ความสำเร็จของ ? Yamaha Thailand Racing Team? กับ YZF ? R6 |

 

ความสำเร็จของ “ Yamaha Thailand Racing Team” กับ YZF – R6

หลังจากที่จบการแข่งขันรายการ Asia Road Racing สนามที่3 แข่งขันกันที่สนาม ช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามนี้แข่งด้วยกันทั้งหมด 2 เรซ ซ่งแน่นอนครับว่า ทาง Yamaha Thailand Racing Team ได้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันในครั้งนี้ และก่อนหน้านี้อีกสองสนามก็ได้ประสบความสำเร็จเช่นกัน แน่นอนว่าในรุ่น SS600 “ต๋ง พีระพงศ์ บุญเลิศ”

 

 

เก็บชัยชนะรวดเดียว ทั้ง 3 สนามเลย ชนะการแข่งขัน 6 เรซ ทำให้คะแนนนำโด่งกันเลยทีเดียว เป็นชัยชนะแบบ 100 %  และ Yamaha YZF – R6 ที่ใช้ในการแข่งขันในครั้งนี้ก็เป็นรถในตระกลู 600 ที่ตอนนี้เรียกได้ว่า ฮ๊อตที่สุด ณ.ตอนนี้เลยก็ว่าได้ครับไม่ว่าจะเป็นรูปร่างรูปทรง ความสวยงาม ความแรง และที่สำคัญ เทคโนโลยีที่ติดมากับรถ เรียกว่าให้มาคุ้มจริงๆครับ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 599 ซีซี (วาล์วเป็นวาล์วไทเทเนียม) ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ DOHC 4 สูบเรียง 4 วาล์ว ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก 67.0 มม.x 42.5 มม. อัตราส่วนการอัด 13.1:1 มีความเร็วสูงสุด 118.4 แรงม้าที่ 14,500 รอบต่อนาที มีแรงบิด 61.7 นิวตันเมตรที่ 10,500 รอบนาที ระบบเกียร์ 6 เกียร์ ระบบจุดระเบิดแบบดิจิตอล ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นรถที่โครตเทพเป็นอย่างมากสำหรับรถ 600 cc. เหลือการแข่งขันอีกครึ่งทาง สำหรับ “ต๋ง พีระพงศ์ บุญเลิศ“ อนาคตแชมป์ ในรายการนี้อยู่แค่เอื้อมจริงๆครับ เรียกได้ว่าเก็บชัยชนะในโฮมเรซทั้งสองเรซได้อย่างยอดเยี่ยมเลย

 

 

สำหรับปีนี้ทาง Yamaha Thailand Racing Team ก็ได้ส่ง แสตมป์ - อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ #24 แท็กทีม โฟลท - รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ #56 ลงควบรถแข่ง YZF-R1 ลงแข่งในรุ่น ASIA SUPERBIKE 1000cc ปีนี้เป็นปีแรกที่มีรุ่น 1000 cc. เข้ามา

 

 

แสตมป์ - อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ ก็ได้คว้าที่ 3 ได้ทั้งสองเรซ ต้องบอกก่อนว่ารุ่นนี้หินจริงๆครับ แต่ YZF-R1 ก็เป็นรถที่มีเทคโนโลยีของ Moto GP เข้ามา และได้รับการอัพเกรดระบบ Quick Shift System หรือระบบควิกชิพเตอร์ จากเดิมที่ไม่ต้องกำคลัทช์ตอนสับเกียร์ขึ้น (upshifts) ปี 2018 ได้เสริม Auto Blipper คือไม่ต้องกำคลัชท์ตอนลดเกียร์ลง (downshifts) ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานของรถสมัยใหม่ไปแล้ว โดย ECU จะทำการตรวจจับกับความเร็วของเครื่องยนต์อัตโนมัติ เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล และไวมากยิ่งขึ้น ทำให้เพิ่มความมันส์ในการขับขี่มากขึ้นด้วย YZF-R1 ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 998 cc 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมแรงม้า 200 ตัวที่ 13,500 รอบ/นาที ทอร์คอยู่ที่ 112 นิวตัน-เมตรที่ 11,500 รอบ/นาที ก้านสูบไทเทเนียม น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งติดตั้ง Inertial Measurement Unit(IMU) วัดมุมองศา 6 แกน เรียกได้ว่าแรงและหล่อตั้งแต่ออกโรงงานมากันเลยทีเดียว

 

 

สำหรับรุ่นเล็กอย่าง ASIA PRODUCTION 250cc ที่มีนักบิดเลือดใหม่อย่าง มอส-สุทธิภัทร พัชรธร #86 และโฟลค-สวพล นิลพงษ์ #56  เข้าทำการแข่งขัน

 

 

รุ่นนี้เองทาง Yamaha Thailand Racing Team ก็ได้เก็บแต้มอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ในปี 2017 แสตมป์ - อภิวัฒน์ วงศธนานนท์ #24 ได้ทำการคว้างแชมป์ในรุ่นนี้มาแล้ว และรถที่ใช้ในการแข่งขัน ก็คือ YZF-R25 แต่ในประเทศไทยเราได้มีการจำหน่าย YZF-R3 ซึ่งมีความแรงอาจจะน้อยกว่า YZF-R25 แต่ยังไงก็คงความเป็นสปอรต์และความเร้าใจไว้เหมือนเดิม YZF-R3 DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 321 ซีซี 42 แรงม้า สูบคู่ 4 จังหวะ พร้อมเกียร์สปอร์ต 6 สปีด ปีนี้เองในรุ่น AP 250 ต้องให้กำลังใจน้องๆและเก็บไว้เป็นประสบการณ์ ปีหน้าอาจจะคว้าแชมป์ก็เป็นได้ 

 

 

นี่แหล่ะครับคือความสำเร็จของ Yamaha Thailand Racing Team ที่ได้มอบความสุขให้กับคนไทยในการชนะในโฮมเรซ เหลือเส้นทางการต่อสู้อีกครึ่งหนึ่งเรามาร่วมส่งแรงใจเชียร์ให้ทีมชาติไทยของเราได้แชมป์เอเชียกันครับ