BMW อวดบิ๊กไบค์ 4 รุ่นรวด | bmw
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทยเตรียมเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ 4 รุ่นใหม่ ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ประเดิมด้วยซุเปอร์ไบค์คันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยู BMW S 1000 RR ตามด้วย BMW F 800 R “The Naked Bike”, BMW R 1200 GS/Adventure และ BMW R 1200 RT
BMW R 1200 GS
ม.ล. กมลชาติ ประวิตร ผู้จัดการทั่วไป บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าวว่า BMW S 1000 RR เป็นการก้าวเข้าสู่เซ็กเมนท์ซุเปอร์ไบค์ครั้งแรกของบีเอ็มดับเบิลยู อีกทั้งยังเป็นการก้าวเข้าสู่การแข่งขัน World Superbike Championship โดยทีม BMW Motorrad Motorsport เองด้วย
มอเตอร์ ไซค์ BMW S 1000 RR เปี่ยมด้วยนวัตกรรมทั้งสมรรถนะและความปลอดภัย ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,000 ซีซี 193 แรงม้า และน้ำหนักเพียง 204 กิโลกรัม BMW S 1000 RR จึงมีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักดีที่สุดคันหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุลและระบบเสริมความปลอดภัยแบบแอคทีฟ เช่น ระบบเบรก Race ABS และระบบรักษาเสถียรภาพ DTC Dynamic Traction Control ทำให้ BMW S 1000 RR เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีความมั่นคงและปลอดภัยสูงที่สุดคันหนึ่ง
ส่วน BMW F 800 R ‘The Naked Bike’ ก็มีความพิเศษอย่างมากเช่นกัน ด้วยความปราดเปรียวคล่องตัวอย่างเหนือชั้น ทำให้มันได้เป็นมอเตอร์ไซค์คู่ใจของ คริส ไฟเฟอร์ แชมป์โลกการขับมอเตอร์ไซค์ผาดโผน 4 สมัย และในงานนี้เรายังมีอีก 2 รุ่นที่เป็นที่นิยมสำหรับตลาดเมืองไทยด้วย ได้แก่ BMW R 1200 GS / Adventure และ BMW R 1200 RT ด้วย”
BMW S 1000 RR
BMW S 1000 RR ซุเปอร์ไบค์คันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยู
BMW S 1000 RR พัฒนาขึ้นบนคอนเซ็ปต์มอเตอร์ไซค์แบบซุเปอร์ไบค์ ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบบนตัวถังเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา มุ่งเน้นที่เสถียรภาพการขับ ความปราดเปรียว และความเฉียบคมในการบังคับที่เป็นเลิศ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับมอเตอร์ไซค์แข่ง นอกจากนั้น BMW S 1000 RR ยังได้รับการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยต่างๆ เช่น Race ABS และระบบรักษาเสถียรภาพ DTC Dynamic Traction Control ที่สามารถปรับเลือกโหมดการขับให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานได้ เช่น โหมด Rain สำหรับถนนเปียก โหมด Sport สำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต โหมด Race สำหรับการแข่งขัน และ โหมด Slick สำหรับใช้ในสนามแข่งและใส่ยางแบบสลิ๊ค
BMW S 1000 RR ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ 1,000 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ และระบบวาล์วพิเศษที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม สามารถผลิตกำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้าที่ 13,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 112 นิวตัน-เมตรที่ 9,750 รอบ และมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรภายใน 2.9 วินาที
BMW F 800 R
BMW F 800 R เป็นมอเตอร์ไซค์ในเซ็กเมนท์สปอร์ตแบบ Naked Bike ที่เน้นในเรื่องความปราดเปรียวว่องไว บังคับควมคุมง่าย ซึ่ง BMW F 800 R ได้สร้างชื่อในการแข่งขันการขับมอเตอร์ไซค์แบบผาดโผนโดยการเป็นรถคู่ใจของ แชมป์โลกการขับมอเตอร์ไซค์ผาดโผน 4 สมัย คริส ไฟเฟอร์
