สรุปสถิติยางที่ถูกใช้ในการแข่งขัน WSBK |

Pirelli สรุปสถิติยางที่ถูกใช้ในการแข่งขัน WSBK สนามที่ 2 ที่สนามช้างฯ

เพื่อที่จะช่วยนักแข่งพิชิตสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ที่จ.บุรีรัมย์ Pirelli เลือกคอมปาวด์ยางแบบซอฟต์และมีเดียมซึ่งมีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานปกติเพื่อรองรับกับอุณหภูมิของแทร็กที่คาดไว้ว่าจะสูงกว่าปกติ

ล่าสุด Superbike World Championship ได้จัดขึ้นที่ประเทศไทย ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ที่จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 23 – 25 มีนาคมที่ผ่านมา โดยจะทำการแข่งขัน 2 รุ่นด้วยกันคือ WorldSBK และ WorldSSP ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ได้จัดการแข่งขันขึ้นที่นี่ และ 3 ปีที่ผ่านมานั้นเป็นชัยชนะของ Kawasaki เสียทั้งหมด โดยเป็นชัยชนะของ Jonathan Rea ทั้งหมด 5 เรซวและจาก Tom Sykes อีก 1 เรซ

และเพื่องานนี้ Pirelli ได้ขนยางเกือบ 3,000 เส้น โดยส่วนใหญ่เป็นยางสูตรมาตรฐาน แต่ก็ไม่ขาดยางสูตรที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ด้วยประสบการณ์ที่ทาง Pirelli ได้รับมาจากการแข่งขันในครั้งที่ผ่านๆ มา Pirelli จึงเน้นไปที่ยางหลังแบบซอฟต์ ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากพื้นแทร็กที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งจะช่วยให้สมรรถนะถูกดึงออกมาได้อย่างเต็มที่

 

สนามช้างฯ นั้นเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2014 ซึ่งมี Hermann Tilke เป็นสถาปนิคผู้ออกแบบ และจนตอนนี้ที่นี่คือสนามแข่งแห่งเดียวในไทยที่ได้รับการรับรองจาก FIM ให้ใช้แขงขันได้ โดยตัวแทร็กยาว 4.554 กม.มีโค้งทั้งหมด 12 โค้ง เป็นโค้งซ้าย 7 โค้งและโค้งขวา 7 โค้ง จากการแข่งขันที่ผ่านๆ มานั้นสนามแห่งนี้ไม่ได้กินยางมากนัก แต่ด้วยความชื้นสัมพัทธ์สูงรวมกับอุณหภูมิพื้นแทร็กที่สูงก็ส่งผลกับยางมากอยู่ดี

 

สูตรยางที่ใช้ในการแข่งขัน WorldSBK และ WorldSSP

การแข่งขันที่ไทยนั้นจะมีการแข่งขันแต่เฉพาะในรุ่น WorldSBK และ WorldSSP และก็อย่างที่เคยทั้ง 2 คลาสทาง Pirelli ก็ได้เตรียมทั้งยางสำหรับสภาพอากาศที่แห้ง ชื้นและฝนตกเอาไว้รวมกันถึง 2,878 เส้นเพื่อรองรับการแข่งขันในสนามนี้

สำหรับในรุ่นใหญ่ตัวพัน WorldSBK จะมียางสลิกทั้งหมด 6 สูตร เป็นยางหน้า 4 สูตรและหลัง 2 สูตร โดย 3 สูตรในนั้นจะเป็นสูตรมาตรฐานและอีก 3 สูตรเป็นสูตรที่พัฒนาขึ้นใหม่

ในส่วนของยางหน้านั้นจะมียางสูตรมาตรฐานอย่าง SC1 และ SC2 ซึ่งเป็นยางซอฟต์และมีเดียมตามลำดับ และจมียางสูตรซอฟต์ที่พัฒนาขึ้นมาอีก 2 สูตรให้เลือก ได้แก่ W0746 ที่มีใช้ครั้งแรกในออสเตรเลียสนามเปิดฤดูกาล ซึ่งจะเนื้อยางจะซอฟต์กว่า SC1 การันตีความหนึบสูงที่ด้านหน้า และ V0952 ที่มีใช้กันตั้งแต่ปีที่แล้วใน Aragón, Assen, Imola, Donington, Misano, Laguna Seca, Lausitzring, Portimão, Magny-Cours, Jerez และ Losail รวมถึงปีนี้ที่ออสเตรเลียด้วย สูตรนี้จะใช้เนื้อยางเดียวกันกับ SC1 แต่มีคุณสมบัติทางโครงสร้างที่ต่างออกไป

