ทริปทดสอบ ขับขี่ GPX LEGEND250TWIN II เที่ยวเส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งกระจาน
ทริปทดสอบ ขับขี่ GPX LEGEND250TWIN II เที่ยวเส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งกระจาน
ทริปนี้เป็นทริปที่กลุ่มพวกเราได้เที่ยวที่แก่งกระจานโดย GPX Legend 250 Twin II ที่พึ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ โดย GPX Legend 250 Twin II ได้ปรับเปลี่ยนภายนอกไปพอสมควรเลย ซึ่งต้องแอบบอกก่อนเลยว่า ทำให้ขับขี่ได้สบายมากยิ่งขึ้นมากเลย และแฮนด์บาร์เป็นแฮนด์ที่ผู้ใช้รถควบคุมรถง่ายที่สุดปลอดภัยที่สุดอีกด้วย โช้กหลังที่เป็นโช้กแก็สจาก YSS รุ่น G-Series ทำให้ฟิลลิ่งของการขับขี่เปลี่ยนไปอีกด้วย สิ่งที่เปลี่ยนไปอีก 1 อย่างก็คือ โซ่รถนั่นเองครับ ใช้ของ RK 520 แบบมีโอริง ทำให้เสียงโซ่เงียบขึ้น
ต้องบอกว่าทริปนี้เป็นทริปที่มีระยะทางไปกลับรวม 400++ กิโลเมตร ซึ่งได้ทุกอารมณ์ของการขับขี่เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นทางดำ ทางดินเล็กน้อย ขึ้นเขา รถติดในเมือง เรียกว่าแทบจะทุกสภาพการเดินทางเลยครับ และต้องบอกอีกว่า GPX Legend 250 Twin II ไม่ทำให้ผิดหวังกับการเดินทางไกล หรือการขับขี่ในเมืองเลย
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ พวกเราได้นัดเจอกันที่ Moto พระราม 5 ซึ่งเป็นสถานที่แรกเลยที่พวกเราได้พบกับ GPX Legend 250 Twin II ตัวจริงเป็นครั้งแรก ต้องบอกว่า ว้าวเลยครับ เพราะต่างไปจากเวอร์ชั่นแรกเป็นอย่างมาก เพียงแค่เปลี่ยนเป็นแฮนด์บาร์ทำให้หลายๆอย่างเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคันเลย เรามาเริ่มที่ท่านั่งกันก่อนเลยดีกว่าครับ ท่านั่งเป็นท่านั่งที่สบายขึ้นมาทันทีเมื่อเปลี่ยนเป็นแฮนด์บาร์ เท้าเหยียบได้เต็มเลย ซึ่งตัวผมสูง 177 เซ็นติเมตร อ่อต้องบอกว่าในส่วนของ GPX Legend 250 Twin II เขาได้เปลี่ยนเรื่องของเรือนไมล์ใหม่ที่เป็นแบบ Full Digital LCD Meter ที่มีสีสันสวยงามมากขึ้น ปลอกแฮนด์จับได้พอดีกับมือเลยที่สำคัญนิ่มมืออีกด้วย ช่วยลดอาการสั่นขึ้นมือมาได้พอสมควรเลยครับ ช่วงแรกที่เราออกจาก Moto พระราม 5 ต้องบอกว่าสภาพการจราจรค่อนข้างติดขัดเล็กน้อย ซึ่งเราก็ต้องทำการปรับตัวให้เข้ากับรถซะก่อน พอเริ่มชินต้องบอกว่า มุดง่ายเลย จุดหมายแรกที่เราจอดพักเพื่อพูดคุยกันถึงเส้นทางการเดินทางก็คือ Porto Go ท่าจีน
หลังจากที่เราแวะดื่มกาแฟพูดคุยถึงเส้นทางการเดินทางแล้ว พวกเราก็ได้ออกเดินทางต่อซึ่งจุดหมายที่สองของเราเนี่ย คือครัวย่าโรม ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เราแวะรับประทานอาหารกลางวันนั่นเอง
หลังจากที่เรารับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ได้ออกเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปของพวกเราก็คือ Little forest house cafe ระหว่างการเดินทาง เส้นทางการเดินทางเรียกว่าได้สัมผัสสภาพถนนที่เป็นทางดินบ้างเล็กน้อย เนื่องจากกำลังก่อสร้างทางอยู่ ช่วงล่างของตัวรถที่ได้อัพเกรดมาเป็น YSS รุ่น G-Series ต้องบอกว่าทำงานได้อย่างดีเลย ซึ่งค่าที่เซ็ทมาจากโรงงานพอดีกับตัวผมเลยครับ คนที่น้ำหนักเยอะกว่าผมก็สามารถเซ็ทค่าโช้กหลังได้โดยการปรับพรีโหลด ซึ่งเป็นการขันสปริงให้แข็งขึ้นนั่นเอง สำหรับช่วงล่างที่เป็นค่าจากโรงงานก็รู้สึกว่าตอบโจทย์สำหรับตัวผมได้ดีเลย ไม่แข็งจนเกินไปอีกด้วย สำหรับสายคลาสสิคต้องบอกว่า การเดินทางออกทริปแบบนี้ความเร็วที่กำลังสนุกที่ไปกันเป็นกลุ่มได้คือยืนพื้นสักประมาณ 100-110 กิโลเมตร/ชั่วโมงกำลังดีเลยครับ ถ้าถามว่า Top Speed ที่ทำได้เท่าไหร่ ผมต้องบอกว่า เนื่องด้วย GPX Legend 250 Twin II เป็นรถแนวคลาสสิคทำให้ต้านล้มเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ความเร็วที่ทำได้อยู่ที่ 139 กิโลเมตร/ชั่วโมงเลยครับ
