รีวิว 2020 Yamaha YZF-R1 กับรถที่มีแรงม้า 200 ตัว

 

รีวิว 2020 Yamaha YZF-R1 กับรถที่มีแรงม้า 200 ตัว

เรียกได้ว่าหลังจบเกมส์การแข่งขัน MOTO GP ไปในวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา พวกเราก็ได้กลับมาสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จังหวัดบุรีรัมย์ อีกครั้ง ครั้งนี้ผมได้มาพร้อมกับพี่ๆสื่อมวลชน อีก 39 คนรวมกับตัวผม เป็น 40 คน ซึ่งครั้งนี้พวกเราทั้ง 40 คนถือว่าเป็นกลุ่มแรกของ เอเชียเลยก็ว่าได้ครับ ที่ได้ทำการทดสอบ 2020 Yamaha YZF-R1  ที่ต้องออกตัวก่อนไว้เลยว่า เหนือความคาดหมายของผมเป็นอย่างมากกับเทคโนโลยีที่มากับรถ และฟิลลิ่งในการขับขี่ 2020 Yamaha YZF-R1 ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้บอกได้เลยว่าสุดจริงๆครับ เพราะทางค่ายได้จัดมาให้ทดสอบถึงจำนวน 10 คัน เลยทีเดียว เรียกได้ว่า YZF-R1 เป็นเรือธงของค่าย Yamaha เลยก็ว่าได้ครับ  แถมยังเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงไม่ว่าจะในอดีต หรือปัจจุบัน

 

 

2020 Yamaha YZF-R1 มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ Crossplane ขนาด 998 ซีซี. DOHC 4 สูบ (4 วาล์วต่อ 1 สูบ) ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 79.0 x 50.9 mm. อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 13500 รอบ/นาที แรงบิด 113 นิวตัน-เมตร ที่รอบ 11500 รอบ/นาที ยังมีการพัฒนาส่วนต่างๆในเครื่องยนต์ โดยเฉพาะเรื่องของมารฐานไอเสียที่รองรับ Euro 5 ภายในเครื่องยนต์มีการอัพเกรดชิ้นส่วน ไม่ว่าจะเป็นเปลี่ยนตำแหน่งการวางของหัวฉีด เพื่อให้สามารถจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเปลี่ยนหัวฉีดเป็นแบบ 10 รู จาก Bosch (ของเดิม 12 รู) ข้างในตัวเครื่องยังมีการเปลี่ยน กระเดื่องวาล์ว แคมชาฟต์ ข้อเหวี่ยง เพื่อให้การหมุนในรอบสูงทำได้อย่างมีเสถียรยิ่งขึ้น โดยครั้งนี้ ทาง Yamaha เลือกใช้ชุดคันเร่ง Ride by Wire ในการควบคุม ซึ่งข้อดีคือ สามารถเพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน มีความละเอียดยิ่งขึ้น

 

 

เกียร์แบบ 6 สปีด พร้อม Quick Shiter ที่สามารถเพิ่ม - ลดเกียร์ได้ โช้กหน้าแบบ Up-Side Down จาก KYB ขนาดแกน 43 มม. สามารถปรับเซ็ตได้ไม่ว่าจะเป็น พรีโหลด รีบาวน์ หรือคอมเพรสชั่น โช้กหลังแบบ Mono Shock ระบบเบรกปั๊มบนจาก Nissin คาลิเปอร์หน้าของ Advics แบบเรเดียลเม้าท์ 4 พอท จานดิกส์ขนาด 320 มม. ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 1 พอท จานดิกส์จนาด 220 mm. ยางที่ให้มาเป็นของ Bridgestone Battlax RS11 หน้า 120/70 R17 หลัง 190/55 R17 หน้าจอแสดงผลแบบ TFT ที่บอกค่าทุกอย่างไว้ในจอ

แฟริ่ง ได้มีการปรับดีไซน์ใหม่ ทำให้มี Aero Dynamic ดีมากขึ้น อีก 5.3% ซึ่งแหวกอากาศได้ดีกว่าตัวของปี 2018 อีกต่างหาก ความสูงของเบาะ 855 mm. กับน้ำหนัก 201 กิโลกรัม

 

 

Yamaha YZF-R1 2020 ยังมีการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ นั่นก็คือ Cornering ABS หรือ ระบบควบคุมการเบรกในโค้ง ที่สามารถปรับการทำงานได้ 2 ระดับ โดยจะมีตัวช่วยประมวลผลอย่าง Inertial Measurement Unit หรือ IMU แบบ 6 แกน ข้อดีของระบบนี้ก็คือ ช่วยทำให้การควบคุมความเร็วในการเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้น โดยปกติ ถ้าเรามาเร็วแล้วต้องการเข้าโค้ง และต้องเบรก ตัวรถจะตั้งขึ้น ซึ่งมันจะทำให้เราเลี้ยวไม่ได้ และเราก็จะหลุดออกจากไลน์หรือแทร็กในการขับขี่ แต่การมี Cornering ABS จะช่วยให้การขับขี่ผ่านโค้งในขณะที่เบรกเพื่อแต่งความเร็วทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ การมีของ Cornering ABS ช่วยเซฟผู้ขับขี่ในกรณีฉุกเฉินในการขับขี่ Yamaha YZF-R1 2020 ยังมีการเพิ่มระบบ Engine Braking Control ที่สามารถปรับเพิ่ม - ลด การหน่วงของ Engine Braking ขณะที่ลดเกียร์ได้ถึง 3 ระดับ เรียกได้ว่า สิ่งนี้โดนใจสายสนามเป็นอย่างมากครับ เพราะ Engine Braking เยอะ จะทำให้เราศูนย์เสียความเร็วในโค้งเยอะ ถ้าเมื่อ Yamaha YZF R1 2020 สามารถปรับระดับของ Engine Braking ได้ทำให้เราเข้าโค้งได้ไหลขึ้นไปอีก

