ร่วมทำบุญ 9 ปี Mocyc.com กิจกรรมดีๆแถมได้บุญ | ทำบุญ,คาราวาน

กิจกรรมทำบุญครบรอบ 9 ปี Mocyc.com

     กิจกรรมดีๆเพื่อสังคม ทางเว็บไซต์ Mocyc.com ได้จัดขึ้นทุกๆปี ซึ่งกิจกรรมมากมายที่ผ่านมาเช่น กิจกรรมบริจาคคอมพิวเตอร์เพื่อน้องผู้ยากไร้ , กิจกรรมเลี้ยงอาหารเด็กยากไร้ต่างๆ และกิจกรรมอีกมากมายที่ได้จัดขึ้นทุกๆปลายปี และในปีนี้ทางเว็บไซต์ Mocyc.com ก็อยากจะเชิญชวนผู้มีเมตาจิตร่วมทำบุญร่วมกัน เนื่องในโอกาสที่เว็บไซต์ Mocyc.com เปิดให้บริการมาครบ 9 ปี

     โดยในปีนี้ทางเว็บไซต์ Mocyc.com มีโครงการทำบุญร่วมสร้างอุโบสถ ณ วัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 50 กิโลเมตร โดยจะร่วมถวายปัจจัยในการสร้างอุโบสถ และ เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆภายในวัด

     และทางเว็บไซต์ Mocyc.com ก็ยังรับบริจาค เสื้อผ้า ของใช้ ของเล่น อุปกรร์กีฬา และ อุปกรณ์การศึกษา เพื่อนำไปบริจาคให้กับเด็กผู้ยากไร้ดังเช่นทุกๆปี โดยการเดินทางจะขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นคาราวานไปทำบุญ โดยไม่จำกัดประเภทรถ และ ยี่ห้อ เพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีในกลุ่มสมาชิกเว็บไซต์และผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ทุกๆคน

     การร่วมบุญสร้างอุโบสถ โบราณว่าไว้ว่า "จักได้บุญมหาศาล"



กำหนดการ

     ออกเดินทาง วันเสาร์ที่ 28 พย. 2552 เวลา 9.00 น.
     รวมตัวกันที่ ลานจอดรถยามาฮ่าสแคว์ เจริญมอเตอร์ ด้านข้าง เซ็นทรัลกาดสวนแก้ว เชียงใหม่


     * มีเสื้อแจ๊คเก็ตแจกให้ ของฮอนด้าประมาณ 20 ตัว และ ของยามาฮ่าประมาณ 50 ตัว
     ลงทะเบียนเพื่อรับเสื้อมาก่อนได้ก่อน หมดแล้วหมดเลยครับ




ปัจจัยที่ต้องการในการร่วมทำกิจกรรม


     ตามจิตศรัทธา และ ตามความต้องการของผู้ร่วมทำบุญ โดยจะแบ่งออกได้ดังนี้
  1. เงินในการร่วมทำบุญในการสร้างอุโบสถ และ ค่าใช้จ่ายต่างๆในวัด
  2. เสื้อผ้า ของใช้ ของเล่น อุปกรร์กีฬา และ อุปกรณ์การศึกษา เพื่อบริจาคให้สถานสงเคราะห์เด็กต่างๆ
  3. สิ่งของอื่นๆตามจิตศรัทธา และ เห็นสมควร

กิจกรรมในภาคค่ำ

     หลังจากไปทำกิจกรรมทำบุญร่วมกัน ในตอนเย็นจะเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ โดยเป็นกิจกรรมขอบคุณผู้ร่วมคาราวาน และ สมาชิกที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม โดยจะมีการแจกของชำร่วยต่างๆ รวมไปถึง ของรางวัลที่ได้รับสนับสนุนจาก บริษัท , ห้างร้านต่างๆ ที่ได้ส่งมาร่วมสนับสนุนกิจกรรม

     18.00 น. พบกันที่ร้าน น้ำแม่ปิง (ติดกับโรงเรียน เชียงใหม่คริสเตียน)
     http://www.nammaeping.com/






ที่อยู่รับของบริจาค และ บัญชีที่รับบริจาค


     ท่านที่มีของใช้ที่ต้องการบริจาคสามารถส่งมาได้ที่
     Mocyc.com  161 หมู่ 3 ต.หนองตอง  อ.หางดง  จ.เชียงใหม่ 50340

     ท่านที่ต้องการร่วมบริจาคเงินสามารถโอนเข้าบัญชี ดังกล่าว
     1. ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาย่อยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
     ชื่อบัญชี อัษฎา อินต๊ะ
     บัญชี ออมทรัพย์ เลขที่ 667-2-18553-3