เมื่อเราเดินทางถึงร้าน Little forest house cafe พวกเราก็ได้สั่งเครื่องดื่มเย็นๆให้ชื่นใจ ร้านนี้ต้องบอกว่า สำหรับสายคลาสสิคสายฮิปเตอร์ถูกใจอย่างแน่นอน หลังจากที่พักเอาแรงช่วงบ่ายไปแล้ว พวกเราก็ได้เดินทางกันต่อไปยังสันเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งเวลาที่เราเดินทางมาถึงก็เป็นเวลาช่วงเกือบๆเย็นแล้ว บรรยากาศที่นี่ต้องบอกว่าร่มรื่นมากๆเลยทีเดียว ลมโกรกตลอดเวลา แต่พวกเราก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
เมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้ว พวกเราก็ได้เดินทางไปยังที่พักของพวกเรา นั่นก็คือ The Krajom แก่งกระจานเพรชบุรี สถานที่เราไปพักต้องบอกว่าเป็นอีกที่ที่มีชื่อเสียงของที่นี่เลย เพราะเป็นที่พักสไตล์แคมป์ปิ้ง มีลานกองไฟ เรียกว่าได้ฟิลลิ่งของการตั้งแคมป์มาเต็มมากๆเลยครับ
เช้าวันต่อมาพวกเราก็ได้เดินทางกลับซึ่งจุดหมายแรกของพวกเราไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ นั่นก็คือร้าน ต้นไม้ใบหญ้า ที่นี่มีจุดเด่นก็คือ วิว 180 องศา ที่เราสามารถเห็นภูเขาได้อย่างสบายๆ
หลังจากออกจากร้านกาแฟมา พวกเราก็ได้เดินทางกันต่อไปยัง ร้าน ยุ้งเกลือบ้านแหลม เส้นทางที่นี่สองข้างทางเรียกได้ว่าเป็นนาเกลือเลยครับ ร้านนี้เป็นร้านที่เรารับประทานอาหารกลางวัน หลังจากพักผ่อนเสร็จแล้ว พวกเราก็ได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ โดยจุดหมายปลายทางของผมก็คือ ศูนย์บริการ GPX ประชาอุทิศนั่นเอง ระหว่างทางเรียกได้ว่าเป็นการทดสอบเครื่องยนต์โดยการวิ่งรอบสูงแบบไกลๆเลยทีเดียว เพราะเราวิ่งเส้นพระราม2 นั่นเอง ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกว่าแช่ยาวๆกันเลยครับ ซึ่งต้องชมว่าเครื่องยนต์ของ GPX Legend 250 Twin II ระบายความร้อนได้ดีเลย ซึ่งการระบายความร้อนของตัวรถเป็นแบบ ออยด์คลูเลอร์ นั่นเอง สำหรับเครื่องยนต์ของ GPX Legend 250 Twin II เป็นเครื่องยนต์ขนาด 234cc 2 สูบเรียง เกียร์ 6 สปีด มีแรงม้าอยู่ที่ 16 แรงม้า ที่รอบ 8,500 รอบ/นาที ทอร์กอยู่ที่ 15 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 6,500 รอบ/นาที เรียกว่าเร่งแซงตอนไหนก็สั่งได้ดั่งใจเลย เบรกหน้าเป็นแบบดิกส์เบรกแบบคู่ที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 276 มิลลิเมตร เบรกหลังเป็นแบบดิกส์เบรก ที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 220 มิลลิเมตร เบรกเอาอยู่อย่างแน่นอน ล้อหน้า และล้อหลังมีขนาด 17 นิ้ว ยางหน้ามีขนาด 110/90 ยางหลังขนาด 130/90 ทั้งยางหน้าและยางหลังเป็นแบบ Tubeless ถังน้ำมันขนาด 14.5 ลิตร ใหญ่สะใจสำหรับสายเดินทางเลย น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 156 กิโลกรัม
สรุปแล้ว GPX Legend 250 Twin II เป็นรถสายคลาสสิคที่เหมาะสำหรับคนมีสไตล์เป็นอย่างมาก ช่วงล่างที่ได้รับการอัพเกรดมาก็แจ่ม อัตราเร่งก็สั่งได้ดั่งใจ เครื่องยนต์กำลังดีไม่มากไม่น้อยเกินไป ยิ่งถ้าขับขี่เป็นกลุ่มรับรองเท่ห์ระเบิดเลยครับ
GPX Legend 250 Twin II มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สีด้วยกัน ได้แก่ SILVER SPACE เฉดสีเทาเงา (ล้ำลึกด้วยส่วนผสมของ Mica Pigment ให้ประกายสีรุ้ง)
BLACK PHOENIX เฉดสีดำเงา (ล้ำลึกด้วยส่วนผสมของ Glass Flakes ที่ให้ประกายสีแดง)
MATT BLACK PHOENIX เฉดสีดำด้าน (ล้ำลึกด้วยส่วนผสมของ Glass Flakes ที่ให้ประกายสีแดง)
สำหรับราคาแนะนำขายของ GPX Legend 250 Twin II อยู่ที่ 81,900 บาท สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูตัวจริงได้ที่ ศูนย์ GPX ใกล้ๆบ้านได้เลยครับ หรือสามารถดูข้อมูลรถเพิ่มเติมได้ที่ www.gpxthailand.com
ขอขอบคุณ GPXThailand มากๆครับ ที่ชวนพวกเราทีมงาน Mocyc.com ไปทริปในครั้งนี้
ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : MocycThailand