ซูซูกิ ทุ่ม500ล้านปรับไลน์ผลิตยกแผงรับจยย.หัวฉีดแรง | suzuki
กระแสรถจักรยานยนต์หัวฉีดแรง “ซูซูกิ” ทุ่มปรับไลน์ผลิตรถเป็นระบบหัวฉีดยกแผง พร้อมเปิด 2 รุ่นหัวฉีดใหม่ “โชกุน-ฮายาเต้” สู่ตลาด เผยลงทุนต่อเนื่องรองรับ เฉพาะปีนี้ในส่วนของการผลิตทั้งหมดตั้งไว้ 500 ล้านบาท และยืนยันบริษัทตัดสินใจย้ายไลน์ผลิตเครื่องยนต์เรือเล็ก จากประเทศญี่ปุ่นมาที่ไทยแน่นอนแล้ว ขณะที่ฮอนด้าในฐานะผู้นำเทคโนโลยีหัวฉีด ออกแคมเปญ “ดูดีๆ หัวฉีดหรือเปล่า” สวนกลับ
เลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิ เปิดเผยว่า
เป็นที่ชัดเจนไทยยังเป็นฐานการผลิตของซูซูกิในภูมิภาคอาเซียน ไม่มีการโยกไปยังประเทศอินโดนีเซียแน่นอนแล้ว และซูซูกิในประเทศไทยยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับไลน์และเพิ่มกำลังการผลิต รวมถึงพัฒนารถรุ่นใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาด
“ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป รถจักรยานยนต์ซูซูกิทุกรุ่นจะปรับเป็นเครื่องยนต์หัวฉีดทั้งหมด ยกเว้นรุ่นสแมชที่ยังเป็นระบบคาร์บูเรเตอร์อยู่ โดยได้มีการลงทุนปรับไลน์ผลิตเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ใช้เงินลงทุนในการปรับไลน์เป็นหัวฉีด เพิ่มกำลังการผลิต และพัฒนารุ่นใหม่สู่ตลาด รวมทั้งหมดกว่า 500 ล้านบาท”
ส่วนการที่ซูซูกิปรับไลน์การผลิตรถให้เป็นเทคโนโลยีหัวฉีดเกือบทั้ง หมด เพื่อให้สอดคล้องทิศทางของตลาด ที่เทคโนโลยีระบบหัวฉีดได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีจุดเด่นอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเทคโนโลยีหัวฉีดของซูซูกิผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ 6 และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้ ขณะที่ซูซูกิยังคงรุ่นสแมชไว้หนึ่งรุ่น ไม่ปรับเป็นระบบหัวฉีดทั้งหมด เพราะตลาดบางส่วนยังต้องการรถที่มีราคาประหยัด แต่ก็ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ และผ่านมาตรฐานไอเสียที่บังคับเช่นกัน
นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า จากการปรับไลน์ผลิตให้เป็นรถจักรยานยนต์ระบบหัวฉีด ทำให้ล่าสุดซูซูกิได้เปิดตัวรถใหม่สู่ตลาด 2 รุ่น ได้แก่ ซูซูกิ โชกุน ใหม่ รถแบบครองครัว 125 ซีซี ที่มาพร้อมกับระบบเครื่องยนต์หัวฉีดใหม่ EPI (Electric Petrol Injection) ซึ่งได้รับการพัฒนาใหม่ให้ดีกว่าระบบหัวฉีดเดิม ทำให้มีประสิทธิภาพความแรงดีกว่า การจ่ายน้ำมันที่เที่ยงตรง เผาไหม้ได้หมดจด และที่สำคัญยังโดดเด่นในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันยิ่งขึ้น
ขณะที่อีกรุ่นเป็นซูซูกิ ฮายาเต้ รถจักรยานยนต์กึ่งสปอร์ตเครื่องยนต์ 125 ซีซี ที่มาพร้อมกับระบบหัวฉีดแบบ DCP-FI อันสมบูรณ์แบบของซูซูกิ และโดดเด่นในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคซูซูกิยังรับประกันรถทั้งสอง รุ่นตลอดทั้งคัน เป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร และรับประกันอุปกรณ์ระบบหัวฉีดถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร
“ซูซูกิ โชกุน ใหม่ ราคากว่า 4.5 หมื่นบาท ตั้งเป้าจำหน่ายปีนี้ 2.4 หมื่นคัน และซูซูกิ ฮายาเต้ ราคากว่า 5.1 หมื่นบาท คาดว่าจะมียอดขาย 1.2 หมื่นคัน เมื่อรวมกับซูซูกิ สแมช และรุ่นอื่นๆ ของซูซูกิ คาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 1 แสนคันตามเป้าแน่นอน และอาจจะต้องมีการทบทวนเป้าหมายการขายใหม่ หลังจากมีผลจากการตอบรับรถซูซูกิทุกรุ่นที่ดีมากๆ โดยเฉพาะรุ่นสแมช จนต้องมีการปรับกำลังการผลิตเพิ่ม” นายเลิศศักดิ์กล่าวและว่า
สำหรับโครงการผลิตเครื่องยนต์เรือขนาดเล็ก 2 จังหวะในไทย ล่าสุดทางบริษัทแม่ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ยืนยันจะย้ายไลน์การผลิตจากญี่ปุ่นมาไทยแน่นอนแล้ว โดยจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า ส่วนเงินลงทุนจะเป็นเท่าไหร่ยังไม่สรุปรายละเอียด เพราะต้องพิจารณาปริมาณการผลิตให้ชัดเจนก่อน ซึ่งปัจจุบันไทยผลิตเครื่องยนต์เรือเล็กอยู่นิดหน่อยปีละกว่า 3.2 หมื่นคัน
นายธีรพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารงานขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดเผยว่า หลังจากตัดสินใจเป็นผู้นำในการปรับสายการผลิตทั้งหมดในประเทศไทย ให้เป็นระบบหัวฉีด PGM-FI และมีสัญญาณที่ดีของตลาดรถจักรยานยนต์ในไทย ถึงแนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนเป็นระบบหัวฉีดทั้งหมด เห็นได้ยอดจดทะเบียนเดือนเมษายนจำนวน 80,849 คัน คิดเป็นสัดส่วนตลาดถึง 60 % เมื่อเปรียบเทียบกับระบบคาร์บูเรเตอร์ และเพื่อสร้างการรับรู้ถึงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์หัวฉีด จึงได้จัดแคมเปญประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ซื้อว่า “ดูดีๆ หัวฉีดหรือเปล่า”
ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ในช่วงนี้ ฮอนด้าได้จัดแคมเปญ ”เกาะติดอังกฤษ สู้ศึกลูกหนังโลก ลุ้นโชคทุกรอบกับฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ” รับกระแสฟุตบอลโลกฟีเวอร์ ด้วยการเปิดโอกาสให้แฟนบอลทั่วประเทศ ได้ลุ้นโชคทุกรอบไปกับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นครั้งแรกในวงการรถจักรยานยนต์ ที่เข้าซื้อลิขสิทธิ์ทีมชาติอังกฤษมาร่วมสร้างสีสันความสนุกในช่วงการแข่ง ขันฟุตบอลโลก 2010 ในครั้งนี้
ภาพและข้อมูลจาก :
17 มิ.ย. 2553
16 มิ.ย. 2553