BMW F 800 R ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 2 สูบ 800 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ สามารถผลิตกำลังสูงสุด 88 แรงม้าที่ 8,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 86 นิวตัน-เมตรที่ 6,000 รอบ มีจุดเด่นในเรื่องของการผลิตกำลังขับเคลื่อนในช่วงรอบที่กว้างโดยเฉพาะ ระหว่างรอบ 5,000-8,000 รอบ ซึ่งทำให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งน้ำหนักตัวถังเพียง 199 กิโลกรัม (รวมน้ำมัน) ทำให้มันเป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีความปราดเปรียวสูงที่สุดคันหนึ่ง
BMW R 1200 GS Adventure
BMW R 1200 GS / Adventure มอเตอร์ไซค์ Enduro ยอดนิยม
BMW R 1200 GS / Adventure เป็นมอเตอร์ไซค์ในเซ็กเมนท์ Enduro ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมสำหรับตลาดเมืองไทยเป็นอย่างมาก ในครั้งนี้ได้มีการปรับปรุงด้านเทคนิค โดยเครื่องสูบนอนแบบบ๊อกเซอร์ 2 สูบ 1,170 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแบบ DOHC ใหม่ เพิ่มกำลังอีก 5% เป็น 110 แรงม้าที่ 7,750 รอบและแรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตรที่ 6,000 รอบ อีกทั้งยังเพิ่มรอบการทำงานสูงสุดเป็น 8,500 รอบ (จากเดิม 8,000 รอบ) ซึ่งทำให้มันมีสมรรถนะและอัตราเร่งที่ดีขึ้น BMW R 1200 GS มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.7 วินาทีและ 3.95 วินาที สำหรับ BMW R 1200 GS Adventure
BMW R 1200 RT
BMW R 1200 RT สุดยอดมอเตอร์ไซค์แบบ Touring
BMW R 1200 RT เป็นมอเตอร์ไซค์ในเซ็กเมนท์ Touring ที่เน้นการขับขี่ทางไกลได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ใช้เครื่องสูบนอนบ๊อกเซอร์แบบ 2 สูบ 1,170 ซีซี 16 วาล์ว DOHC ซึ่งได้รับการปรับเพิ่มกำลังอีก 5% เป็น 110 แรงม้าที่ 7,750 รอบและแรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตรที่ 6,000 รอบ อีกทั้งยังเพิ่มรอบการทำงานสูงสุดเป็น 8,500 รอบ (จากเดิม 8,000 รอบ) พร้อมระบบเกียร์ 6 สปีด สามารถสร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.8 วินาที และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางไกล BMW R 1200 RT มาพร้อมกับช่วงล่างแบบ ESA II (Electronic Suspension Adjustment) ซึ่งสามารถปรับความนุ่มนวลให้เหมาะสมกับสภาพถนนและการบรรทุกได้ นอกจากนั้นยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น วิทยุ ซีดี และ iPod ได้อีกด้วย
ทั้ง นี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์ BMW, MINI และ Rolls-Royce และรถมอเตอร์ไซค์ BMW เรามีเครือข่ายการผลิต 24 แห่งใน 13 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครือข่ายจำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ในปีค.ศ. 2009 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปมียอดขายรถยนต์ 1.29 ล้านคันและรถมอเตอร์ไซค์ 87,000 คัน มีรายได้ 50.68 ล้านยูโร และมีพนักงาน 96,000 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนา เทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนั้นเรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยการคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิต และจากความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างไม่ลดละ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปจึงได้รับการจัดอันดับให้เป็น The World’s Most Sustainable Car Manufacturer โดยสถาบัน Dow Jones ใน 5 ปีที่ผ่านมา
ภาพและข้อมูลจาก
27 ก.พ. 2553
23 ก.พ. 2553