ขี่รถเที่ยวกับทริป Honda Asian Xperience 2019 ไทย-ลาว-เวียดนาม-ซาปา
ขี่รถเที่ยวกับทริป Honda Asian Xperience 2019 ไทย-ลาว-เวียดนาม-ซาปา
การขับขี่ครั้งนี้เป็นการออกทริปในต่างประเทศ ครั้งแรกที่มีการขับขี่ยาวที่สุดของผมเลยก็ว่าได้ครับ ครั้งนี้ก็เป็นการเดินทางแบบกลุ่มใหญ่ มีลูกค้าของ Honda Bigbike ที่เข้าร่วมในทริปนี้จำนวน เกือบๆ 40 คันเลยทีเดียวก่อนอื่นต้องขอบอกกันว่า ใครที่เป็นลูกค้าของ Honda BigBike แล้วไม่ได้มาทริปนี้ผมถือว่าพลาดสุดๆเลยครับ เพราะทริปนี้คุ้มมากๆกันเงินที่เราจ่ายไปเลยทีเดียว ถ้าไปคนเดียว แต่นอนคู่ (นอนกับผู้ร่วมทริป) อยู่ในราคา 27,900 บาท ผู้ติดตาม 20,900 บาท แต่ถ้านอนเดี่ยว ต้องจ่าย เพิ่มอีก 10,000 บาท ต้องบอกว่างานนี้คุ้มค่ามากๆครับ เพราะส่วนที่เหลือ ทาง AP. Honda ออกให้หมดเลย ทริปนี้เองมีระยะเวลาในการเดินทาง 8 วัน 7 คืน ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ทางลูกค้า จ่ายมา เป็นค่าที่พัก (พักโรงแรมที่ดีที่สุดของแต่ละเมืองที่ไปนอน) รวมค่าอาหารทุกมื้อ + เครื่องดื่นตลอดการเดินทาง ค่าน้ำมันรถที่เติมระหว่างการเดินทางทั้งทริป และค่าประกันอุบัติเหตุ อีกด้วยครับ ทริปนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4-11 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งวันที่ 4 ธันวาคม 2562 วันแรกพวกเราได้นัดกันที่ จ.น่าน ที่โรงแรม น้ำทองน่าน เวลา 17.00 น. เพื่อรับประทานอาหารและฟังบรีฟการเดินทางหลังจากนั้นพวกเราก็ได้แยกย้ายกันพักผ่อน เพื่อเตรียมพร้อมในการเดินทางในวันถัดไป แต่พวกเราสื่อมวลชน ต้องทำการเป่ายิ้งฉุบกันเพื่อทำการเลือกรถ (555+) ซึ่งตัวผมเองได้ Honda X-ADV จริงๆแล้วก็ให้พี่เลือกรถกันก่อน แต่ผมตั้งใจอยากขี่ X-ADV อยู่แล้ว (เพราะรู้สึกเห็นแล้วอยากขี่และความชอบส่วนตัวด้วย)
เช้าวันรุ่งขึ้น วันที่ 5 ธันวาคม 2562 พวกเราได้เริ่มออกเดินทางกันเวลา 8 โมงเช้า พวกเราได้ขี่รถไปที่ด่านห้วยโก๋น ในระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร เพื่อทำการเดินทางข้ามประเทศไทยไปยังประเทศลาว (ทางผู้นำทาง Trans Asia Route ได้จัดการเอกสารให้หมดแล้วจึงผ่านด่านกันได้ไว) จุดหมายปลายทางวันแรกของพวกเราคือ หลวงพระบาง (ขี่ไปต่ออีก 150 กิโลเมตร) เส้นทางที่เราใช้คือ หงสา-จอมเพ็ด-บ้านเชียงแมน (ถนนประเทศลาววิ่งเลนขวาซึ่งแรกๆก็อาจจะงงกันไปบ้าง) สองข้างทางที่เราได้เดินทางเรียกได้ว่า มีแต่ดอยแต่ภูเขาทั้งนั้นเลยก็ว่าได้ครับ สำหรับคนที่ชอบทางโค้งบอกได้เลยว่าอิ่มโค้งกันแน่นอน ก่อนถึงหลวงพระบาง พวกเราต้องเอารถขึ้นเรือเพื่อข้ามฝั่งไปยังตัวเมืองอีกด้วย เมืองหลวงพระบางเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เป็นเมืองมรดกโลก หลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นแหล่งมรดกโลกด้วยเหตุผล คือ มีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมน้ำโขงและน้ำคาน ซึ่งไหลบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และชาวหลวงพระบางมีบุคลิกที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร และมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม สถานที่พวก เราได้พักที่หลวงพระบางคือ โรงแรม เดอะ แกรนด์ หลวงพระบาง สรุปแล้วในช่วงวันแรกของการเดินทาง พวกเราขี่รถใช้ระยะทางไปประมาณ 300++ กิโลเมตร
เช้าของวันที่ 3 วันที่ 6 ธันวาคม 2562 เวลา 05.30 น. สำหรับคนที่อยากไปทำบุญได้ไปตักบาตรข้าวเหนียวกันอีกด้วย (ทางไกด์ได้บอกว่าที่ลาวประเพณีดั้งเดิมจริงๆคือตักบาตรข้าวเหนียวหมายถึงข้าวเหนียวอย่างเดียว ส่วนกับข้าวพ่อแม่จะเป็นคนไปทำที่วัดให้พระฉัน) หลังจากที่ทำบุญกันเสร็จแล้ว ถึงเวลาที่พวกเราได้ออกเดินทางเพื่อนมุ่งหน้าสู่ เดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม ซึ่งวันที่ 3 ของการเดินทาง จะใช้เวลาในการเดินทางมากที่สุด นั่นก็คือ ประมาณ 400 กิโลเมตร แต่ว่า เส้นทางเป็นทางสองเลน+ไปด้วยเส้นทางคดเคี้ยว ต้องบอกว่าทางโค้งมีมากกว่า 80% เลยทีเดียว ถนนที่นี่เรียกได้ว่า เป็นหลุมเป็นบ่อซะส่วนใหญ่ อากาศที่นี่ค่อนข้างเย็นและแห้งพอสมควรเลยครับ หากใครมีเป้น้ำติดไปด้วยจะดีมากเลยทีเดียว เราออกจากหลวงพระบางมุ่งหน้าไปเมืองอุดมไชย ในระยะทางประมาณ 200+++ กิโลเมตร เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นเราเดินทางกันไปต่อสู่ชายแดนลาว (Pang Hoc) – เวียดนาม (Tay Trung) ระยะทางประมาณ 160++ กิโลเมตร กว่าพวกเราจะถึงชายแดนเวียดนามพระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว
อากาศที่ชายแดนลาว-เวียดนาม ที่นี่อุณหภูมิประมาณ 15 องศา ถือว่าหนาวเลยทีเดียว พอเคลียเอกสารกันเสร็จ พวกเราก็เดินทางกันต่อไปยังที่พักของเรา ซึ่งห่างจากชายแดนไป 40 กิโลเมตร ที่นั่นก็คือ เดียนเบียนฟู พอถึงโรงแรม Muong Thanh Holiday Hotel Dien Bien Phu ก็ได้เวลาอาหารเย็น พอรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกันพักผ่อนเพื่อเดินทางในวันถัดไป สำหรับคนที่มาเวียดนาม ทางไกด์ทัวร์ได้บอกกับพวกเราว่า ที่เวียดนาม เครื่องยนต์จะดีไม่ดีไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือ เบรกกับแตรต้องดี เพราะที่นี่ การขับขี่ไม่เหมือนบ้านเรา ถ้าจะข้ามถนนต้องเดินเลย อย่าลังเล ไม่งั้นโดนชนแน่นอนเลยทีเดียว เดียนเบียนฟู หรือ เดี่ยนเบียนฝู เป็นเมืองหนึ่งในจังหวัดเดี่ยนเบียนซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนาม ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 200 กิโลเมตร มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นที่รบยุทธการที่เดียนเบียนฟูระหว่างฝรั่งเศสกับเวียดมินห์ เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1954 นั่นเองครับ
