ทดสอบรถ Yamaha Spark 115i
ซึ่งทาง Mocyc.com เองก็ได้รับคำเรียกร้องจากสมาชิกเว็บไซต์ และ สมาชิกใน Fanpage มากมายให้ทดสอบรถรุ่นนี้ และแล้วทาง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ก็ได้จัดแจงส่ง Spark 115i มาให้ Mocyc.com จำนวน 4 คันเพื่อให้เราทำการทดสอบกัน
หากได้ติดตามการทดสอบของ Mocyc.com บ่อยๆ จากในรายการ Mocyc TV ใน Youtube จะเห็นได้ว่าเราจะทดสอบในรูปแบบของผู้ใช้งานจริง และ การทดสอบในแบบ Over Spec เท่านั้น หากจะให้มานั่งขับขี่กันแบบ 40-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หมอบกันตลอดเส้นทางเพื่อมาหาผลประหยัด แบบนั้นทางเราไม่ทำแน่นอน เพราะการใช้งานในชีวิตจริงคงไม่มีใครใช้งานแบบนั้นแน่นอน ดังนั้นการทดสอบของเราจึงต้องเป็นแบบการใช้งานปกติจนถึงการทดสอบในแบบที่คุณๆคิดว่ารถคันนี้จะสามารถไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ทาง Mocyc.com ได้วางเส้นทางไว้คือการเดินทางจากเชียงใหม่ ไปจังหวัดน่าน โดยเราไม่ได้เลือกเดินทางในเส้นทางปกติ (เชียงใหม่ - ลำปาง - แพร่ - น่าน) แต่เราเลือกเส้นทางที่ต้องเดินทางผ่านเขาสูงชัน เพื่อทดสอบสโลแกนที่ว่า "แรงดี ประหยัดจริง ขั้นเทพ" และ แนวคิดในการพัฒนารถครอบครัว รุ่นนี้ คือ "ประหยัด ทนทาน ขับขี่ง่าย คล่องตัว" ดังนั้นหากจะใช้เส้นทางปกติในการขี่ทดสอบก็คงไม่ได้อะไร และคงตอบโจทย์ในการทดสอบครั้งนี้ไม่ได้ ทางเราเลยเลือกเส้นทาง เชียงใหม่ - เชียงราย - พะเยา - เชียงคำ - น่าน ซึ่งน่าจะเหมาะกับการทดสอบรถ Spark 115i คันนี้
ผู้ร่วมทดสอบในครั้งนี้ก็จะมี ผมซึ่งเป็นเว็บมาสเตอร์ , ปอ ล้อโต ร้านตกแต่งชื่อดัง ผญาวัน มอเตอร์ช๊อป , กอล์ฟ ทีมงานบันเทิงเชียงใหม่ ทีมแชมป์แข่งขันขี่รถ Spark 115i ประหยัดน้ำมันที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งชนะเลิศกับสถิติ 82 กิโลเมตรต่อลิตร และ ดัมพ์ ทีมงาน Mocyc TV ซึ่งเป็นตากล้องในรายการ Mocyc.TV อีกหนึ่งคน
สำหรับเรื่องการออกแบบ ในความคิดของผู้ร่วมทดสอบต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รูปทรงดูเฉี่ยว ดูออกสปอร์ตมากขึ้นกว่ารุ่นเก่าๆ ท่านั่งต่างๆนั่งได้สบาย ทีมงานชอบที่เก็บของใต้เบาะที่เก็บของได้เยอะเลย ในการเดินทางเรายัดของ และน้ำขวดลิตรใส่ใต้เบาะอย่างสบายๆ โดย Spark 115i ออกมา 3 แบบด้วยกันคือ รุ่นดรัมเบรค สตาร์ทเท้า , รุ่นดิสก์เบรคหน้า สตาร์ทเท้า , และรุ่นดิสก์เบรคหน้าสตาร์ทมือ ซึ่งเราได้ทั้ง 3 รุ่นไปทดสอบในครั้งนี้
