Review : Mio 125 แรงเิกินซีซี
new Mio 125 แรงเกินซีซี มาคราวนี้ได้สัมพัสตัวเป็นๆกับรุ่นที่เอามารีวิวให้ชมกันเป็นรุ่น RR สีแดง ความพิเศษของสีนี้อยู่ที่ชุดบังโคลนด้านหลังล้อหน้าจะเป็นสีแดงยาวไปถึงใต้ ท้องรถ และยังมีอีกรุ่น GT สีน้ำเงิน-เทา-ดำ ที่แฟริ่งใต้เบาะจะเป็นน้ำเงิน เมื่อแรกเห็นสะดุดตากับชุดไฟหน้าโดดเด่นด้วยไฟหน้าคู่ เสริมความเท่ด้วยไฟหรี่ด้านบน แบบ Blue lens ไฟท้ายทรงสปอร์ตเรียวสวยงาม ช่องวางของด้านหน้า ลึกกว่าเดิมจุของได้มากขึ้น
ชุดสวิตย์ไฟต่างๆ เป็นของเดียวกับมีโอ2009 แต่ไม่มีมือเปิดโช้คเพราะมีโอ125 ใช้เป็นโช้คไฟฟ้า ส่วนปะกับคันเร่งก็เป็นแบบ 2 สาย เพราะคาร์บูฯที่ใหญ่ และป้องกันการล็อคของลิ้นเร่งและมีอายุการใช้งานมากกว่าปะกันสายเดียว ระบบกันสะเทือนหน้าออกแบบใหม่ให้ตำแหน่งแกนล้ออยู่ด้านหลัง ส่วนคาร์ลิปเปอร์ยังเลือกใช้เป็นลูกสูบเดียวกับจานเบรคขนาด 200mm เพื่อสั่งห้ามล้อหน้าด้านล้อหลังยังคงใช้เป็นดรัมเบรคเหมือนเดิม ดุมหน้าหลังยังเป็นของชุดมีโอ
เบาะนุ่มกระชับเท่ที่ตะแขบริมแดง พักเท้าหลังแยกส่วน ด้านแคล้งสายพานสีดำเงาขาสตาร์ทยาวกว่าเดิมเพราะซีซีที่มากขึ้น และขาตั้งข้างออกแบบใหม่ใช้แรงน้อยในการตั้ง ส่วนหม้อน้ำมีแผ่นยางเปิดครอบไว้เพื่อความปลอดภัยและกำหนดการไหลของอากาศ ร้อยที่ออกจากหม้อน้ำ ติดกับหม้อน้ำเป็นช่องมองระดับน้ำยาหล่อเย็น การ์ดกันหม้อน้ำไว้อีกด้วย ด้านท่อไอเสียขนาดใหญ่ซึ่งมาพร้อมกับชุดสวิงอาร์มหลังมารับน้ำหนักของท่อไอ เสียและเสริมความแข็งแรงของล้อหลังด้วย
เริ่มทดสอบขับขี่ เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์กดเพียงครั้งเดียวก็ติดเครื่องได้อย่างง่ายดาย เครื่องยนต์เดินเรียบ เมื่อลองขับเร่งแซงได้ดังใจไม่ต้องรอรอบ บิดติดมือเลยก็ว่าได้ออกตัวดีเหมาะสำหรับใช้งานในเมืองที่ต้องการความเร่ง รีบ หรือจะเข้าช่องซอกแซกเวลารถติดก็ง่ายดาย จะแซงตอนไหนก็เพียงบิดคันเร่งเบาๆ ก็แซงได้สบาย ระดับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแต่สภาพถนนและคนขับ
สวยสะดุดด้วยไฟหน้าคู่
สวยงามทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
ภาพบน ไฟหรี่แยกส่วนแบบ Blue lens
ภาพล่าง ชุดเรือนไมค์มองเห็นชัดเจน
ภาพบน ลายกราฟฟิคที่ฝาครอบแบต
