ใช้งานจริงทริป 7 วัน 6 คืน จากเขาสู่ทะเลกับ Lambretta V200

ใช้งานจริงทริป 7 วัน 6 คืน จากเขาสู่ทะเลกับ Lambretta V200

 

ก็จบกันไปแล้วทริปของการ ลาพักร้อน ไป On Tour กับ Lambretta ก็ถือว่าเป็นทริปการเดินทางที่แสนยาวนานของพวกเราเลยก็ว่าได้ ใครจะไปคิด ว่ารถทรงคลาสสิกแบบนี้จะสามารถเดินทางได้ไกลตั้งแต่ เชียงใหม่ไปถึงพัทยากันเลย

และในครั้งนี้ผมเองก็จะมาเล่าในเรื่องของการใช้งานจริง ๆ ตลอดทริป 7 วัน 6 คืนของพวกเราว่าเจ้า Lambretta V200 นี้ใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง เหมาะกับการใช้งานแบบไหนอย่างไร มีอะไรบ้าง ไปชมกัน

 

1.ดีไซน์คลาสสิกผสมผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัว

 

ขึ้นชื่อว่าเป็นรถสไตล์คลาสสิกและเป็นรุ่นนิยมในกลุ่มวัยรุ่นสมัยก่อน ทีแรกตัวผมเองก็ไม่ได้อินอะไรมากับมอเตอร์ไซค์ทรงคลาสสิกคันนี้ แต่พอได้ลองขับขี่ไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ซึ่งส่วนตัวผมเองชอบถ่ายรูปเป็นประจำอยู่แล้ว เวลาถ่ายรูปรถและสถานที่นั้น ๆ จะรู้สึกว่ามันสวยเอามาก ๆ จะเห็นได้ว่าการออกแบบของทาง Lambretta เองเขาออกแบบมาได้ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว นำไปจอดถ่ายรูปไหน ๆ ก็สวยทุกมุมในสายคลาสสิกคันนี้

 

2.แรงเหลือ ๆ ไปได้เรื่อย ๆ

 

Lambretta V200 เป็นเครื่องยนต์ 168.9cc 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ กำลังอัดอยู่ที่ 10.2:1 13 แรงม้า (8.9 กิโลวัตต์) ที่ 7,500 รอบ/นาที ตั้งแต่ช่วงภาคเหนือส่วนใหญ่จะเป็นป่าเขาทางในการเดินทางก็จะมีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลา รอบต้นเร่งเป็นมา ไม่ถึงกับว่าจะกระชากมากมายแต่ขึ้นเขาชันสามารถวิ่งขึ้นได้เรื่อย ๆ ไม่มีปัญหาถือว่าใช้ได้เลยครับ

 

 

 

3.เยอะเท่าไหร่ก็มาได้เลย

 

พื้นที่เก็บของเรียกว่าใส่ของได้อย่างจุใจเลย พวกเราเอกก็ได้เดินทางเป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็ม ๆ สัมภาระก็เยอะใช่เล่นเลย Lambretta ก็ได้ออกแบบมาบรรจุของได้มากไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่พักเท้า ใต้เบาะ แถมยังมี Option เสริมขึ้นมาอีกอย่างเช่น แหล็กหน้าและท้าย ที่เป็นอุปกรณ์เสริมสามารถใส่ของได้อีกเพียบ

 

4.การเดินทางระยะไกล

 

ทำออกมาได้ดีมากสำหรับผู้ที่หลงใหลความ Slow Life ค่อย ๆ ไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อนกินลมชมวิว ทั้ง 2 ข้างทางไม่ว่าจะเป็นภูเขาหรือทะเล เครื่องยนต์มีความทนต่อการใช้งานเป็นระยะเวลานาน ไม่มีสะดุดระหว่างทางเลย แถมยังประหยัดน้ำมันมาก ๆ อีกด้วย การขับขี่ของพวกเราที่ไกลที่สุดต่อ 1 วันก็คงจะเป็นทริป พิษณุโลก-สุพรรณบุรี ที่จะต้องผ่าน 3จังหวัด พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี บอกได้เลยว่าใครที่ได้ขับเจ้า Lambretta V200 ออกไปเที่ยว ได้อารมณ์คลาสสิกอย่างเต็มรูปแบบแน่นอน

 

5.ใช้งานทั่วไปก็ดี

 

ในช่วงที่พวกเราได้ถึงที่พักนั้น ก็ได้มีโอกาสได้ทดสอบกับการใช้งานในเมืองทั่วไปอย่างเช่นออกไปหาอะไรทาน หรือจะขับรถชมความงามภายในเมือง ก็ทำออกมาได้ตอบโจทย์มาก ๆ ด้วยน้ำหนักของตัวรถเพียง 134กิโลกรัม และยังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ดีเวลาเข้าโค้งหนัก ๆ รถก็ไม่ดิ้นมากยางหน้ามีขนาด 110/70-12/Cast 12 in และยางหลัง 120/70-12/Cast 12 in ความสูงจากเบาะถึงพื้น 800มม. ถือว่าทำออกมาได้เหมาะกับสรีระชาวเอเชียอย่างเรา ๆ เลยทีเดียว U-Box ใต้เบาะมีขนาดลึกสามารถบรรจุของได้เยอะ พูดง่าย ๆ คือพื้นที่ยังเหลือ ๆ

 

 

สรุปโดยรวมของเจ้า Lambretta V200 จากการใช้งานจริงตลอด 7 วัน 6 คืน เป็นรถที่เหมาะกับคนที่ชอบการเดินทางไกล ไม่รีบเร่ง วิถีชีวิต Slow Life วิ่งกันยาว ๆ เพราะประหยัดน้ำมันมาก ๆ สามารถใส่สัมภาระได้เยอะ จุใจถ้าหากมีอุปกรณ์เสริมอย่างเช่น แหล็ก หน้า-หลัง 7 วัน 6 คืน ก็ถือว่าเป็นเรื่องสบาย ๆ เลย เครื่องยนต์ทนมาก ๆ ต่อการวิ่งไกล ๆ 1 ครั้ง ถ้าหากใครขัดใจในความเร็วก็สามารถเอาไปปรับองศาหน้าชามและไล่เม็ดตามสเต็ปที่ต้องการได้เลย ถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับขี่สนุกไม่น้อยเลยทีเดียว

 

ถ้าหากใครสนใจเจ้า Lambretta V200 เป็นพิเศษ สามารถเข้าชมรายละเอียดได้ที่ทาง : https://www.lambrettaallride.com/motorcycles/lambretta-v200-special/

 

หรือติดตามการเดินทางของพวกเราได้ที่ทาง Youtube Chanel ที่ : https://www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg


ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : MocycThailand