ขี่รถเที่ยวเขาใหญ่ไปกับ CBR 150 R ความลงตัวของสายสปอร์ต
ขี่รถเที่ยวเขาใหญ่ไปกับ CBR 150 R ความลงตัวของสายสปอร์ต
เมื่อวันที่ 17-18 พฤษภาที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบในการขับขี่ในถนนจริง สำหรับการรีวิวการขับขี่ในถนนจริงในครั้งนี้ผมจะไม่พุดถึงสเป็กของรถแล้วครับเพราะพวกเราเคยรีวิวมาแล้ว แต่ผมจะแปะลิ้งค์ รีวิวอันเก่าที่ทดสอบขับขี่ในสนามให้ด้วยครับ
http://www.mocyc.com/scoop/412/รีวิวCBR150Rการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในรอบ8ปี
การขับขี่ครั้งนี้พวกเราได้ขับขี่ไปเที่ยวกันที่เขาใหญ่ครับ ระยะทางจากกรุงเทพไปเขาใหญ่ก็มีระยะทางพอสมควร (468 กิโลเมตร) สำหรับการเทสรถในครั้งนี้ การเดินทางในครั้งนี้ก็ได้แบ่งกันเป็นสองกลุ่มด้วยกันซึ่งทั้งสองกลุ่มจะได้ขับขี่ระยะทางเท่าๆกัน โดยตัวผมเองได้อยู่ในกลุ่มแรกซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องขับขี่ออกจากกรุงเทพ แน่นอนว่าได้ทดสอบในสภาวะที่รถติดในกรุงเทพด้วยครับ การขับขี่ในสภาวะรถติด CBR 150 R ทำได้ดีมากครับ มุดง่าย พลิ๊กรถได้ง่าย ด้วยเครื่องยนต์ตัวใหม่ ทำให้มีอัตราเร่งที่ดีขึ้น เรียกว่าคนละฟิลลิ่งกันตัวเก่าเลยครับ ระยะทางของกลุ่มแรกที่ขับขี่อกมาจากกรุงเทพมมีประมาน 90 กิโลเมตรด้วยกันครับ เส้นทางที่เราใช้ขับขี่ในขาไปนั่นก็คือ กรุงเทพ – ทับลาน – เข้าใหญ่ ใช้เส้นทางไปปราจีนบุรี แล้วมุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติทับลาน เส้นทางนี้เรียกได้ว่ารถติดเลยครับ เนื่องจากมีการทำถนน
จึงทำให้รถติดยาวๆเลย แต่ CBR 150 R ก็ผ่านไปได้โดยไม่มีปัญหาครับ อัตราเร่งที่ดีในช่วงต้นทำให้รถสั่งได้ดั่งใจเลย ช่วงทางตรงยาวๆโล่งๆ CBR 150 R ทำความเร็วสูงสุด (ดูดลมแล้วแซงขึ้นไป) ทำความเร็วได้ 142 Km/hr. แต่ถ้าขี่คนเดียวทำความเร็วได้ 138 – 140 Km/hr. ถือทำได้ดีเลยครับสำหรับรถในคลาส 150 cc. สำหรับทางโค้งรถเลี้ยวได้ดีเลี้ยวง่ายมากเลยครับ ช่วงล่างที่พวกเราได้เซ็ทก่อนออกเดินทาง ทำได้เยี่ยมเลยครับ เซ็ทมาให้พอดีกับน้ำหนักของผู้ขับขี่ จึงทำให้รถเลี้ยวง่ายพลิ๊กง่าย ไฟหน้า LED สว่างมากครับ ในอุโมงค์ทับลาน เห็นไฟได้ข้างหน้าชัดเจน
หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ขับขี่ไปยังเขาใหญ่จุดหมายปลายทางวันแรกอยู่ที่ โรงแรมดุสิต ดีทู รวมวันแรกพวกเราใช้ระยะทางในการทดสอบ ประมาน 288 กิโลเมตร
เริ่มต้นวันที่สองพวกเราได้ไปทำบุญกันก่อนเพราะตรงกับวันพระ เราได้แวะที่วัดอุทุมพร
หลังจากที่เราทำบุญกันเสร็จแล้วเราก็ได้เดินทางกันต่อเพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวเขาใหญ่ ระหว่างทางขึ้นเขาใหญ่ CBR 150R มีช่วงล่างที่เยี่ยมเลยครับ ไม่ดื้อโค้ง โช๊คหน้าที่ปรับได้ถึง 5 ระดับ สามารถตอบสนองผู้ขับขี่ได้ดีมากครับ โช๊คหลังที่ปรับระดับความแข็งของสปริงได้ก็ใช้งานได้ดีเลย ไม่ย้วยเลย อัตราเร่งขึ้นเนินรถทำได้ดีครับ เครื่องตัวเดียวกับ CB150R เป็นเครื่องที่เน้นรอบต้นอยู่เลย เลยมั่นใจว่ามีรอบตันที่ดีแน่นอน หลังจากนั้นพวกเราก็ได้เดินทางกลับกรุงเทพกันครับ ระหว่างทางก็เจอกัยสภาวะรถติดเล็กน้อย CBR 150R ก็ซอกแซกได้สะดวกเลยครับ ลืมไปเลยว่าเป็นรถสปอร์ต
สองวันที่ผ่านมา CBR 150 R ที่เราได้ใช้เดินทางไปยังเขาใหญ่ เป็นรถที่เหมาะแก่การใช้ในเมือง หรือจะขี่ท่องเที่ยวก็ดี เพราะช่วงล่างได้อัพเกรดมาให้เต็มๆ ใช้งานได้จริง ปรับได้ตามน้ำหนักของผู้ขับขี่เลย อยากได้ช่วงล่างแบบไหนปรับได้เลย อัตราเร่งรอบต้นดี รอบความเร็วปลาย อาจจะหายไปซักห่อย แต่ได้รอบต้นที่มันส์เพิ่มขึ้นแน่นอน และยังเป็นรถที่ขี่ง่ายอีกด้วย
ขอขอบคุณ AP.Honda ที่ให้พวกเราได้ร่วมทดสอบในครั้งนี้ด้วยครับ
26 ก.ย. 2562