 

 

การทดสอบครั้งนี้ได้แบ่งเป็น 2 Section ซึ่ง Section แรกจะให้ทดสอบโหมดต่างๆของรถ และปรับตัวให้เข้ากับรถก่อน และครั้งนี้ต้องออกตัวก่อนว่าตัวผมเองยังไม่เคยได้ขับขี่ YZF-R1 แม้แต่รุ่นเดียวมากก่อน เลยทำให้ไม่สามารถมาเปรียบเทียบกับตัวก่อนหน้านี้ได้ แต่มีพี่ๆสื่อที่เคยสัมผัสมาบอกว่า ท่าขับขี่สบายขึ้นจากตัวก่อนหน้านี้ ซึ่งตัวผมสูง 177 เซนติเมตร หนัก 82 กิโลกรัม สัมผัสแรกที่คร่อมรถไป เห้ย.....รถมีน้ำหนักที่เบา ไม่รู้สึกหนักเลย ท่านั่งตามสไลต์รถสปอร์ตเลยครับ ก้ม แต่ไม่ทำให้รู้สึกเมื่อย ความรู้สึกตอนคร่อมรถ รู้ได้เลยว่าควบคุมง่ายอย่างแน่นอน พอสตาร์ทเครื่อง เสียงเครื่องยนต์ แบบ Crossplane มันเพราะจริงๆเลยครับ Section แรกทาง Yamaha ให้เราทดสอบโดยการขับขี่ออกไปโดยโหมดที่ตั้งไว้มี โหมด A และ B ซึ่งจริงๆแล้วสามารถปรับได้ถึง 4 โหมดด้วยกัน แต่โหมด A และ B ทาง Yamaha เองอยากให้เราได้รับรู้ถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างโหมดนั่นเอง

 

 

แต่ Section ที่ 2 นี่แหล่ะครับ ที่ผมได้สัมผัสถึง พละกำลังของ Yamaha YZF-R1 2020 ที่แท้จริง โดยครั้งนี้ ได้ขี่แบบฟรีสไตล์เลย แค่ออกตัวไปมันส์ก็เกิดขึ้นมาทันที ความเร็วของ Yamaha YZF-R1 2020 ได้มีการปรับแต่กล่อง ECU ขึ้นมาใหม่ โดยทำให้รถ ไหลในรอบกลาง และรอบปลายมากยิ่งขึ้น ทางตรงรถทำความเร็วได้ดีมากๆเลยครับ เรียกว่าดีที่สุดเท่าที่ผมเคยสัมผัสมาเลย โดยระหว่างทางตรงจากโค้ง 1 ไปยังโค้ง 3 ของสนาม ช้าง ทำความเร็วได้ถึง 299 Km/Hr. เลยทีเดียว การต่อเกียร์มีความสมูทมาก ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหรือการลดเกียร์ พอถึงโค้ง 3 Cornering ABS หรือ ระบบควบคุมการเบรกในโค้ง ทำงานเรียกว่ากำเบรกแล้วเลี้ยวได้เลย เพราถ้าไม่มี จะทำให้รถตั้งตรงและเลี้ยวไม่ได้นั่นเอง ซึ่งระบบ Cornering ABS หรือ ระบบควบคุมการเบรกในโค้ง ทำให้ผมเลี้ยวได้เลยโดยจริงๆ แล้วมันเลยจุดที่ผมควรเบรกมาแล้วด้วยครับ ตัวรถเองเลี้ยวง่ายมาก ไม่ดื้อโค้งด้วย เวลาพลิ๊กรถ ซ้ายขวา รถพลิ๊กง่ายมากพลิ๊กไวจนตัวผมเองตกใจเลย การทำงานของคันเร่งไฟฟ้าที่ติดมากับรถ ทำได้เนียมมากๆ คันเร่งเดินได้สมูทเป็นอย่างมาก ระบบเบรกเอาอยู่สบายๆเลย ไม่ต้องกลัวเบรกไม่อยู่ เพราะตัวผมเองกดเบรกค่อนข้างหนัก จนท้ายรถมีอาการ แต่รถก็ยังตรงไปข้างหน้า ซึ่งถือว่า การบาลานซ์ของรถเยี่ยมมากๆเลยครับ 

 

 

โดยรวมแล้ว Yamaha YZF-R1 2020 ถือว่าเป็นรถระดับต้นๆของโลกที่เจ๋งมากๆคันหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพของรถที่มาพร้อมราคา และยังถือว่าเป็นสปอร์ตที่มีความคุ้มค่าและเพียบพร้อมที่สุดรุ่นหนึ่งในโลก ราคาของYamaha YZF-R1 ปี 2020 ราคาแนะนำ 849,000 บาท Yamaha YZF-R1M ปี 2020 ราคาแนะนำ 1,149,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เร้าใจเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ครับ หากใครสนใจสามารถเข้าไปจับจองได้ที่ Yamaha Riders' Club ใกล้บ้านได้เลยครับ ซึ่งผมแอบได้ยินมาว่าทาง Yamaha Riders' Club ได้ส่งรถล๊อตแรกไป 40 คันแล้ว และเหลือในสต๊อกอีก 20 กว่าคัน  หากใครสนใจรีบเลยครับ
ขอขอบคุณ Yamaha Riders' Club และ Thai Yamaha Motors ที่ให้โอกาสพวกเราทีมงาน Mocyc.com ได้เข้าร่วมการทดสอบในครั้งนี้ด้วยครับ