     2. ธนาคาร กรุงเทพ สาขา เทสโก้โลตัส หางดง
     ชื่อบัญชี อัษฎา อินต๊ะ
     บัญชี ออมทรัพย์ เลขที่ 621-0-01523-3

     ท่านที่โอนเงินเพื่อร่วมทำบุญ กรุณาโทรแจ้งด้วยนะครับที่เบอร์ 081-5953391 หรือ 085-6220007



ผู้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้

  • Ride It - Ride It Forever
    สนับสนุนของชำร่วย และ ของแจกในกิจกรรมภาคค่ำ และสนับสนุนเงิน 2,000 บาท
  • AP Honda
    สนับสนุนเสื้อแจ๊คเก็ตสำหรับผู้ร่วมคาราวาน และ เลื้อยืดโปโล
  • Thai Yamaha Motor
    สนับสนุนเสื้อแจ๊คเก็ตสำหรับผู้ร่วมคาราวาน และ ของแจกในกิจกรรม
  • PShop เชียงใหม่
  • เซน มอเตอร์ เชียงใหม่
  • โซ่ไดอิชิ (บริษัทไทยมอเตอร์เชนจำกัด)
    สนับสนุนของชำร่วย และของแจกในกิจกรรมภาคค่ำ
  • บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด(มหาชน)
    สนับสนุนของชำร่วย และของแจกในกิจกรรม
  • เจริญมอเตอร์ เชียงใหม่
    สนับสนุนเงิน 5,000 บาท ในการจัดกิจกรรม และ เอื้อเฟื้อสถานที่ในการรวมตัวขับขี่คาราวาน
     บริษัท , ห้างร้าน , หรือ ชมรมมอเตอร์ไซค์ไหนที่ต้องการร่วมสนับสนุนกิจกรรม หรือ เข้าร่วมกิจกรรม สามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 081-5953391 คุณ แจ๊ก หรือ 085-6220007 แม็คเว็บมาสเตอร์ ครับ








ที่ตั้ง

"พระพุทธบาทสี่รอย" แห่งวัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

ประวัติและที่มาของวัด พระพุทธบาทสี่รอย



เมื่อ ครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ได้เสด็จจาริกประกาศธรรม และโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจันตประเทศ ( ประเทศไทยปัจจุบัน ) จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศชื่อ เขาเวภารบรรพตซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก 500 องค์และได้ แวะฉันจังหันอยู่บนเขาเวภารบรรพตแห่งนี้ เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จขณะประทับอยู่ที่นั้นก็ได้ทราบด้วยญาณ สมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ได้มีรอย พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินใหญ่ คือ พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระ พุทธบาทแห่งพระ พุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ พระพุทธเจ้ากัสสปะ อันมีในที่นี้พุทธสาวกทั้งหลายมีพระสารีบุตรเป็นประธาน เมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่าพระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด



             พระพุทธองค์ตอบว่า ดูก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้ แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ที่ ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ทุกๆพระองค์ และแม้นว่าพระศรีอาริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ และ จักรประทับรอยพระบาทสี่รอยนี้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว ( คือ ประทับลบทั้งสี่รอยให้เหลือรอยเดียว ) เมื่อพระพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลายเสร็จแล้วพระ องค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์จึงกําเนิดเป็นพระ พุทธบาทสี่รอย เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาท ของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์นั้นแล้วก็ทรงอธิฐานว่า ในเมื่อกูตถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็จักนําเอาพระ ธาตุของกูตถาคมมาบรรจุไว้ที่รอยพระบาทที่นี่