 

ส่วนที่ยางหลังจะมีให้เลือกระหว่าง SC0 ที่เป็นมาตรฐานใหม่ เป็นสูตรที่ซอฟต์ที่สุด และ SC0 W0576 เป็นซอฟต์คอมปาวด์ที่เคยใช้มาแล้วที่สนาม Laguna Seca, Magny-Cours และ Jerez เมื่อปีที่แล้ว

 

ส่วนในรุ่น 600 อย่าง WorldSSP มียางสำหรับแทร็กแห้งทั้งหมด 5 สูตรเป็นยางหน้า 3 สูตรและยางหลัง 2 สูตร

ในยางหน้านั้นจะมี SC1 เป็นสูตรมาตรฐาน และมีสูตร W0378 ที่เริ่มใช้เมื่อปีที่แล้วที่ Lausitzring และนำมาใช้ที่ออสเตรเลียด้วยในปีนี้ ซึ่งใช้คอมปาวด์เดียวกันกับ SC1 แต่มีการขึ้นโครงสร้างที่แตกต่างกัน และสูตร V0533 ที่ใช้กันมาตั้งแต่ปี 2017 ที่สนาม Phillip Island, Buriram, Imola และ Losail ซึ่งเป็นคอมปาวด์ที่อยู่ระหว่าง SC1 และ SC2

ส่วนยางหลัง Pirelli นั้นวางใจในสูตรยางมาตรฐานคือ SC0 และ  SC1

 

สถิติของ Pirelli ที่สนาม Chang เมื่อปี 2017

• จำนวนยางทั้งหมดที่ Pirelli นำมา: 2594

• จำนวนสูตรยางในคลาสซูเปอร์ไบค์(รวมถึงยางสำหรับแทร็กแห้ง แทร็กชื้นและแทร็กเปียก): 5 สูตรสำหรับยางหน้า และ 5 สูตรสำหรับยางหลัง

• จำนวนยางที่มีไว้ให้นักแข่งซูเปอร์ไบค์แต่ละคน: หน้า 33 เส้นและหลัง 29 เส้น

• จำนวนสูตรยางในคลาสซูเปอร์สปอร์ต (รวมถึงยางสำหรับแทร็กแห้ง แทร็กชื้นและแทร็กเปียก): 4 front and 4 rear

• จำนวนยางที่มีไว้ให้นักแข่งซูเปอร์สปอร์ตแต่ละคน: หน้า 21 เส้นและหลัง 21 เส้น

• รางวัลสถิติเวลาแล็ปดีที่สุดคลาสซูเปอร์ไบค์ Superbike Best Lap Awards ทั้ง 2 เรซ: Jonathan Rea (Kawasaki Racing Team) ด้วยเวลา  1'33.436 (เรซ 1แล็ปที่ 5) และ Marco Melandri (Aruba.it Racing – Ducati) ด้วยเวลา 1'33.644 (เรซ 2 แล็ปที่ 3)

• รางวัลสถิติเวลาแล็ปดีที่สุดคลาสซูเปอร์สปอร์ต Supersport Best Lap Award: Christian Gamarino (BARDAHL EVAN BROS. Honda Racing) ด้วยเวลา 1'38.721 (แล็ปที่ 2)

• อุณหภูมิในเรซ 1: อากาศ 35° C พื้นแทร็ก 57° C

• อุณหภูมิในเรซ 2: อากาศ 36° C พื้นแทร็ก 60° C

• ความเร็วสูงสุดที่ทำได้โดยยาง Pirelli DIABLO™ Superbike: 306.8 กม./ชม. ในเรซ 1 โดย Jordi Torres (Althea BMW Racing Team) ในแล็ปที่ 9

• ความเร็วสูงสุดที่ทำได้โดยยาง Pirelli DIABLO™ Supercorsa SC ในคลาสซูเปอร์สปอร์ต: 268.7 กม./ชม. โดย Niki Tuuli (Kallio Racing) ในแล็ปที่ 6