เปิดรายละเอียด อสูรกายตัวใหม่แห่งเมืองโบโลญญา All New Ducati Monster
เปิดรายละเอียด อสูรกายตัวใหม่แห่งเมืองโบโลญญา All New Ducati Monster
ในฝั่งเอเชียก็มีอาวุธประจำกายอย่างดาบคาตานะ , ยักษ์เขียว , ปีกยักษ์ หรือเจ้าแห่งด้านมืดในประเทศญี่ปุ่น แต่ ณ แห่งเมืองโบโลญญาในประเทศอิตาลี ก็ได้กำเนิดอสูรกายตัวใหม่มาพร้อมกับเฉดสีแดงที่ดูเป็นเอกลักษณ์ เจ้าอสูรกายตัวนี้มีชื่อว่า All New Ducati Monster
ด้วยชื่อเสียงของ Naked Bike ในตำนานที่เชื่อได้เลยว่าไม่มีใครไม่รู้จัก Monster รูปทรงที่ดูโดดเด่น ไฟหน้าทรงกลม ตัวถังที่บึกบึน พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ความหล่อแบบนี้ทำให้หลาย ๆ คนนั้นเทใจไปให้ Ducati แบบไม่มีเหตุมีผล Ducati Monster เป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามตลอดระยะเวลา 29 ปี ที่ผ่านมา โดยสร้างสถิติผลิตและจำหน่ายสู่ท้องตลาดไปแล้วถึงกว่า 350,000 คัน ทั่วโลก
วิวัฒนาการย่อมมีการเปลี่ยนแปลง เริ่มมีคนหยิบเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับอุสหกรรมยานยนต์ต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น ในวันที่ 29 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา Ducati ก็ได้เปิดตัว All New Ducati Monster ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 937 ซีซี 111 แรงม้า และแรงบิด 93 นิวตันเมตร และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เยี่ยมยอดและเหนือชั้นมากขึ้น น้ำหนักที่เบาเพียง 166 กิโลกรัม ลดลงจากรุ่น Monster 821 ไปถึง 18 กิโลกรัม เมื่อดูน้ำหนักแล้วมันเบามากอย่างน่าเหลือเชื่อถ้าเทียบกับโมเดลในค่ายก็ใกล้เคียงกับ Ducati 1299 Superleggera เลยก็ว่าได้ และอัดแน่นเต็มไปด้วยเทคโนโลยี และยังขับขี่สนุกกว่าเดิมเท่าที่ Ducati เคยมีมาทั้งหมด
จุดเด่นของ All New Ducati Monster
I Am A Monster คือคอนเซ็ปท์ใหม่ที่ทาง Ducati ได้สร้างขึ้นมา และยังมาพร้อมกับจุดเด่นใหม่ถึง 5 จุด
1. ชุดเครื่องยนต์ถูกปรับปรุงและดีไซด์ใหม่ ใช้เครื่องยนต์แบบ L-Twin Desmodromic valve Testastretta 11˚ทำให้มีน้ำหนักลดลงไปถึง 2.4 กิโลกรัม
2. ล้ออลูมิเนียมอัลลอยดีไซน์ใหม่ ทำให้มีน้ำหนักลดลงไปถึง 1.7 กิโลกรัม
3. Double Side Swingarm ได้รับการพัฒนาทำให้มีน้ำหนักลดลงไปถึง 1.6 กิโลกรัม แต่ยังคงความแข็งแรงไว้ได้อย่างดี
4. และเพื่อความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น New Monster ได้รับการถ่ายทอดจากเทคโนโลยีทางสนามแข่ง Moto GP นั่นคือเฟรมแบบ Monocoque จึงทำให้มีน้ำหนักลดลงไปถึง 4.5 กิโลกรัม
5. ซับเฟรมด้านหลังใช้วัสดุ Glass Fiber Reinforced Polymer จึงทำให้มีน้ำหนักที่เบามากขึ้น 1.9 กิโลกรัม
เทคโนโลยีที่อัดมาเน้น ๆ ด้วยโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมดคือ Sport , Touring และ Urban แต่ก็ฝังมาเทคโนโลยีด้วยความปลอดภัยมาแบบครบครันไม่ว่าจะเป็น
-Cornering ABS (เฉพาะล้อหน้า) ระบบที่ช่วยปรับแรงดันน้ำมันเบรกให้เหมาะสม โดยเซนเซอร์จะทำงานตรวจวัดการเอียงของรถในขณะเข้าโค้ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกในโค้งให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
-Traction Control ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของตัวรถ เมื่อรถเกิดการลื่นไถล หรือสูญเสียการควบคุม ระบบนี้ก็จะเข้ามาช่วยผู้ขับขี่ในเสี้ยววินาที
-Wheelie Control ระบบควบคุมการยกของล้อหน้าและหลัง