พอรุ่งเช้าก็ได้เวลาเดินทางกัน วันที่ 4 ของพวกเรา จุดหมายปลายทางอยู่ที่ ซาปา นั่นเอง ด้วยระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร อ่อก่อนที่จะเล่าเรื่องการเดินทาง มาพูดถึง Honda X-ADV 750 ที่ผมได้ขับขี่กันก่อนซักหน่อยดีกว่าครับ X-ADV เรียกว่าเป็นรถที่เรียกว่าเป็นรถ X-ADV บิ๊กสกู๊ตเตอร์สายพันธุ์ใหม่ สไตล์ดูอัล-เพอร์โพส ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 745 cc. สองสูบ เกียร์ DCT 6 สปีด (สามารถปรับเป็นแบบเมนวลได้) ตัวที่ผมได้ขับขี่เป็นตัวล่าสุดที่มี Torque Control (เป็นการควบคุมแรงบิดทำงานคล้ายแทร็กชั่นคอนโทรล แต่ไม่ละเอียดเท่าแทร็คชั่นคอนโทรล) อีกด้วยครับ X-ADV เป็นรถที่ต้องบอกตรงๆเลยว่า ครั้งแรกที่เห็นก็อยากได้เลยครับ การบริโภคน้ำมันอยู่ที่ ราวๆ 24-26 กิโลเมตร/ลิตร เนื่องจากตัวผมเองต้องถ่ายภาพ จึงมีการใช้คันเร่งที่หนักกว่าผู้ที่มาออกทริป ต้องชู้ตไปก่อน และสปีดเพื่อตามกลุ่มให้ทัน นั่นเอง จึงทำให้อัตราบริโภคน้ำมันอาจจะไม่ได้ประหยัดเท่าที่ควร แต่ถ้าอยู่ในเกณฑ์นี้ ยังถือว่าประหยัดน้ำมันอยู่ดีครับ
กลับมาต่อในการเดินทาง เราเดินทางกันโดยออกเวลาเดิม คือ 8 โมงเช้า มุ่งหน้าไปยังซาปา ระหว่างทาง มีถนนดีบ้าง กำลังทำบ้าง หรือเป็นหลุมบ้าง สนุกมากๆเลยครับ แต่ทางขึ้นไปยังซาปา ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากมีการทำถนนใหม่ ถนนบางจุดก็ลื่น บวกกัน อุณหภูมิเลขตัวเดียว ประมาณ 5-8 องศา เรียกว่ามือชากันเลยทีเดียว ส่วนรถที่มี Heat Grip ต้องบอกว่าสบายเลยทีเดียว เมื่อถึงซาปา เราก็ได้พักที่โรงแรม 5 ดาว คือ Hotel de la Coupole Mgallery ซึ่งเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในซาปาเลย อย่างที่ผมบอกตั้งแต่แรกแล้ว ว่าคุ้มมากๆกับการเดินทางครั้งนี้ ใครไม่ได้มาต้องขอแสดงความเสียใจด้วยเลย (รอไปปีหน้านะครับ ส่วนจะไปที่ไหนมาลุ้นกัน)
พวกเราได้พักที่ซาปา สองวัน วันที่ 5 ของการเดินทาง แน่นอนว่าเราเที่ยวในซาปานี่แหล่ะ เวลา 9.00 น. เราไปเที่ยวหมูบ้าน กัสกัส ชมแปลงนาข้าว แต่ช่วงที่เรามาได้เกี่ยวข้าวกันหมดแล้ว บรรยากาศที่นี่อารมณ์เหมือนถนนคนเดินของปายเรานี่เอง