และในเส้นทางที่ต้องผ่านเส้นทางขึ้นลงเขาสูงชันตลอดเส้นทาง ก็คือเส้นทาง อ.เชียงคำ ไป อ.ท่าวังผา ถึงจะเป็นช่วงขึ้นลงเขาสูงชัน แต่โดยมากก็จะใช้กันเฉพาะเกียร์ 3 กับ เกียร์ 4 เท่านั้น น้อยมากที่จะลงไปถึงเกียร์ 2 ซึ่งถือว่า แรงดี จริงๆสำหรับ Spark 115i คันนี้ ซึ่งการปริโภคน้ำมันในช่วงนี้ใช้ไป 51 กิโลเมตรต่อลิตร
จากเส้นทางนี้เรามุ่งตรงเข้าสู่ตัวเมือง จ.น่าน เราเริ่มเจอถนนราบเรียบมากขึ้น แต่ในการทดสอบเราก็ยังคงวิ่งกันอยู่ที่ความเร็วเฉลี่ย 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยระยะทางที่ใช้ไป 103 กิโลเมตร วิ่งในตัวเมือง จ.น่าน จริงๆน่าจะซัก 20 กิโลเมตร นอกนั้นเราอัดกันหมดปลอกในช่วงเดินทางจาก อ.ท่าวังผา เข้าตัวเมืองน่าน โดยใช้น้ำมันไป 59.29 กิโลเมตรต่อลิตร ประหยัดขั้นเทพอีกแล้วสิงานนี้
ทีมทดสอบได้เล็งเห็นแล้วว่าไม่ว่าจะทางเรียบ โค้ง ขึ้นเขา ลงเขา ไปมาหมดแล้ว เรายังไม่ได้ทดสอบในแบบที่คงไม่มีใครๆคิดว่าเราจะเอารถครอบครัว ที่ควรใช้แต่ในเมือง ไปวิ่งในเส้นทางที่เรียกว่าสุดแสนจะทรมานรถ เราจึงเลือกเบี่ยงออกไปยังจุดผ่อนปรนการค้าขายชายแดน ไทย-ลาว ขนาดรถมอเตอร์ไซค์ของตำรวจประจำด่านยังตกแต่งรถเป็นรถวิบากเลย และ ได้พูดกับพวกเราในแบบติดตลกว่า "มาทดสอบรถใหม่ ลองเอารถวิ่งขึ้นลงเส้นนี้สัก 3 รอบนะ แล้วเอาไปเข้าอู่ เพื่อเช็คว่าตรงไหนเสียบ้าง" ซึ่งหนทางเรียกได้ว่าวิบากกรรม ต้องใช้ความสามารถของรถทั้งช่วงล่าง เครื่องยนต์ เป็นอย่างมาก
ซึ่งถือว่าช่วงล่างทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมถึงแม้จะเจอสภาพถนนที่เลวร้าย และเครื่องยนต์ที่พาทะยานไปได้อย่างดี ไม่มีแรงตก ซึ่งเมื่อกลับลงมาจาก ชายแดน ไทย-ลาว เราเลือกที่จะไม่เติมน้ำมัน แต่จะยิงยาวไปเลย โดยเมื่อผ่านทางโหดๆออกมาก็ยางรั่วไป 1 คัน ผลพวงมาจากทางโหดๆที่เราได้ไปมา และจากที่ยางรั่วจึงทำให้เราได้มีโอกาสได้แกะดูและทำให้ได้ทราบว่าสเตอร์หลังมีขนาด 40 ฟัน มิน่าแรงถึงได้ดีจริงๆเวลาขึ้นเขาชันๆ และเมื่อถึงปั๊มเราเช็คระยะวิ่งกันอยู่ที่ 189 กิโลเมตร อัตราการกินน้ำมัน 55.40 กิโลเมตรต่อลิตร โอ้โห...ขนาดเจอทางโหดขนาดนั้น ยังได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
หากใครที่กำลังมองหาตัวเลือกของรถครอบครัวที่แรงแบบบิดติดมือ และมาพร้อมกับอัตราการกินน้ำมันที่ประหยัด Spark 115i ก็น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว กับสนนราคา รุ่นดรัมเบรก / สตาร์ทเท้า 35,500 บาท, รุ่นดิสก์เบรก / สตาร์ทเท้า 37,500 บาท และรุ่นดิสก์เบรก / สตาร์ทมือ 39,500 บาท ซึ่งถือว่าราคาน่าโดนกันเลยทีเดียว สนใจก็สอบถามได้ที่ตัวแทนจำหน่าย ยามาฮ่า ใกล้บ้านท่าน