ทดสอบยาง Bridgestone Battlax สำหรับสายซิ่ง รุ่น Racing Battlax V02, R11
ทดสอบยาง Bridgestone Battlax สำหรับสายซิ่ง รุ่น Racing Battlax V02, R11
เรียกได้ว่างานนี้เป็นงานทดสอบยางที่ใหญ่ที่สุดของปีเลยก็ว่าได้สำหรับการทดสอบยางของBridgestone เพราะงานนี้เรามาทดสอบยางกันที่สนามระดับโลกอย่างสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เทสยางกันแบบจุกๆจุใจกันเลยก็ว่าได้ ยางที่ใช้ในการทดสอบเรียกได้ว่ามีเกือบทุกรุ่นเลย ยกเว้นแต่ยางสายฝุ่นที่ไม่ได้เอามาทดสอบ เพราะสนามเป็นสนามรูปแบบของเซอร์กิตนั่นเอง
สำหรับความสนุกในงานนี้ก็คือ ผู้ที่มาทดสอบยางสามารถเลือกได้ว่าอยากขับขี่รถรุ่นไหนบ้าง(รถมีให้เลือกมากกว่า 30 รุ่นเลย) ยางแบบไหนบ้าง และมีรอบขับขี่ที่เรียกได้ว่าจุกใจเป็นอย่างมาก เพราะรอบขับขี่รอบละ 20 นาที 8 Section ถ้าหากขับขี่รถที่ขับขี่มาแล้ว สามารถแจ้งทางทีมงานได้เลย
ยางที่รีวิวก็คือรุ่น Bridgestone Racing Battlax V02 ที่เป็นยางสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ หรือยางที่เราเรียกกันว่ายาง สลิคส์ ซึ่งเป็นยางตัวท๊อปของทาง Bridgestone มีให้เลือกคอมพาวนด์ทั้งแบบ Soft และแบบ Medium
จุดเด่น
-GP Belt ช่วยเพิ่มการยึดเกาะในบริเวณหน้าสัมผัสและทำให้ยางทนทานมากขึ้น
-เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนให้เข้าโค้งได้อย่างเต็มสมรรณะ
-อายุการใช้งานยาวนานขึ้น และช่วยทำเวลาต่อรอบดีขึ้น
*ข้อมูลนี้เป็นการเปรียบเทียบกับรุ่น Racing Battlax V01 เฉพาะยางหลัง
*แนะนำให้ใช้เครื่องวอมยางก่อนการใช้งาน
สำหรับยาง Bridgestone Racing Battlax V02 ที่ใช้ทดสอบในครั้งนี้ทางทีมงานได้นำไปติดตั้งกับรถ Honda CBR 1000 RR-R ที่ได้ทำการแฟล็ชกล่องมาแล้วแน่นอนว่าอารมณ์รถคือรถแข่งเลย ซึ่งแรงม้าของตัวรถเกิน 200 แรงม้าอย่างแน่นอน ทำให้เราได้ทดสอบยางได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างแน่นอน
ฟิลลิ่งการขับขี่
ต้องบอกว่ายาง Bridgestone Racing Battlax V02 มีจุดเด่นในเรื่องของโครงสร้างของยางที่ดี ทำให้การพลิ๊กรถสามารถพลิ๊กได้ไวมากๆ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเดินคันเร่งได้ทันที สำหรับโค้งความเร็วสูงอย่างโค้ง 4 ของสนามช้าง ต้องบอกว่าสามารถเข้าไปได้ไวเลยด้วยโครงสร้างยางที่มีจุดเด่น ทำให้รู้สึกว่ารถนิ่งเป็นอย่างมาก
ข้อสังเกต
-ต้องวอมยางให้อุณหภูมิถึงก่อนใช้งาน
-ความเร็วในโค้งต้องมีตลอด
สรุปแล้ว
ยาง Bridgestone Racing Battlax V02 เป็นยางที่มีจุดเด่นในการพลิ๊กโค้งได้ไว ทำให้เราสามารถใช้ความเร็วในโค้งต่อเนื่องได้ดี แต่ต้องมีความเร็วตลอด
สำหรับรุ่น Bridgestone Racing Battlax R11 รถที่เราใช้ทดสอบคือ Yamaha YZF R-1 และ Aprilia RSV4
ยางสมรรถนะสูงแบบมีดอกยาง สำหรับใช้ในการแข่งขันที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีตในทุกขั้นตอน เพื่อประสิทธิภาพการทำเวลาต่อรอบให้ดีที่สุด ด้วยการผสมผสานของเทคโนโลยีที่พัฒนาเพื่อใช้ใน การแข่งขันระดับโลกโดยเฉพาะ ควบคู่กับเทคโนโลยีโครงสร้างยางและเนื้อยางสุดล้ำสมัยจากบริดจสโตน เพื่อส่งต่อประสิทธิภาพระดับโลกสำหรับยางแข่งขันให้ทุกท่านได้สัมผัส
จุดเด่น
โครงสร้างยางแบบขดลวดเดียวแบบใหม่ :
- ปรับระยะห่างความถี่ระหว่างขดลวด HTSPC ให้อยู่ในระดับที่ เหมาะสมสำหรับส่วนต่าง ๆ ของยาง
- ปรับความยืดหยุ่นของยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุด ทั่วบริเวณดอกยาง
- ยางหน้า: เพิ่มพื้นช่องว่างบริเวณขอบยางเพื่อช่วยในการเข้าโค้ง และลดช่องว่างพื้นที่หน้ายางเพื่อลดระยะเบรคให้สั้นลง
GP Belt
GP Belt เป็นโครงสร้างยางอีก 1 ชั้นที่อยู่บน V-MS Belt
ถูกใช้ในยาง บริดจสโตน เรซซิ่ง สลิคส์ (วีโอทู) ด้วยเช่นกัน ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า GP Belt จะช่วยเสริมให้ยางคงรูปได้ดีกว่า ป้องกันการลื่นไถลเนื่องจากยางผิดรูป
ผลลัพธ์ที่ได้
- เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง
- สร้างการปรับรูปของยางให้ถูกต้อง ซึ่งมีส่วนช่วยในขณะที่ยางได้รับความร้อนเป็นเวลานาน
- สามารถใช้ส่วนสัมผัสพื้นของยางมากที่สุดในช่วงที่เร่งความเร็วได้
ฟิลลิ่งการทดสอบ
จริงๆแล้วยาง Bridgestone Racing Battlax R11 ถ้าหากเรียกง่ายก็คือ ยางสลิคส์แกะดอกยางนั่นเอง เรียกได้ว่าตัวยางมีความหนึบ พลิ๊กโค้งได้ไว ทำให้รู้สึกมั่นใจในการใช้คันเร่งมากขึ้นนั่นเอง
ข้อสังเกต
-ถ้าเป็นรถที่มีทอร์กสูง อาจจะรู้สึกถึงท้ายที่สไลต์ออกได้
สรุปแล้ว
ยาง Bridgestone Racing Battlax R11 เป็นยางที่มีเนื้อยางเดียวกับยางสลิคส์เลยก็ว่าได้ ตัวเนื้อยางมีความหนึบ โครงสร้างยางแข็งแรงทำให้พลิ๊กรถได้ไว
หากใครสนใจยางของ Bridgestone สามารถเข้าไปดูไปชมตัวจริงได้ที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านได้เลยครับ
ขอขอบคุณ Bridgestone Thailand มากๆครับที่ให้โอกาสพวกเราทีมงาน Mocyc.com ได้เข้าร่วมทดสอบยางในครั้งนี้
ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : www.mocyc.com
Page Facebook : www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : instagram.com/mocycthailand