ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเพื่อประโยชน์ของรัฐในด้านความปลอดภัยของสาธารณชน อันเนื่องจากการนำตัวถังของรถยนต์นั่งที่ใช้แล้วและโครงรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้วเข้ามาประกอบเป็นรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้มาตรฐานการผลิต

     ประกาศดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) และมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. ๒๕๒๒ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้ โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรี ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ตัวถังของรถยนต์นั่งที่ใช้แล้วและโครงรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้ว เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๕"

ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในประกาศนี้

     "รถยนต์นั่ง" หมายถึง รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม ตามกฎหมายรถยนต์

     "รถจักรยานยนต์" หมายความว่า รถที่เดินด้วยกำลังเครื่องยนต์หรือกำลังไฟฟ้า และมีล้อไม่เกินสองล้อ ถ้ามีพ่วงข้างมีล้อเพิ่มอีกไม่เกินหนึ่งล้อ

     "ตัวถังของรถยนต์นั่งที่ใช้แล้ว" หมายความรวมถึง แชสชีส์ หรือแค้ปของรถยนต์นั่งที่ใช้แล้วไม่ว่าจะนำเข้าในสภาพสมบูรณ์หรือในสภาพที่ถูกตัดออกเหลือเพียงบางส่วน

ข้อ ๔ ให้ตัวถังของรถยนต์นั่งที่ใช้แล้วและโครงรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้ว เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร

     ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับกับโครงรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้วที่มีขนาดความจุภายในกระบอกสูบตั้งแต่ ๕๐ ลูกบาศก์เซนติเมตรลงมา ตะเกียบรถ และวงล้อ ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ ๑๐ นิ้วลงมา

ข้อ ๕ ความในข้อ ๔ วรรคหนึ่ง ไม่ใช้บังคับในกรณีการนำสินค้าดังกล่าวเข้ามาเพื่อเป็นต้นแบบในการผลิตหรือการศึกษาวิจัย ทั้งนี้ ในปริมาณเท่าที่จำเป็น

ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕
บุญทรง เตริยาภิรมย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์