2022 Honda CBR150R กับความันส์ในสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

เรียกได้ว่า Honda CBR150R เป็นตัวเริ่มต้นสำหรับผู้ที่เริ่มขับขี่แนวสปอร์ตไบค์ แถมยังอยู่ในตระกลูของ CBR Series แต่ความสนุก และความมันส์ของการขับขี่ต้องบอกว่าไม่เล็กเลยทีเดียว หลังจากที่ปรับโฉมกันมาทำให้หน้าตาของ 2022 Honda CBR150R มีความเหมือนกับ CBR250RR เลยทีเดียว เรียกว่ามีความสปอร์ตขั้นสุดเลยทีเดียวกับรูปร่างหน้าตาของตัวรถ

2022 Honda CBR150R มีอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่น STD และรุ่น ABS

ไฟรอบคันมาในแบบ Full LED ไฟหน้ามีไป DRL มาให้ด้วย

ในส่วนของแฟริ่งด้านขาง ได้มีครีบด้านข้างคล้ายกับ CBR1000RR-R

โช้กหน้ามาในแบบ Up-Side Down จาก Showa ที่มีขนาดแกนโช้กอยู่ที่ 37 มิลลิเมตรซับแรงสะเทือนดีขึ้นถึง 3.5 เท่า อาการกระด้างลดลงเมื่อขับขี่แบบสปอร์ต โช้กหลังเป็นแบบ Mono Shock

ยางหน้ามีขนาด 100/80 ขอบ 17 นิ้ว ยางหลังมีขนาด 130/70 ขอบ 17 นิ้ว ยางที่ติดมากับรถเป็นยางของ IRC

ตัวเครื่องยนต์ยันเป็นเครื่องบล็อคเดิมในพิกัด 149.16cc ระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ DOHC สูบ 4 วาล์ว เกียร์ 6 สปีด มีระบบ Assist / Slipper Clutch มาให้ด้วย ทำให้เบาแรงมากขึ้น ลดแรงกระชากของล้อหลังในขณะเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาสู่เกียร์ต่ำ ทางด้านของคอท่ออากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ ทาง Honda ได้ขยายความยาวของท่อเพิ่มขึ้น 60% ปรับปรุงอากาศช่วงรอบเครื่องยนต์ ต่ำ-กลาง ให้เข้าสู่ห้องเผาไหมได้มากขึ้น

มิติของตัวรถอยู่ที่ กว้าง x ยาว x สูง อยู่ที่ 700(รุ่นเดิมอยู่ที่ 694) x 1,983 x 1,090(รุ่นเดิมอยู่ที่ 1,077) มิลลิเมตร ระยะฐานล้ออยู่ที่ 1,310 มิลลเมตร (รุ่นเดิมยาว1,309) ระยะห่างจากเครื่องยนต์ถึงพื้นอยู่ที่ 151 เตี้ยกว่ารุ่นเดิม 15 มิลลเมตร ความสูงจากเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 788 มิลลเมตร (รุ่นเดิมสูง 787 มิลลเมตร) ถังน้ำมันมีขนาด 12 ลิตร

ฟิลลิ่งในการขับขี่

เรามาเริ่มที่ท่านั่งกันก่อนเลยดีกว่า ท่านั่งเป็นท่านั่งแบบสปอร์ต แต่เป็นสปอร์ตที่นั่งค่อนข้างสบายเลยไม่ก้มมาก ซึ่งต้วรถเองก็ยังคงคอนเซ็ปต์ที่เป็นซิตตี้ไลฟ์ไว้อยู่ทำให้ พักเท้าขาไม่งอมากเท่าไหร่ ถ้าหากพูดถึงช่วงตอนหมอบ ต้องบอกว่าท่าหมอบค่อนข้างก้ม และปวดคอนิดหน่อย เนื่องจากชิลหน้าของตัวรถเตี้ย และถังนำมันสโลปไปท่าข้างหน้านั่นเอง ทำให้เราต้องก้มและเงยหน้ามากกว่าปกติ

อัตราเร่งของเครื่องยนต์

ต้องบอกว่าคอกรองอากาศที่ทาง Honda ปรับปรุงมา ทำให้อัตราเร่งในรอบต้น และรอบกลางดีขึ้น ทำให้เราเรียกใช้คันเร่งในรอบต่ำๆได้ดีกว่าเดิม ในส่วนของท๊อปสปีดที่ทำได้จากสุดทางตรงโค้ง 1 ไปยังโค้ง 3 ของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ถ้าหากวิ่งคันเดียว สามารถทำได้อยู่ที่ 131-132 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ถ้าหากดูดลม สามารถทำได้ไปแตะความเร็วที่ 139 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในส่วนของ Assist / Slipper Clutch ทำงานได้ดี เรียกว่าสับเกียร์ลงไวๆไม่มีอาการท้ายออกเลย

ช่วงล่าง+เบรก

ช่วงล่างที่ได้รับการอัพเกรดโช้กหน้าให้เป็นแบบ Up-Side Down สามารถซับแรงได้ดีขึ้นจริงๆ เพราะเวลาเบรกหนักๆช่วงโค้ง 3 ไม่มีอาการสับขึ้นแฮนด์ โช้กหลังสำหรับตัวแอดเองตอนนี้น้ำหนักพุ่งไปแตะที่ 80 กิโลกรัมในวันที่เทส แบกน้ำหนักต่างจากคนในกลุ่ม 10 กิโลกรัม++ แต่ตัวรถก็ยังถือว่ายังทำความเร็วได้ดูดกลุ่มได้ แต่โช้กหลังต้องการความแข็งมากกว่านี้ ระบบเบรก ถือว่าทำได้ดีเลย เบรกหนึบ ระบบ ABS ที่ล้อหลังตอบสนองได้ดี (ใช้เบรกจริงๆ โค้ง 3 กับโค้ง 12 เท่านั้น)

การเลี้ยงโค้ง

ต้องบอกว่าด้วยตัวรถที่น้ำหนักเบา ทำให้เราพลิ๊กหรือเข้าโค้งได้ไว แต่ด้วยการที่เราพลิ๊กไว และโช้กหลังที่เซ็ทค่ามาจากโรงงาน และเนื่องด้วยคนขี่น้ำหนักค่อนข้างเยอะ อาจจะทำให้มีการดิ้นๆของล้อหลังบ้าง

สรุป

2022 Honda CBR150R เป็นรถที่ถือว่าขับขี่สนุกอีก 1 รุ่นเลยทีเดียว รถของทางค่ายเองก็ขึ้นชื่อเรื่องของการขับขี่ง่าย เป็นมิตรของผู้ขับขี่อยู่แล้ว โดยตัวรถเองได้ออกมาในแบบซิตตี้ไลฟ์ ทำให้รอบ ต้น-กลาง ขับขี่สนุก สำหรับสายซิ่งในสนามอาจจะต้องทำการเปลี่ยนหลายๆอย่างเพื่อให้ขับขี่สนุกกว่าเดิม แน่นอนว่าทำรถแข่งแล้ว รับรองว่าเป็นอีก 1 รุ่นที่ขับขี่ได้สนุกแน่นอน