พระพุทธรูป พุทธศิลป์แบบศิลปะล้านนาในพระอุโบสถ วัดพระพุทธบาทสี่รอย จ. เชียงใหม่

             ในเมื่อกูตถาคตนิพพานไปแล้ว 2,000 ปี พระพุทธบาทสี่รอยนี้ก็จักปรากฏแก่ปวงคนและเทวดาทั้งหลาย ก็จักได้มาไหว้และบูชา เมื่อทรงอธิฐานและทํานายไว้ดังนี้แล้ว พระพุทธองค์ก็เสด็จไป เชตวันอารามอันมีในเมืองสาวัตถีวันนั้นแล เมื่อพระพุทธเจ้าทรงนิพพานไปแล้วเทวดาทั้งหลายก็นําเอาพระธาตุของพระ พุทธองค์มาบรรจุไว้ที่พระพุทธ บาทสี่รอยเมื่อพระพุทธองค์นิพพานล่วงแล้วประมาณ 2,000 วัสสา เทวดาทั้งหลายต้องการอยากให้พระพุทธบาทสี่รอยปรากฏแก่คนทั้งหลายตามที่พระ พุทธองค์ทรงอธิฐานไว้ก็จึงเนรมิตเป็นรุ้งตัวใหญ่ ( เหยี่ยว ) ก็บินลงจากภูเขาเวภารบรรพตอันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยในปัจจุบันนี้ เพื่อบินลงไป เอาลูกไก่ชาวบ้าน ( คนป่า )ที่อยู่ตีนเขาเวภารบรรพต แล้วก็บินกลับขึ้นไปอยู่ยอดเขา มันก็โกรธมากจึงตามขึ้นไปคิดว่าจะยิงเสียให้ตาย มันก็ติดตามไป ค้นหาดูแต่ก็ไม่เห็นรุ้งตัวนั้นอีก แต่เห็นรอยพระพุทธบาทสี่รอยอันอยู่พื้นต้นไม้และเถาวัลย์ พรานป่าผู้นั้นก็ทําการสักการะบูชา เสร็จแล้วก็ลงจากภูเขา พอมาถึงหมู่ บ้านก็เล่าบอกแก่ชาวบ้านทั้งหลายฟังความอันนั้นก็ปรากฏสืบๆกันไปแรกแต่นั้น ไปคนทั้งหลายที่ทราบก็พากันไปสักการะบูชามาก แต่นั้นมา จึงได้ชื่อว่า พระบาทรังรุ้ง ( รังเหยี่ยว ) ในสมัยนั้นมีพระยาตนหนึ่งชื่อว่าพระยาเม็งราย เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ ได้ทราบข่าวจึงมีพระราช ศรัทธาอยากเสด็จขึ้นไปกราบบูชาพระพุทธบาทสี่รอยก็นําเอาราชเทวีและเสนาพร้อม กับบริวารทั้งหลาย เมื่อพระยาเม็งรายกราบนมัสการเสร็จแล้ว ก็นําเอาบริวารของตนกลับมาสู้ เมืองเชียงใหม่ ก็ตั้งอยู่เสวยราชมบัติตราบเมี้ยนอายุขัยแล้ว ก็เจริญตามรอยและได้ขึ้นมากราบพระพุทธบาท
                 

ภายในวิหารที่มีรอยพระบาท


รอยพระบาท ของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ในภัทรกัลป์นี้

                ทั้งสี่รอย ทุกๆพระองค์ หลังจากนั้นมาพระบาทรังรุ้งหรือรังเหยี่ยวก็เปลี่ยนชื่อเป็น" พระพุทธบาทสี่รอย " เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึงสี่รอย คือมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ที่ล่วงลับมาแล้วในภัทร กัลป์นี้ คือ รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรกเป็นรอย ใหญ่ยาว 12 ศอก รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่ 2 ยาว 9 ศอก รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะเป็นรอยที่ 3 ยาว 7 ศอก รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ ( ศาสนาปัจจุบัน ) เป็นรอยที่ 4 รอยเล็กที่สุด ยาว 4 ศอก เมื่อมาถึงสมัยพระยาธรรมช้างเผือกผู้ครองนคร เชียงใหม่ พร้อมด้วยบริวาร 500 คนก็ขึ้นไปกราบสักการะบูชาพระพุทธบาทสี่รอย และได้สร้างวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้ชั่วคราว


พระประธานในพระอุโบสถ วัดพระพุทธบาทสี่รอย จ. เชียงใหม่


                โดยแต่เดิมถ้า ใครจะดูรอยพระพุทธบาทบนยอดหินก้อนใหญ่ ต้องใช้บันไดพาดขึ้นไปหรือปีนขึ้นไปดูซึ่งก็คงจะขึ้นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ดังนั้น พระยาธรรมช้างเผือก จึงตรัสสร้างแท่นยืนคล้ายๆนั่งร้านรอบๆก้อนหินที่มีพระ พุทธบาทสี่รอยและได้สร้างหลังคาชั่วคราวมุงไว้ ต่อมาในสมัยพระชายาเจ้าดารารัศมีก็ได้ขึ้นไป กราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอยและได้มีพระราชศรัทธา ก่อสร้างวิหารเป็นการกราบบูชารอยพระพุทธบาทไว้หนึ่งหลัง หลังเล็กปัจจุบันได้บูรณะปฏิสัง ขรณ์แล้วทั้งหลัง พอมาสมัยเมื่อปี พ.ศ. 2472 ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้รื้อพระวิหารที่เจ้า พระยาธรรมช้างเผือกสร้างไว้ชั่วคราว และได้สรางพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาทไว้ใหม่ และได้ฉาบปูนครอบรอยพระพุทธบาทสี่รอย พระพุทธบาทสี่รอยนี้เป็นพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย