AirAsia British Grand Prix
สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ วันที่ 12 มิถุนายน 2554


      เป็นชัยชนะอันงดงามของนักบิดจากแดนจิงโจ้ ทีมเรปซอลฮอนด้า นามสโตนเนอร์ หมายเลข 27 คว้าชัยชนะได้ถึง 3สนามติดต่อและเป็นครั้งที่ 4ในปีนี้ ทำให้คะแนนสะสมขึ้นไปนำแล้วในรุ่นโมโตจีพี ในขณะที่รุ่นโมโตทู สเตฟาน บราดเดิ้ล เก็บชัยชนะได้อีกครั้ง คะแนนนำโด่ง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งวัน

รอบวอร์มอัพ

      ตั้งแต่ช่วงเช้าฝนได้ตกลงมาไม่ขาดสาย เป็นไปตามพยากรณ์อากาศทุกประการ และก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆในวันนี้ การซ้อมเช้าจึงเป็นการซ้อมท่ามกลางสายฝน รุ่นโมโตทู โพลคนล่าสุด มาร์ก มาร์เกส ล้มกระจาย ทีมงานเกือบจะซ่อมรถไม่ทันเนื่องจากวันนี้รุ่นโมโตทูทำการแข่งขันเป็นรุ่น แรก ส่วนเจ้าฟีมไม่สู้ดีนักเมื่อไม่สามารถทำเวลาได้ดีเลยในสภาพอากาศและสภาพสนาม แบบนี้ ทำเวลาเกือบรั้งท้ายของการซ้อม เป็นซิมิยองที่ทำเวลาได้ดีพอๆกับเอียนโนเน่


      การซ้อมในรุ่นใหญ่ วาเลนติโน รอสซี่ที่ไม่ดีมาโดยตลอดสุดสัปดาห์ก็พลาดล้มลงไปอีกครั้ง และก็เป็นสโตนเนอร์ที่ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อทิ้งห่างคู่ปรับเก่า โลเรนโซ่อยู่ถึงครึ่งวินาที ซิมอนเซลลี่กับแผ่วไปเมื่อเจอสภาพสนามเปียก

การแข่งขันรุ่นโมโตทู



      เริ่มขึ้นในช่วงเวลา 11:15น.ตามเวลาท้องถิ่น ฝนยังคงตกลงมา ไม่แรงมากแต่ก็ไม่ขาดสาย บราดเดิ้ลออกตัวได้ดี ชิงโค้งแรกขึ้นนำได้ แต่เจ้าถิ่น สก๊อต เรดดิ้ง ใช้ความเจนจัดสนามแซงขึ้นไปนำได้อย่างรวดเร็ว ด้วยละอองน้ำจากรถทั้ง 38คัน ทำให้เจ้าฟีมที่อยู่กลุ่มหลังสุดมองทางแทบไม่เห็น ต้องค่อยๆตามห่างๆ

 
      แต่เพียง 4รอบเรดดิ้งเริ่มไปได้ช้า บราดเดิ้ลจึงกลับขึ้นไปนำ กลุ่มหลังเป็นพาซินี่ที่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากกริดสตาร์ทที่ 22 และสมิธจากกริดที่ 28 ขึ้นมาไล่ติดหลังบราดเดิ้ล และพาซินี่ก็แซงบราดเดิ้ลขึ้นไปนำได้ ฟีมขยับอันดับขึ้นมาที่ 29 แต่พาซินี่ก็ไปได้แค่รอบเดียว ล้มกลิ้งไม่เป็นท่าจากความเร็วที่มากเกินไปกับสภาพสนามแบบนี้ มาร์ค มาร์เกส ซึ่งสตาร์ทจากตำแหน่งโพลกลับไปไม่เป็น ล้มลงในรอบนี้เช่นกัน รวมทั้งมิก้า คาลิโอ้ด้วย ฟีมได้รับผลบุญ รั้งอันดับที่ 26


      บราดเดิ้ลขึ้นนำอีกครั้ง อันดับสองเป็นโซฟูโอกลูและสมิธตามมาห่างๆ เพื่อร่วมทีมแซ๊ก ราฟาเอล เด โรซ่าพลาดล้มในรอบที่ 8นี้ แต่เจ้าฟีมก็มีปัญหาในรอบนี้เมื่อแผ่นบังลมหมวกเกิดฝ้า มองทางไม่ค่อยชัด ต้องเพ่งสายตาเพ่งมอง ผลส่งให้ปวดศรีษะซีกขวาอีกแล้ว จนเจ้าตัวทนไม่ไหวต้องเลี้ยวรถกลับเข้าพิท เนื่องจากไม่สามารถฝืนขับขี่ต่อไปได้ จบการแข่งขันเพียงแค่ครึ่งทาง ในขณะที่ 25


