทั่งการต่อเกียร์ในแบบสไตล์ Racing นั้นก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ท่านั่งที่เป็น Racing ช่วยในการเทโค้งลงได้อย่างมั่นใจ

พูดยากจริง กับ Sport Bike ทั้ง 2 รุ่นนี้ เอาเป็นว่าผมจะสรุปแบบสั้น ว่า Yamaha YZF-R3 เหมาะกับการเดินทางไกลลากคันเร่งยาวได้ ตามเพื่อน ได้สบาย และต้องเป็นผู้ที่มีทักษะพอควรเพื่อที่จะควบคุมรถ ลงสนามช้างหรือสนามที่มีแทร็กกว้างได้อย่างมั่นใจ สำหรับมือใหม่อยากเทโค้ง ส่วนของ Honda CBR250RR นี้เหมาะกับทั้งมือใหม่และมืออาชีพขับขี่สนุก แทบไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มเติม มีโหมดการขับขี่ให้เราได้ใช้กัน เดินทางออกทริประยะไกลได้แต่จะเป็นการเค้นกำลังในตัวเครื่องมากเกินไปแนะนำว่าให้เดินทางในระยะพอควรกับรถที่มีกำลังเครื่องยนต์ 249cc ถ้าหากจะให้ผมเลือกแล้วผมยกให้ Honda CBR250RR เป็น The Best รถ Sport Bike ในพิกัด 300cc เพราะเป็นรถที่ไม่แรงมากสามารถใช้เป็นรถขับซ้อมท่าทางและสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีเลยทีเดียว

ขยับขึ้นมากับ Super Sport คู่กัดคู่ฟัดตลอดกาล Yamaha YZF-R6 และ Honda CBR600RR ต้องบอกก่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสขับขี่ในรูปแบบ Racing Circuit จริง อาจจะไม่เต็มรูปแบบเหมือนกับ New Honda CBR600RR ต้องบอกว่าโมเดลนี้ทำทุกอย่างได้มาอย่างลงตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-wide โช๊คที่ให้มานั้นนิ่มมากเมื่อเจอลูกระนาดแบบต่อเนื่อง ตอนที่ผมได้ลองครั้งแรกนั้นก็มีความกลัวอยู่ไม่น้อยเลยว่าจะขี่ได้หรือไม่ คุมง่ายขับขี่ง่าย มือใหม่อยากลอง Super Sport 600cc ก็สามารถขับขี่ได้ สนามสั้น ก็ขับมันส์พอตัวเลย

Yamaha YZF-R6 สุดยอด Super Sport ที่มาพร้อมกับขุมกำลังที่ดิบเถื่อน แรงบิดและทอร์คต้นแที่แรงจัดและท่านั่งที่เป็น Sport Racing สายพันธุ์แชมป์ที่แท้จริง กดเข้าโค้งได้มันส์จนไม่อยากหยุดขี่ซึ่งในส่วนตัวเมื่อก่อนนั้นฝันอยากจะเป็นเจ้าของ Yamaha YZF-R6 สักคัน อยากลองขี่ในสนามสักครั้งแต่พอได้มาลองแล้วมันหยุดไม่ได้จริง บิดติดมืออยากขี่ต่อเรื่อย เป็น Endurance 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ถ้าให้พูดถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน Yamaha YZF-R6 ก็จะติดลำบากอยู่นิดหน่อยในเรื่องของท่านั่ง ด้วยความเป็น Sport จ๋า อาจจะทำให้ขับขี่ในช่วงของการจราจรที่ติดขัดนั้นไม่สะดวกมากเท่าไหร่ และคันเร่งที่ทอร์คจัด อาจจะมีปวดหรือเมื่อยบ้างเป็นบางครั้ง

ให้เลือกในการใช้งานทั่วไปแบบ Daily Uesd ผมแนะนำ Honda CBR600RR ความสมูทความนิ่มของคันเร่งมันตอบโจทย์กับมือใหม่เป็นอย่างมากรอบต้นไม่กระชากมากจนเกินไปเดินคันเร่งได้ตามใจต้องการราวกับอาหารตามสั่งเลยทีเดียวจะติดก็ตรงที่ว่าไม่ได้ในส่วนของ Quick Shifter มาให้จากโรงงานเพียงเท่านั้นส่วนตัวผมนั้นคิดว่าสเปกเท่านี้ก็เพียงพอต่อ Daily Ues แล้วครับ

