รีวิว & ทดสอบ New Kawasaki ZX-6R ซูเปอร์สปอร์ตสายพันธุ์สนาม

 

 สปอร์ตไบค์ยังคงน้อยไป.....“ นี่มันเป็น super sport bike ในพิกัด600cc ”

มันเหมือน ZX10R ถอดเครื่องออกแล้วใส่เครื่อง 600 เข้าไปชัดๆเลย

ประกอบญี่ปุ่นทั้งคัน ยกข้ามทะเลมาส่งถึงไทย!! ในราคา 439,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1(ราคานี้3เดือน) 

ที่เราเห็นรถตามท้องตลาดเราอาจจะเรียกรถสปอร์ตไบค์ได้ไม่เต็มปาก พอเจอกับตัวนี้......นี่มันคือรถสปอร์ตจริงๆ  ตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ยัดเทคโนโลยีมาให้คือลงสนามได้ตั้งแต่คลอดออกมาเลยครับ  เรียกได้ว่าการใช้งานเจ้าตัวนี้ ขับสนุกทั้งบนท้องถนนและสนามเลย 

 

 

-สปอร์ตที่ 1 เริ่มต้นด้วย ท่านั่ง แฮนด์จับใต้แผงคอ  แต่ท่านั่งเหมือนจะก้มลงต่ำแต่เอาเข้าจริงๆ  ก้มไม่เยอะสะงั้น เพื่อใช้ในท้องถนนได้สะดวกท่าจะไม่หมอบเท่ารถไว้วิ่งสนาม ตัวช่วงบนโผล่โต้ลมนิดๆ(ชิวหน้ามันต่ำด้วยอ่ะ) สำหรับผมมันคือท่านั่งกึ่งสนามกึ่งท้องถนนครับ

 

แฮนด์จับใต้แผงคอ

 

ชิวหน้าไม่สูงมากนัก

 

เพิ่มความเป็นสปอร์ตเข้าไปอีกตรงถังน้ำมันมีการเว้าตรงถัง เวลาเราหมอบคางของหมวกกันน๊อคจะลงไปตรงร่องพอดีเลยครับ การออกแบบอย่างนี้มันนี่มันรถสนามชัดๆ  ถังน้ำมันที่ไว้หนีบออกเรียวๆเวลาเราหนีบถังน้ำมันรู้สึกดีสุดๆ 

 

ถังถูกออกแบบมาให้วางคางหมวกกันน๊อคลงไปได้พอดีเวลาหมอบ

 

ถังออกแบบมาให้หนีบได้กระชับมากครับรู้สึกดีจริงๆ

 


 

-สปอร์ตที่ 2 ความแรง เครื่องยนต์ 636cc 4สูบเรียง DOHC 16 วาว์ล 136แรงม้า  เมื่อทำงานร่วมแอมแอร์ที่ 13,500 รอบ(อยู่ทางด้านหน้ารูบะเร้อเลยครับ)

 

 

เครื่องยนต์ดุร้ายแบบสุภาพ มันไม่ได้แรงแบบตัว 1000 นะ มันแรงในระดับ600cc ที่มันควรจะเป็น รอบไหลๆสมูทหล่อๆ แต่เกียร์ 1กระแทกคันแรงก็ยกแล้วคร้าบ

 

 

ช่วงต้นไม่ดุดันเพราะเป็น 4 สูบเรียงเลยออกจะไม่พุ่งปรู๊ดปร๊าดเท่าไหร่ แต่พอทำรอบได้ตามที่ต้องการ เจ้านี้มันกระชากสุดๆแรงแบบรอบจะพุ่งปรี๊ดเลยครับมันแรงมากในพิกัด600cc เครื่องยนต์ออกแบบมาดีจริงๆครับ ลืมพวก 600cc ตัวอื่นได้เลยต่างกันเยอะ รอบตัดที่ 18,000 อะไรนะ  บ้าใครจะไปขี่ถึงหล่ะนั่นทางตรงๆยาวๆ ละกันถ้าได้เทสปลายจะไหลไปขนาดไหน?

 

 

มันจะกลายเป็นอสูรกายเมื่อรอบกลางๆครับ ต้นจะตื้อๆแห้งๆ การปรับโหมดการขับขี่มีแบบ F(ม้ามาเต็ม)  กับ L (ลดแรงม้าเหลือ60%) ทำให้เราปรับการขับขี่ได้เองครับ มีการออกแบบมาเพื่อปรับแต่งได้เยอะมากครับ  แบ่งการใช้งานเลย

 

สายปรับรอบถูกยื่นออกมาให้ปรับง่ายๆเลยครับ

 


 

