ขี่สปอร์ต 2 รุ่นของ Honda หลังจากเปิดตัวที่งาน Motor Expo 2023

เรียกได้ว่าเปิดตัวไปกันถึง 5 รุ่นเลยทีเดียวสำหรับ Honda BigBike ที่งาน Motor Expo2023 ซึ่งหลังจากเปิดตัวได้ 1 วัน พวกเราก็ได้ทำการทดสอบทันที โดยวันแรกสำหรับการทดสอบพวกเราได้ทดสอบอยู่สองรุ่นด้วยกันนั่นก็คือ All New Honda CBR 650 R และ All New CBR 500 R 

สถานที่ที่เราใช้ทดสอบโมเดลสปอร์ตตัวใหม่ของทาง Honda ก็คือ สนามแก่งกระจานเซอร์กิต ซึ่งแน่นอนว่าการทดสอบเป็นแบบสนามทำให้เราสามารถรีดประสิทธิภาพของตัวรถได้เต็มที่

เรามาดูรายละเอียดของตัวรถกันก่อนดีกว่า 

เริ่มที่เครื่องยนต์ All New Honda CBR 650 R

 

 

ตัวเครื่องยนต์มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 649cc ระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ DOHC มีแรงม้าสูงสุดที่ 93.8 แรงม้า ที่รอบ 12,000 รอบ/นาที แรงบิดอยู่ที่ 63 นิวตันเมตร ที่รอบ 9,500 รอบ/นาที เกียร์ 6 สปีด Clutch มาในแบบ Assist Slipper Clutch ตัวรถมีการแมพเครื่องยนต์มาใหม่ ทำให้รอบต้น และรอบกลางของเครื่องยนต์มาไวมากขึ้น โดยการปรับนี้ยังรวมไปถึงการบิดแคมชาร์ปบิดให้ย้อนหลังไปอีก -2 องศา ตัวรถมาพร้อมกับระบบ HSTC(Honda Selectable Torque Control) ที่สามารถเปิด หรือปิดก็ได้

ช่วงล่าง และเฟรม 

โช้กหน้าเป็นแบบ Up-Side Down แบบ SFF-BP จาก Showa ที่มีขนาดแกนโช้กอยู่ที่ 41 มิลลิเมตร ในส่วนของโช้กหลังเป็นแบบโช้กเดี่ยว MonoShock มีแกนโช้กขนาด 14 มิลลิเมตร ที่สามารถปรับค่าความแข็งของสปริงได้ 10 ระดับ ในส่วนของเฟรมใช้เฟรมแบบ Diamond ที่ได้ปรับเปลท้ายมาใหม่ทำให้มีน้ำเบาเบาลง รวมแล้วตัวรถมีน้ำหนักเบาลงกว่ารุ่นเดิม 3 กิโลกรัม ทำให้ตัวของ All New Honda CBR 650 R มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 205 กิโลกรัม ยางหน้าใช้ขนาด 120/70 ขอบ 17 นิ้ว ยางหลังใช้ขนาด 180/55 ขอบ 17 นิ้ว 

แฟริ่ง

แฟริ่งได้ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ทำให้ตัวรถดูเพรียวยิ่งขึ้น ไฟรอบคันมาในแบบ Full Led หน้าจอเปลี่ยนมาเป็นหน้าจอแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้โดยผ่าน App Honda RoadSync ในส่วนตัวของหน้าจอสามารถควบคุมได้ที่ประกับฝั่งซ้ายมือ สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ถังน้ำมันของตัวรถมีขนาด 15.4 ลิตร

ระบบเบรก

เบรกหน้าเป็นดิกส์เบรกคู่แบบเรเดียนเม้าส์ที่มีขนาดจานเบรกอยู่ที่ 310 มิลลิเมตร มาพร้อมกับปั้มเบรกข้างละ 4 พอท ปั้มหลังเป็นแบบ 1 พอท ที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 240 มิลลเมตร

มิติของตัวรถ

กว้าง x ยาว x สูง = 750 x 2,120 x 1,145 มิลลิเมตร ความสูงจากเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 110 มิลลิเมตร ความสูงจากเครื่องยนต์ถึงพื้นอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร ฐานล้อมีความยาวอยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร 

 

 

ฟิลลิ่งด้านการขับขี่

ท่านั่ง

ท่านั่งเป็นท่านั่งออกไปทางรถสปอร์ตทัวริ่ง ไม่ก้มมากจนเกินไป แต่ยังมีฟิลลิ่งแบบรถสปอร์ตอยู่ แน่นอนว่า All New Honda CBR 650 R ถูกออกแบบมาให้เพื่อใช้ในการขับขี่ทั่วไปเป็นหลัก หากใครจะเอาไปลงสนาม ก็สามารถปรับแต่งในส่วนของแฮนด์ พักเท้าให้เข้ากับสรีระของผู้ขับขี่ได้เลย

 

 

อัตราเร่ง

อัตราเร่งของตัวรถต้องบอกว่าหลังจากที่ปรับองศาแคมชาร์ปมาใหม่ ตัวรถในช่วงของรอบตันรอบกลาง มาไวยิ่งขึ้นแบบรู้สึกได้ 

 

 

ช่วงล่าง

ต้องบอกว่าช่วงล่างหากขับขี่บนท้องถนนทั่วไปมีความพอดีเลย แต่หากขับขี่ในสนาม ต้องปรับช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโช้กหน้าโช้กหลัง แต่โช้กหลังเดิมๆสามารถปรับระดับความแข็งของสปริงได้ ทำให้หายห่วงได้ในระดับหนึ่ง 

 

 