สุดท้ายเลยกับรถมอเตอร์ไซค์ในพิกัด 1000cc ก็มีหลายโมเดลมากไม่ว่าจะเป็น Katana , CB1000RS , Africa Twin , V-Strom , MT-09 , MT-10 , YZF-R1 ,CBR1000RR-R แต่ละคันนั้นถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่รุ่นที่ผมจะหยิบยกมาชนกันนั้นก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยก็คือ Yamaha YZF-R1 และ Honda CBR1000RR-R จะพูดอย่างไรดีหละ คือมันดีจนอยากจะเก็บไว้ทั้งคู่เลยความสมูทของเครื่องยนต์ของเจ้า CBR1000RR-R นั้นมันก็ตอบโจทย์ในเรื่องของการใช้งานทั่วไปเป็นอย่างมากนำหนักเบา ควบคุมง่ายโช๊คไม่ดิ้นเวลาเข้าโค้งต่อเนื่องหรือเจอลูกระนาด Slalom ก็ทำได้ดีรถไม่ดีดเวลาพลิกไป มา แบบรวดเร็ว

ในส่วนของ Yamaha YZF-R1 นั้นที่มาพร้อมกับขุมพลัง Crossplane ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ R1 ทอร์คต้นให้มาแบบเต็มเหนี่ยว แรงจัด เปิดเป็นมา ถ้าสนามยาวกว่านี้ก็คงซัดได้มันส์กว่านี้แน่นอน เลี้ยวที่แคบรถมีความดูดโค้งยังพอคุมได้แต่ถ้ามือใหม่อยากลองเทโค้งหนัก ก็อาจจะไม่แนะนำมากเท่าไหร่เพราะอาจจะตกใจกับทอร์คที่หนักในช่วงต้นและอาจจะเกิดอาการ High Side ได้ง่าย

อย่าที่บอกไปข้างต้นว่าผมนั้นจะเลือกรถตาม Concept ของงานนั่นก็คือรถที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้ดีและใช้ไม่เบื่อ ก็คงต้องเลือก Honda CBR1000RR-R ด้วยการออกแบบดีไซน์ที่ใหม่ที่ดูสะดุดตาดูยังไงก็ละม้ายคล้ายกับ Gundam ที่กลายร่างมาอยู่ในรูปโฉมของรถมอเตอร์ไซค์ ดีไซน์สวย ควบคุมง่าย ขับขี่ง่าย นั่งสบาย มาพร้อมกับฟีเจอร์อย่างเต็มระบบแบบเดียวกับรถที่ใช้ในรายการแข่งขับ WSBK ในปี 2020 นี้ต้องยอมใหญ่คันนี้จริง

การเลือกรถที่ดีที่สุดของผมในครั้งนี้จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่นั้นจะเป็นรถในสไตล์ Sport ตามสไตล์ของชาว Mocyc.com นั้นมีพื้นฐานมาจาก Racing Style จะเล่นการขับขี่ในสนามเป็นส่วนใหญ่แล้วก็อยากจะได้รถดี ๆ ไว้ขับขี่บนท้องถนนด้วยเช่นกัน การเลือกรถที่ดีที่สุดครั้งนี้ก็จะมีความชอบส่วนตัวรวมกับการที่ได้ทดสอบเข้าไปด้วย ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ ชอบรถมอเตอร์ไซค์คันไหนเป็นพิเศษ เพราะอะไร ก็สามารถมาแชร์แบ่งปันประสบการณ์กับเราได้เช่นกัน

ขอบคุณทาง Grand Prix ที่ได้เชิญทาง Mocyc.com ได้เข้าร่วมทำการทดสอบและจัดนำรถให้มาทดสอบมากมายหลากหลายรุ่นเลยทีเดียว


ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : MocycThailand