ดูคาติ อาเซียนโมเดล คาดราคาลงหลักแสนบาท | ดูคาติ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 23 กันยายน 2554 16:37 น. |
สิ้นสุดการรอคอยสำหรับสาวก "ดูคาติ” หลังจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทแม่จากอิตาลีประกาศทุ่มงบ 879 ล้านบาท สร้างโรงงานขึ้นไลน์ประกอบบิ๊กไบค์ในเมืองไทย หวังรองรับการขยายตัวในตลาดอาเซียน โดยความคืบหน้าล่าสุดจาก อภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด เผยเตรียมแผนกำหนดเปิดตัว “อาเซียนโมเดล” อย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปีนี้ พร้อมแย้มอานิสงฆ์การปลดล็อคกำแพงภาษี อาจส่งผลราคาค่าตัวลดลงกว่า 2 แสนบาท
อภิชาติ ลีนุตพงษ์
กระแสบิ๊กไบค์ในเมืองไทย
ถือว่ากำลังมาแรงมาก หลังจากคาวาซากิเปิดตัวโมเดล ER-6n 650 ซีซี ที่ประกอบในประเทศเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ด้วยราคาสองแสนกลางๆ ผมเชื่อว่าปัจจุบันมียอดขายไปแล้วเกือบสามพันคัน แสดงให้เห็นว่าในเมืองไทยมีกลุ่มคนที่พร้อมจะซื้อบิ๊กไบค์อยู่แล้ว และต่อไปฐาน ลูกค้ากลุ่มนี้ก็ต้องขยับไปเล่นรถที่มีซีซีสูงขึ้น อาจจะต่อยอดที่แบรนด์เดิมหรือหันไปหาค่ายฝั่งตะวันตกที่มาทำตลาดกันอย่าง หลากหลายทั้ง ดูคาติ, บีเอ็มดับเบิลยู, ไทรอัมพ์, เคทีเอ็ม, ฮาเลย์-เดวิสสัน หรือแม้กระทั่งแบรนด์ญี่ปุ่นเองอย่าง ยามาฮ่า, ซูซูกิ รวมถึงฮอนด้าที่ได้ข่าวว่าจะเปิดโชว์รูมรถใหญ่ในปลายปีนี้ ทั้งหมดล้วนสร้างกระแสความนิยมให้อยู่ในช่วงขาขึ้นไปได้อีก 4-5 ปี
ผลกระทบส่วนแบ่งลูกค้า
แม้การเข้ามาของแบรนด์ใหม่จะมาแย่งส่วนแบ่งในตลาด แต่สำหรับยอดขายดูคาติไม่ได้รับผลกระทบ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มีแบรนด์ในใจอยู่แล้ว คนที่ตัดสินใจซื้อ 50% มาจากคนที่รักแบรนด์มาเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือการตอบสนองลักษณะการขับขี่ใช้งาน และที่เหลือคือปัจจัยด้านการเงินหรือระบบไฟแนนท์ที่รองรับ
จำนวนคนรักดูคาติ
ในปีนี้นับเป็นปีที่ 9 ของดูคาติกับการทำตลาดบิ๊กไบค์ในเมืองไทย สนนราคาผลิตภัณฑ์เริ่มต้นตั้งแต่ 629,000-1,590,000 บาท มี ตัวเลือกขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 650 ซีซีขึ้นไป ด้านยอดขายปีที่ผ่านมาปิดยอดอยู่ที่ 209 คัน เฉลี่ยเดือนละเกือบ 20 คัน ส่วนปีนี้ตั้งเป้าอยู่ที่ 340 คัน เฉลี่ยเดือนละเกือบ 30 คัน และหากรวมผลดำเนินงาน 9 ปีที่ผ่านมา ดูคาติมียอดขายรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ประมาณ 600 คัน โดยแบ่งสัดส่วนการขายเป็นกลุ่มเน็ตเก๊ตไบค์หรือมอนสเตอร์ 60% กลุ่มโมตาร์ด 20% กลุ่มแดวิล 10% และซูเปอร์ไบค์อีก 10%
มอนสเตอร์ 696 ว่าที่“อาเซียนโมเดล”
ขึ้นไลน์ผลิต “อาเซียนโมเดล”
ด้านความเคลื่อนไหวบริษัทแม่จากอิตาลีมาดูตลาดในแถบภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานแล้ว เห็นว่ามีการเติบโตที่ดีมาก ในแต่ละปียอดขายรวมจากหกร้อยเป็นหนึ่งพันคัน จากหนึ่งพันเป็นสามพันคัน จึงตัดสินใจขยายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทยเพราะว่า เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค มีความสะดวกด้านการขนส่ง และที่สำคัญแรงงานในบ้านเรามีฝีมือมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับโมเดลแรกที่จะขึ้นไลน์ประกอบปลายปีนี้คือ รุ่น มอนสเตอร์ 795 หรือที่เรียกว่า “อาเซียนโมเดล” โดยใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ของรุ่น 796 แต่จับยัดลงในเฟรมของรุ่น 696 และจะมีการปรับตำแหน่งท่านั่งให้เหมาะสมกับสรีระผู้ขับขี่ในภูมิภาคนี้ เช่น ความสูงของเบาะถึงพื้นจากปกติประมาณ 77 ซม. เหลือประมาณ 75 ซม. แต่ด้านรายละเอียดการเซตค่าสปริงเพื่อรับน้ำหนักหรือในส่วนอื่นๆ เรายังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ
ส่วนราคารุ่นมอนสเตอร์ 796 ปัจจุบันอยู่ที่ 629,000 บาท แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันที่ประกอบในประเทศหรือรุ่น 795 จะไม่ต้องคิดภาษีนำเข้า อาจลงมาเหลืออยู่ที่ 4 แสนบาท บวกลบไม่เกิน 10% ทั้งนี้ต้องรอความชัดเจนจากบริษัทแม่อีกครั้งหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะได้รับความนิยมอย่างมาก โดยตั้งเป้ายอดขายเฉพาะรุ่นนี้สิ้นปี 2556 น่าจะอยู่ที่ 650 คัน
ไฮเปอร์โมตาร์ด อีกหนึ่งโมเดลที่เป็นสัญลักษณ์ของดูคาติ
เปิดตัวพร้อมขายปลายปี
สำหรับงานมอเตอร์โชว์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ดูคาติไม่ได้เข้าร่วมเนื่องจากไม่มีรถใหม่ที่จะแนะนำ อีกทั้งยังค้างส่งมอบรถให้กับลูกค้าอีกกว่า 50 คัน แต่สำหรับปลายปีนี้แฟนๆ ที่รอคอย มอนสเตอร์ 795 “อาเซียนโมเดล” เตรียมเจอกันได้ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป โดยพร้อมโชว์ตัวและขายจริงภายในงานด้วย
กลยุทธ์สร้างแบรนด์ระยะยาว
นอกจากการสร้างความรับรู้ในกลุ่มผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ สิ่งที่ดูคาติให้ความสำคัญเสมอมาคือ การอบรมขับขี่ปลอดภัยหรือ ดูคาติ อะคาเดมี โดยให้ความรู้ลูกค้าตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงหลักสูตรการลงสนาม รวมถึงการรับเทิร์นรถเก่าแลกรถใหม่ ด้วยการตีราคารถมือสองลดลงเพียง 15-20% สุดท้ายคือระบบไฟแนนท์พร้อมรองรับลูกค้าที่ไม่มีเงินก้อน สามารถดาว์นไม่ถึงหนึ่งแสนบาท ผ่อนสบายๆ ต่อเดือนไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท เพื่อเพิ่มช่องทางการเป็นเจ้าของรถในฝันได้ง่ายขึ้น
10 พ.ย. 2554
05 ต.ค. 2554
05 ต.ค. 2554
04 ต.ค. 2554
02 ต.ค. 2554
30 ก.ย. 2554
28 ก.ย. 2554
28 ก.ย. 2554
28 ก.ย. 2554
27 ก.ย. 2554