-Launch Control เทคโนโลยีจากสนามแข่ง Moto GP ถูกเพิ่มเติมขึ้นมาใน New Monster ครั้งแรก ช่วยควบคุมการออกตัวรถด้วยความเร็วสูงอย่างมีเสถียรภาพ
-Quickshifter up & down ระบบเปลี่ยนเกียร์ทั้งขึ้นและลง โดยไม่ต้องบีบคลัช สร้างความสะดวกสบายและสนุกอย่างไร้รอยต่อกับผู้ขับขี่
รูปทรงดีไซน์ ลืมหน้ากลม ๆ ถังและชุดท้ายอ้วน ๆ ไปได้เลยเพราะ All New Ducati Monster มาพร้อมกับรูปทรงที่โฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม ไฟหน้าจะออกเป็นวงรีแทบจะเป็นสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดมีไฟ Daylight รอบวง ตัวถังที่เพรียวบางที่รองรับเข่าของผู้ขับขี่ ท้ายดู Sport โฉบเฉี่ยวมากกว่า เดิมปลายท่อคู่ ไฟเลี้ยวแบบใหม่ที่ไม่ได้กระพริบแบบเมื่อก่อนแต่เป็นการไล่ไฟไปทีละดวงอย่างสวยงาม
Pre Test Ride
และตัวผมเองก็ได้มีโอกาสได้ทดสอบขับขี่อยู่เล็กน้อยแต่น่าเสียดายที่ไม่ได้จัดเต็มแบบฉบับชาว Mocyc เท่าไหร่ แต่ก็ต้องบอกว่า All New Ducati Monster นั้นได้แปลงโฉมให้เข้ากับคนเอเชียแบบเรา ๆ อย่างน่าเหลือเชื่อ ถ้าให้เทียบกับ 821 ที่มีใความใหญ่และบึกบึนดูเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อคนฝั่งยุโรป แต่กลับกัน All New Ducati Monster ได้เอาใจคนไทยแบบเราโดย Position ก็ได้ปรับปรุงใหม่เพื่อลดความเหนื่อยล้า ให้ความสำคัญต่อผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก เบาะนั่งที่สูงเพียง 775 มม. แฮนด์บาร์ที่ปรับระยะเข้าใกล้กับผู้ขับขี่มากขึ้น และพักเท้าที่ปรับระดับให้การขี่ระยะยาวสบายมากขึ้น คันเร่งที่ตอบสนองได้อย่างนิ่มนวลเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่มือใหม่เป็นอย่างมาก จากการขับขี่ในถนนกรุงเทพเพียงเล็กน้อยก็สัมผัสได้ถึงความคล่องแคล่วของตัวรถที่สามารถโยกหลบการจารจรที่ติดขับได้อย่างสบาย ๆ โหมดการขับขี่ 3 โหมดที่ผมคิดว่ามันพอตัวกับการใช้งานหรือออกทริปได้อย่างลงตัว ใครจะมันส์ให้สุดก็ต้อง Sport เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ก็ต้อง Touring และถ้าไม่อยากซิ่งก็ Urban ใจมันอยากจะจัดเต็มมากกว่านี้แต่ก็พอหอมปากหอมคอกันไป
ถามว่าถ้าหากเลือก All New Ducati Monster คุ้มแค่ไหน? สำหรับอสูรกายสีแดง Monster Red เปิดราคามาแค่ 449,000 บาท และอีกหนึ่งร่างที่มาในร่างที่เข้มดุดันอย่าง Monster Aviator Grey เปิดราคามาที่ 453, 000 บาท ถ้าราคายังเร้าไม่พอมาเจอกับข้อเสนอของ Ducati ให้สิทธิพิเศษเพิ่มเติม คือ จอง All New Monster ในราคาเพียง 5,000 บาท* เท่านั้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ถึง 15 ตุลาคม นี้เท่านั้น *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ยังจัดแคมเปญพิเศษให้เพิ่มอีกต่างหาก กับดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 4 ปี ฟรีค่าจดทะเบียน และพรบ. หรือเลือกผ่อนสบายๆ เพียงเดือนละ 7,016 บาท เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีแบบดาวน์เพียงแค่ 67,350 บาท พร้อมรับประกันตัวรถ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีค่าบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร และให้ประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี และฟรีค่าจดทะเบียนและ พรบ.
คุ้มขนาดนี้จะรออยู่ทำไมหละเพื่อน ๆ สามารถติดตาม Ducati บน LazMall ที่ Lazada เป็นเจ้าของได้พร้อมจอง All New Ducati Monster ได้ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2564 เป็นต้นไป คลิกเลย https://s.lazada.co.th/s.4Eieg
ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : http://instagram.com/mocycthailand