ช่วงบ่ายของวัน เราได้ขึ้นไปยังจุดที่สูงที่สุดของซาปา นั่นก็คือ Fansipan ซึ่งขึ้นมาที่ยอดเขา สูงที่สุดในเอเชียเลยครับ ระดับความสูงอยู่ที่ 3,143 เมตร เมื่อขึ้นมาเราจะเห็นเทือกเขาทอดยาวจากมณฑลยูนนานในประเทศจีนเลย แน่นอนครับว่าเราขึ้นกระเช้าไปบนยอดเขารวมทั้งขาไปและกลับ ประมาณ 1,000 บาท แต่ว่าทั้งหมดนี้ พวกเราไม่ต้องจ่ายเพราะรวมอยู่ในทริปที่จ่ายไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ
เมื่อถึงยอดเขา แน่นอนครับว่า อุณหภูมิที่นี้ช่วงที่พวกเราไปอยู่ที่ 0 องศา บอกได้เลยว่า เย็นยะเยือก หนาวมาก เพราะมีลมมาตลอดเวลาเลย
พอเราลงมาจาก Fansipan พวกเราก็ได้กลับไปโรงแรมเพื่อไปกินข้าวเย็นกัน หลังจากนั้นก็ฟรีสไตล์ ผมก็ได้เดินเที่ยว เพื่อหาอุปกรณ์กันหนาว ซึ่งที่นี่มียี่ห้อดังขายอยู่ แต่ผลิตในเวียดนาม หรือเรียกง่ายๆคือ ของแท้เวียดนาม แต่ต้นตอยี่ห้อนี้ไม่ได้ผลิตที่เวียดนาม ร้านที่นี่รับเงินไทยด้วยครับ แต่จะโดนบวกเพิ่ม พวกเศษจะปัดขึ้น อะไรงี้ครับ จริงๆแล้วก็แล้วแต่เราสะดวกเลยครับ จากนั้นพวกเราก็ได้แยกย้ายกันพักผ่อน เพื่อเดินทางกลับไปยังเดียนเบียนฟู จริงๆแล้ว ซาปา เป็นเมืองที่อยู่ 3วัน 2 คืน ก็น่าจะเที่ยวหมดแล้วครับ สำหรับตัวผมเอง ที่นี่อากาศดีมากๆ ถ้าให้มานอนที่นี่ทั้งวัน ก็นอนได้ครับ (555+)
เช้าวันที่ 6 ของการเดินทาง พวกเราได้เดินทางกลับไปยังเดียนเบียนฟู ซึ่งมีระยะทางประมาณ 295++ กิโลเมตร วันนี้การเดินทางเป็นไปอย่างเรียบง่าย เมื่อถึงที่พัก พวกเราก็ได้แยกย้ายกันเพื่อพักผ่อนเตรียมตัวสำหรับการเดินทางในวันที่ 7
เช้าวันที่ 7 ของการเดินทาง เดียนเบียนฟู-อุดมไชย ในวันนนี้พวกเราใช้เวลาเดินทางสั้นกว่าทุกวันที่ผ่านมา โดยใช้ระยะทาง 200+ กิโลเมตร เมื่อมาถึงอุดมไชย พวกเราก็ได้เข้าพักที่ โรงแรม น้ำกัดยอละปา ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นรีสอร์ทที่เหมาะกันการแคมป์ปิ้งเป็นอย่างมากๆเลยครับ บรรยากาศดี ที่พักติดริมน้ำ ที่สำคัญคือ ที่พักเป็นบ้านดินครับ ตกเย็นมีปาร์ตี้ และการแสดงจากชาวบ้านในพื้นที่ อีกด้วย งานนี้พวกเราทั้งคณะสนุกกันมากๆครับ เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ถึงเวลาที่พวกเรากลับไทย จุดหมายปลายทางคือ จ.น่าน ครับ ทุกคนก็ถึงที่หมายโดยปลอดภัย
ทริป Honda Asian Xperience 2019 เป็นอีกหนึ่งทริปที่ผมประทับใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การดูและทุกคนที่เหมือนกัน การนำทางของ Trans Asia Route ที่เป็นมืออาชีพมากๆ และคอยอำนวยความสะดวกให้กับทุกๆคน ขอขอบคุณทาง AP.Honda มากๆครับ ที่ให้ผมได้เปิดประสบการณ์ร่วมเดินทางไปในทริปนี้ด้วย ขอขอบคุณพี่ๆสื่อจาก Over Ride และBoxzaracing ด้วยครับ สำหรับใครที่สนใจสามารถ ติดตามได้ที่เพจ Honda BigBike หรือที่ Honda BigWing ทั่วประเทศได้เลยครับ
ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand
18 ก.พ. 2563