Honda 750 Series ทอร์คโหดเหมือนโกรธใครมา

เรียกได้ว่าทาง Honda ได้ปล่อยของดีออกมาให้ลูกค้าได้ใช้กันเลยทีเดียวกับ 750 Series ไม่ว่าจะเป็น Honda XL750 Transalp เป็นรถ Adventure ขนาด 750cc ที่ราคาไม่ถึง 400,000 บาท และHonda CB 750 Hornet ที่มาในราคา 319,000 บาท ที่สำคัญคือ ทั้งสองรุ่นเป็นเครื่องยนต์ที่ต้องบอกว่าขับขี่ได้สนุกสุดๆเลย

เครื่องยนต์ใช้เครื่องยนต์ ขนาด 755cc Parallel Twin SOHC 2 สูบ 4วาล์ว/สูบ ให้แรงม้าสูงสุดที่ 91.91 แรงม้า ที่รอบ 9,500 รอบ/นาที ขนาดกระบอกสูบ และช่วงชักอยู่ที่ 87x63.5 มิลลิเมตร กำลังอัดอยู่ที่ 11:1 เกียร์ 6 สปีด ถึงเครื่องยนต์จะเหมือนกัน แต่ต้องบอกว่าฟิลลิ่งการขับขี่ อัตราเร่งคนละอย่างกันเลย

เรามาดูเรื่องรายละเอียดภายนอกกันดีกว่า เริ่มที่ Honda CB 750 Hornet

ขนาดของตัวรถ กว้างxยาวxสูง = 780x2,090x1,085 ฐานล้อมีความยาวอยู่ที่ 1,420 มิลลิเมตร ความสูงจากเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 795 มิลลิเมตร ล้อหน้าใช้ขนาด 120/70 ขอบ 17 นิ้ว ถังน้ำมันขนาด 15.2 ลิตร

โช้กหน้าเป็นแบบ Up-Side Down ที่มีขนาดแกนโช้กอยู่ที่ 41 มิลลิเมตร มีระยะยุบอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร เบรกหน้าเป็นดิกส์เบรกแบบคู่เรเดียนเม้าส์ 4 พอท มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 296 มิลลเมตร

โช้กหลังแบบสปริงเดี่ยว Pro-Link ที่มีระยะยุบอยู่ที่ 150 มิลลิเมตร เบรกหลังแบบดิกส์เบรกเดี่ยว ที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 240 มิลลิเมตร ยางหลังใช้ขนาด 160/60 ขอบ 17 นิ้ว

ระบบเบรกมาพร้อมกับ ABS แบบ Dual Channel

หน้าจอของตัวรถใช้หน้าจอแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว ในส่วนตัวของหน้าจอยังมีระบบ Honda SmartPhone Voice Control System (HSVCs) ผ่านแอพพลิเคชั่น Honda RoadSync ไฟรอบคันมาในแบบ FULL LED ตัวรถมาพร้อมกับคันเร่งไฟฟ้า โหมดการขับขี่มีอยู่ 3โหมด +1 ระบบไฟเลี้ยวของตัวรถมาพร้อมกับระบบ ยกเลิกไฟเลี้ยวอัตโนมัติ

ในส่วนของ Honda XL750 Transalp

ขนาดของตัวรถ กว้างxยาวxสูง = 383x2,325x1,1450 มิลลิเมตร ฐานล้อมีความยาวที่ 1,560 มิลลิเมตร ความสูงจากเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 850 มิลลิเมตร ถังน้ำมันขนาด 16.9 ลิตร น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 208 กิโลกรัม

โช้กหน้าแบบ Up-Side Down ที่มีขนาดแกนโช้กอยู่ที่ 43 มิลลิเมตร แบบSFF-CA มีระยะยุบ200 มิลลิเมตร ยางหน้าใช้ขนาด 90/90 ขอบ 21นิ้ว เบรกหน้าเป็นแบบดิกส์เบรกคู่แบบแอกเซียลเม้าส์ ที่มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 310 มิลลิเมตร

โช้กหลังเป็นโช้กเดี่ยวแบบ Pro-Link มีระยะยุบอยู่ที่ 190 มิลลิเมตร ยางหลังมีขนาด150/70 ขอบ 18 นิ้ว เบรกหลังแบบดิกส์เบรกเดี่ยว มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 256 มิลลิเมตร

เบรกหน้า และเบรกหลังมาพร้อมกับระบบ ABS ที่สามารถปิดการทำงานของ ABS ที่ล้อหลังได้ (โหมด User)