      บราดเดิ้ลเริ่มนำห่าง อันดับสองกลายเป็นสมิธ เนื่องจากในรอบที่ 11 โซฟูโอกลูแหกโค้งออกไป หล่นไปอยู่ในอันดับที่ 11 อันดับสามจึงกลายเป็นมิเชล พิโร่ คุ้นสนามเป็นอย่างดีเพราะเพิ่งมาจากซุปเปอร์สปอร์ต จนจบการแข่งขันด้วยอันดับนี้


ผลการแข่งขันโมโตทู

"ในรอบวอร์มอัพก็ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างลงตัว เพียงแต่ฟีมไม่อยากเสี่ยงเหมือนกับสนามที่แล้ว ค่อยๆเติมจนมั่นใจว่าขี่ได้ แต่เมื่อถึงช่วงแข่งในรอบลงสนาม รู้สึกว่าลมเข้าหมวก จึงแจ้งทีมงานให้ตรวจสอบที่กริดสตาร์ท แล้วก็ไม่ได้กังวลอะไร แต่พอแข่งๆไป กระจกเป็นฝ้าและลมพัดผ่านเข้ามาที่ตา ทำให้ต้องเพ่งตลอด จนรู้สึกปวดศรีษะข้างขวา มองไลน์เบลอๆ จึงตัดสินใจเลี้ยวเข้าพิทดีกว่าครับ” “ต้องขอโทษแฟนๆที่ติดตามเชียร์ฟีม ครั้งนี้ต้องทำให้ผิดหวังอีกครั้ง ก็พยายามแล้วครับ แต่ไม่ไหวจริงๆ จังหวะที่เด โรซ่าล้มก็เห็นในรอบก่อนที่จะตัดสินใจเข้า” การแข่งขันโมโตจีพี

      ฝนตกอย่างต่อเนื่องมาถึงรุ่นใหญ่ แต่สภาพอากาศและทัศนวิสัยอยู่ในเกณฑ์ที่แข่งได้ โลเรนโซ่ออกตัวได้ดี แต่เพียงไม่กี่โค้ง เมื่อเข้าทางตรงด้านหลัง ทั้งโดวิซิโอโซ่และสโตนเนอร์อาศัยความแรงของ RCV212V แซงขึ้นไปแบบสบายๆ ไม่ถึงรอบดี โลเรนโซ่ก็โดนซิมอนเซลลี่แซงขึ้นไปอีกคัน เสียไปถึงสามตำแหน่ง แต่โดวิก็ไปได้ไม่เร็วเท่าเจ้าแห่งสายฝน เคซีย์ สโตนเนอร์ แซงผ่านขึ้นไปนำในรอบที่สอง



      โลเรนโซ่ไม่ยอม ศักดิ์ศรีแชมป์โลกค้ำคอ แซงซอมอนเซลลี่ขึ้นมารั้งอันดับสามในรอบที่ 4 และพยายามจะแซงโดวิให้ได้ ในขณะที่สโตเนอร์เริ่มยืดระยะห่างออกไปทีละนิด ปล่อยให้กลุ่มสองแย่งอันดับกัน และในรอบที่ 9 โลเรนโซ่ที่พยายามอย่างเหลือเกินที่จะแซงโดวิคู่รักคู่แค้นตั้งแต่รุ่น GP250 ไหลเข้าโค้งแรงไปนิด ล้อหลังสไลด์ล้มลง ออกจากการแข่งขันแบบไม่น่าเชื่อว่าแชมป์เก่าจะพลาดท่า


      โดวิยังคงไปได้ไม่เร็วนัก แต่ก็ยังรั้งอันดับสองไว้อย่างเหนียวแน่น แม้ซิมอนเซลลี่จะพยายแซงแย่งอันดับสอง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรโดวิได้ และก็เป็นซิมอนเซลลี่เองที่ลื่นล้มไปเองในโค้งสุดทางตรงหน้าพิทเก่า อันดับสามจึงกลายเป็นคอลิน เอ็ดวาร์ดที่มาเรื่อยๆเพราะเพิ่งจะผ่าตัดไหปลาร้าเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วนฮอนด้าอีกสองคันอิไลอัสกับอาโอยาม่าจบการแข่งขันในอันดับที่ 8และ 9


ผลการแข่งโมโตจีพี


      จากผลการแข่งขันสนามนี้ ทำให้สโตนเนอร์มีคะแนนขึ้นไปแทนโลเรนโซ่ที่พลาดล้มไม่มีคะแนน โดยสโตนเนอร์มี 116 โลเรนโซ่ 98 โดวิซิโอโซ่ 83 รอสซี่ 68 และเปโดรซ่ายังมี 61


การแข่งขันสนามต่อไปจะไปกันที่สนามแอสเซ่น ดินแดนกังหันลมในวันเสาร์ 25 มิถุนายน หรือในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า

รายงานโดย สุทธิสาร แววสมณะ