ระบบเบรก

ด้วยระบบเบรกต้องบอกว่าเอาอยู่สบายๆ เบรกดีมากๆเลยทีเดียว เอาอยู่แบบสบายๆ 

 

 

การควบคุม

ด้วยที่ปรับอะไรมาหลายๆอย่างต้องบอกว่าทำให้ตัวรถควบคุมได้ง่ายมากๆ ด้วยน้ำหนักที่เบาลงอีก 3 กิโลกรัม ทำให้ตัวรถพลิ๊กได้ไวขึ้น กอดรถลี้ยวได้ง่ายมากๆ เรียกได้ว่าขี่สนุกสุดๆไปเลย

 

 

สรุป

ตัวรถที่ปรับมาใหม่หลายๆอย่างทำให้ขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้น ขี่ง่ายขึ้น ราคาของ All New Honda CBR 650 R

มีราคาอยู่ที่ 327,300 บาท หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูตัวจริงได้ที่ Honda BigWing ใกล้บ้านได้เลยครับ 

 

 

All New CBR 500 R

ทางด้านของ All New CBR 500 R ได้ถูกปรับปรุงภายนอกมาใหม่ทั้งหมดเช่นกัน เรียกได้ว่าสวยมากยิ่งขึ้นแน่นอนว่านี่คือ Gen5 ของ CBR 500 R แล้ว ตัวรถที่ปรับแฟริ่งมาใหม่ทั้งคัน ไฟหน้าดูโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น แถมยังเพิ่ม Winglet มาอีกด้วยเรียกได้ว่ามีความเป็นรถสปอร์ตมากๆเลย หน้าจอมาในแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว ที่สามารถเชื่อต่อกับสมาร์ทโฟนได้โดยผ่าน App Honda RoadSync แน่นอนว่าหน้าจอสามารถความคุมผ่านประกับฝั่งซ้าย

ทางฝั่งของระบบเครื่องยนต์ยังมาพร้อมกับระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทางค่ายใส่ระบบนี้มาในรุ่นของ 500cc 

 

 

เครื่องยนต์มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 471cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีแรงม้าที่ 47 Hp ที่รอบ 8,600 รอบ/นาที แรงบิดอยู่ที่ 43 นิวตันเมตร ที่รอบ 6,500 รอบ/นาที น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 191 กิโลกรัม ถังน้ำมันของตัวรถมีขนาด 17.1 ลิตร

โช้กหน้ามาในแบบ Up-Side Down ที่มีขนาดแกนโช้กอยู่ที่ 41 มิลลิเมตร แบบ (SFF-BP) จาก Showa ล้อหน้ามาในขนาด 120/70 ขอบ 17 นิ้ว โช้กหลังเป็นแบบ Mono Shock ที่สามารถปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ ล้อหลังมาในขนาด 160/60 ขอบ 17 นิ้ว เบรกหน้ามาในแบบดิกส์เบรกแบบคู่ ที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 296 มิลลิเมตร ปั๊มล่างแบบเรเดียนเม้าส์ขนาด 4 พอท เบรกหลังแบบ 1 พอท ที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 240 มิลลิเมตร

มิติของตัวรถ

กว้าง x ยาว x สูง = 760 x 1,410 x 1,145 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 2,080 มิลลิเมตร ความสูงจากเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 785 มิลลิเมตร ความสูงจากเครื่องยนต์ถึงพื้น 130 มิลลิเมตร 

 

 

ฟิลลิ่งการขับขี่

ท่านั่ง

ท่านั่งเป็นท่าที่นั่งสบายๆไม่ก้มมาก ความสูงจากเบาะถึงพื้นทำให้เหยียบได้เต็มเท้า ท่านั่งไม่ก้มมาก ออกไปทางสปอร์ตทัวร์ริ่งมากกว่า 

 

 

ควบคุม

ด้วยตัวรถที่รู้สึกว่ามีน้ำหนักที่เบา ทำให้เราควบคุมได้ง่ายเลี้ยวง่าย 

 

 

ช่วงล่าง

ช่วงล่างของตัวรถหากเอาไปขับขี่บนถนนแบบออนโรด มีความพอดีเลย สำหรับในสนามเองช่วงล่างต้องเซ็ทใหม่ให้เขากับผู้ขับขี่ แต่โดยรวมแล้วต้องบอกว่าช่วงล่างทำได้ดีเลยสำหรับค่าเซ็ทติ้งจากโรงงาน 

 

 

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์อัตราเร่งในรอบต้นที่ดี ด้วยเครื่องยนต์สองสูบทำให้มีกำลังในรอบต้นดีเป็นอย่างมาก บิดติดมือสบายๆ 

 

 

ระบบเบรก

เบรกของตัวรถต้องบอกว่าเบรกดีเลยเอาอยู่สบายๆ ด้วยเบรกแบบเรเดียนเม้าส์แบบเบรกคู่ 4 พอท มั่นใจได้อย่างสบาย 

 

 

สรุปแล้ว

ตัวรถเป็นรถที่ขับขี่ได้สนุกรอบต้นมาดีมากๆ อัตราเร่งตอบสนองได้ดี รถมีน้ำหนักเบา พลิ๊กง่าย คนที่พึ่งขี่ใหม่ๆก็สามารถขี่ได้ ราคาของ All New CBR 500 R มีราคาอยู่ที่ 222,800 บาท

 

 

หากใครสนใจรถทั้งสองรุ่น สามารถเข้าไปดูไปชมตัวจริงได้ที่ Honda BigWing ใกล้บ้านได้เลย

 

ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : www.mocyc.com
Page Facebook : www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : instagram.com/mocycthailand