เรือนไมล์ ใช้หน้าจอแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว บอกข้อมูลการขับขี่ครบครันแถมยังสามารถปรับสีของหน้าจอได้ด้วย ตัวจอยังมีระบบ Honda Smartphonce Voice Control System (HSVCs)โหมดการขับขี่ มี 5 โหมด โดยมี 4 โหมด ที่รถได้ถูกตั้งค่าเอาไว้ ได้แก่ Standard, Sport, Rain, Gravel ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของกำลังเครื่องยนต์, เอ็นจิ้นเบรก, แทร็กชั่นทอร์กคอลโทล ส่วนอีก 1 โหมด จะเป็นโหมด User ที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าได้เองโดยอิสระ (ปรับได้ตามใจต้องการทุกอย่างเลย)

ไฟรอบคันมาในแบบ Full LED ตัวรถมาพร้อมกับคันเร่งไฟฟ้า ระบบไฟเลี้ยวของตัวรถมาพร้อมกับระบบ ยกเลิกไฟเลี้ยวอัตโนมัติ

ฟิลลิ่งด้านการขับขี่

เราเริ่มที่ Honda CB 750 Hornet กันก่อน

ท่านั่ง

ท่านั่งเป็นท่านั่งตามสไตล์เน็กเก็ตไบค์ คือโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย เรียกได้ว่าฟิลลิ่งใกล้เคียงกับรถสปอร์ตเลย เพียงแต่แฮนด์เป็นแฮนด์บาร์ ทำให้เราสามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

การควบคุม

การควบคุมของตัวรถต้องบอกว่าตัวรถมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา ควบคุมง่ายสำหรับคนที่เคยขี่รถที่มีทอร์กหนักๆมา แต่มือใหม่อาจจะมีเหวอๆบ้างเล็กน้อย ต้องใช้เวลาปรับตัว

พละกำลังของเครื่องยนต์

ตัวรถมีทอร์กที่หนักเลยทีเดียว จะเรียกได้ว่าบิดก็เด้งเร่งก็ลอยก็ไม่ผิด ขี่ได้สนุกมากๆ แต่ไม่ต้องกังวลเพราะทาง Honda ได้ติดตั้งระบบทอร์กคอลโทลมาให้ เรียกได้ว่าเซฟได้เยอะเลย

ช่วงล่าง

ด้วยช่วงล่างของตัวรถ ถ้าหากขับขี่แบบออนโรด ต้องบอกว่ามีความพอดีไม่แข็งกระด้างเกินไป

ระบบเบรก

ในส่วนของระบบเบรก ต้องบอกว่าเบรกหนึบ ไว้ใจได้เลย ส่วนระบบ ABS ต้องบอกว่าทำงานได้ดีเลย ไม่ต้องกังวล

ข้อสังเกตุ

หากพึ่งเคยขับขี่เป็นครั้งแรก ควรทำความรู้จักกับรถก่อน เพราะทอร์กหนักพอสมควรเลย

ในส่วนของ Honda XL750 Transalp

ท่านั่ง

ท่านั่งต้องบอกว่าเป็นท่านั่งที่สบายตามสไตล์รถ ADV แฮนด์บาร์มีความกว้างพอสมควรทำให้ขับขี่ได้ง่าย

พละกำลังเครื่องยนต์

ต้องบอกว่าเครื่องยนต์ถึงจะเป็นเครื่องยนต์แบบเดียวกัน แต่ฟิลลิ่งมีความรู้สึกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นคันเร่ง จะมีความรู้สึกว่าหน่วงกว่าทางด้านของ Hornet เล็กน้อย แต่หากกระแทกคันเร่งก็มีเหวอเช่นกัน เรียกได้ว่าเครื่องยนต์บล็อคนี้ทรงพลังมากๆเลย

การควบคุม

ตัวรถควบคุมได้ง่ายตามสไตล์แฮนด์บาร์รถ ADV น้ำหนักลงตรงกลางรถพอดี ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นคงเป็นอย่างมาก

ช่วงล่าง

ช่วงล่างต้องบอกว่าหากขับขี่ทางดำหนึบมากๆ แต่หากเอาไปลุยต้องบอกว่าช่วงล่าง(สปริง)เด้งสวนมาเร็วเกินไป หากไปปรบความหนืดได้จะเยี่ยมมากๆ

ระบบเบรก

ถึงระบบเบรกจะเป็นแอคเซียลเม้าส์ แบบสองพอท ต้องบอกว่าเอาอยู่สบายๆมั่นใจได้เลย ระบบของตัวรถยังสามารถปิดระบบเบรก ABS ที่ล้อหลังได้ เรียกได้ว่าไม่ต้องกลัวล้นเลย

ข้อสังเกตุ

อย่างที่บอกไปเร่องพละกำลังเครื่องยนต์ค่อนข้างทอร์กหนัก ทำให้มือใหม่ หรือผู้ที่จับรถครั้งแรกต้องระวัง