ภาพล่าง ไฟหน้าสว่างกว่าเดิม มองเห็นได้มากกว่า 50 เมตร
ภาพที่ 1 ปะกับคันเร่ง 2 สาย ป้องกันลิ้นเร่งค้างและทนทานกว่าแบบสายเดี่ยว เท่แบบรถสปอร์ต
ภาพที่ 2 คาร์ลิปเปอร์ลูกสูบเดียว
ภาพที่ 3 กระบอกโช้คหน้าทรงใหม่ย้ายตำแหน่งแกนล้อไว้ด้านหลัง
ภาพที่ 4 ชุดตลับไมค์แบบเดิมไม่ได้เปลี่ยน
ภาพที่ 5 แผ่นวางเท้าขนาดใหม่นั่งสบาย
ภาพที่ 6 ขาตั้งคู่ออกแบบใหม่ใช้แรงน้อย
ภาพที่ 7 ระบบกุญแจนิรภัยใหม่ และเปิดใต้เบาะได้จากตำแหน่งนี้
ภาพที่ 8 ปิดล็อครูกุญแจด้วยปุ่มอัตโนมัติ
ภาพบน แคร้งสายพานออกแบบใหม่
ภาพล่าง ระบบเบรคหลังมือลิงเบรคหลัง
ภาพบน โดดเด่นด้วยชุดไฟท้ายแบบสปอร์ต
ภาพล่าง ลายกราฟฟิคใหม่ พร้อมมือจับสีแดง เสริมความเท่ด้วยผ้าหุ้มเบาะริมแดง
ภาพที่ 9-10 ไฟท้ายแบบสปอร์ต
ภาพที่ 11 ช่องเติมน้ำมันเฟืองท้าย ขนาด 200 cm3
ภาพที่ 12 ระบบบำบัดไอเสีย และแผ่นยางเปิดฝาหม้อน้ำเพื่อความปลอดภัย
ภาพบน ช่องเก็บของขนาดใหญ่ 12.8 ลิตร
ภาพล่าง เครื่องมือที่จำเป็น
ภาพที่ 13 สติ๊กเกอร์ชนิดน้ำมัน พร้อมแผ่นยางรองกันน้ำมันหก
ภาพที่ 14 รูน้ำมันไหลทิ้ง
ภาพที่ 15 สลิงดึกเปิดเบาะยาวมาจากสวิชย์กุญแจ เปิดเบาะจากจุดเดียว เท่กว่า
ภาพที่ 16 บังโคลนหน้า เปิดให้อากาศไหลผ่าน
ภาพบน ท่อไอเสียขนาดใหญ่
ภาพซ้าย ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ
ภาพขวา คอล์ยหัวเทียน ย้ายตำแหน่งใหม่มองเห็นชัด แต่กลัวมีคนมาถอดสายไฟเขาคอล์ยเล่นจังเลย
ภาพซ้าย โช้คอัพหลังสปริงสีขาว
ภาพขวา เสริมความแข็งแรงด้วยสวิงอาร์มหลัง
ภาพบน ช่องมองระดับน้ำยาหล่อเย็น
ภาพซ้าย ระดับน้ำยาหล่อเย็น F และ L
ภาพขวา การ์ดกันหม้อน้ำ
ภาพบน มีโอ125 ใช้ระบบโช้คไฟฟ้า
ภาพกลาง ตำแหน่งของน็อตเปิดดูแบตฯ
ภาพล่าง ตำแหน่งของน็อตถอดดูแบตฯ
ภาพที่ 17 ตำแหน่งน็อตด้ายซ้าย
ภาพที่ 18 ตำแหน่งน็อตด้ายขวา
ภาพที่ 19 ตำแหน่งน็อตใต้ไฟหน้า
ภาพที่ 20 ตำแหน่งกึ่งกลางยึดแฟริ่งปิดแบต
ตำแหน่งของระบบไฟทั้งหมด
ภาพบน จอดถ่ายหลังจากทดสอบขับด้วยความเร็วสุงสุด 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วนี้ขึ้นอยู่กับสภาพถนนและคนขับ
ภาพล่าง จอดให้ช่างซ่อมได้ลองทดสอบ
ขอขอบคุณ บริษัทกิจตรงยามาฮ่า จังหวัดอุบลราชธานี ที่เอื้อเฟื้อรถในการรีวิว ในครั้งนี้