-สปอร์ตที่ 3 การควบคุม รถบ้าอะไรขับง่ายขนาดนี้เนี้ย สื่อพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยครับ  ว่ามันคือรถที่ควบคุมง่ายมากกก หากเรามองไปทางไหนมันไปทางนั้นจริงๆครับ สายตามองไปปลายโค้งขับเพลินๆ เอ้านี่เค้าโค้งเสร็จแล้วหรอ น้ำหนักเองก็เบาการพลิกรถทำได้ง่าย  ทำให้ขี่เวลาเข้าโค้งไม่เหนื่อย

 

 

แตกต่างจากเห็นครั้งแรกดูรถมันใหญ่ไปหน่อย  แต่พอลองขับเปลี่ยนทุกอย่างที่เราเห็นเลย มันขับง่ายมากเข้าถึงง่าย โค้ง S นี่สบายครับ จุดเด่นคือการจัดท่านั่งของมัน มันลงได้สุดจริงๆ (แนะนำให้ติดกันสะบัดแนะนำเลยครับรอบสูงๆขับขี่จะมีอาการสั่นของต้องมีเลยครับรถระดับนี้แล้ว)

 

 


 

-สปอร์ตที่ 4 เทคโนยีสนาม บ้าไปแล้ว ครบทุกอย่างที่รถสนามควรมี

โหมดต่างๆมองได้ชัดเจนจากหน้าจอ

 

ปรับแต่งได้ง่ายๆเลยครับจากมือข้างเดียว

 

-Kawasaki Traction Control (KTRC) ทำงานได้อย่างดีครับ ยิ่งวันที่เทสฝนตก เปิดคันเร่งหลังจากออกโค้งเราจะไม่รู้สึกว่าท้ายมันปัดอะไรเลยครับเนียนๆ ทำงานได้ดีครับ มี 3 โหมด โหมด 1 กับ 2 สำหรับสนาม และโหมด3สำหรับถนนลื่นครับ

 

 

- Slipper Cultch นี่แหละครับที่ได้ใช้งานหนักจริงๆ ได้เทสรวบเกียร์ ท้ายปัดนิดหน่อยๆ ออกอาการไม่เยอะ เห้ยมันดีมาก คือลดความเร็วรถ  จากการใช้เอนจิ้นเบรก+การเบรคนี่มันทำงานได้ดีมากครับ

 

 

- Kawasaki QuickShifter (KQS) เทคโนโลยีสนามการใส่เกียร์แบบไม่ต้องกำคลัช ขับขี่ขึ้นเกียร์แบบสมูทๆ ไม่ต้องกำคลัชบิดแล้วเตะยาวๆ ทำให้จังหวะเร่งเราไม่เสียจังหวะ  ไล่ความเร็วมันแบบไม่ติดขัดเลย เร่งยาวๆเตะเกียร์ปัง ปัง ปัง รอบเนียนๆเลยครับ แต่ทำได้เฉพาะใส่เกียร์ขึ้นเท่านั้นนะ

-ส่วนเรื่องของ ABS ปิดไม่ได้นะครับ(น่าเสียดายมากสงสัยเซฟตี้เฟิร์ส) ทำงานได้ดีครับ  มาขนาดนี้แล้วมันดีอยู่แล้วแหละข้ามไปเรื่องอื่นต่อได้เลยครับ

 

 


 

-สปอร์ตที่ 5 อุปกรณ์

- โช๊คหน้าจาก Showa 41mm ผสมผสานระหว่างระบบแบบ Separate Function Fork (SFF) แยกฟังก์ชั่นการทำงานและ Big Piston (BPF) ปรับได้ด้วยนะครับ  เดิมๆมาขับสนามได้เลยระดับนี้แล้ว ไม่กระด้างนุ่มนวลแบบนี้ขี่สนุก

 

 

ปรับแต่งได้เต็มที่เลยครับ

 

 โช๊คหลังผมว่าเข้าสนามอาจจะต้องทำให้แข็งกว่านี้หน่อย หากมาแรงๆมีอาจอาการ แต่ปรับแข็งขึ้นได้ครับ พอดีได้ไปเทสมาเค้าให้มาแบบเดิมๆทุกอย่าง

 

หมุนปรับได้เลยครับ

 

 

-เบรกบอกได้เลย  สื่อที่ไปพูดเป็นเสียงเดียวกัน หนึบมาก !! เบรกหน้านี่เอาอยู่จริงๆ ด้วยเบรกหน้านี่เป็น Radial Mount 4 พอร์ต กำนิดเดียวจะรู้สึกได้เลยครับ ไม่ต้องแรงบีบมากนัก เอาอยู่จริงๆ ช่วงที่มาไวๆลดความเร็วได้ดั่งใจ เบรกหลังไม่ค่อยได้ใช้เลยครับ

 

 

- ยาง !! ยางเดิมๆ Bridgestone Battlax Hypersport S22 หนึบดี ถือว่าหนึบเลย  พี่ๆนักแข่งทิ้งกันโหดมากยางเอาอยู่แน่นอนครับ อาจจะแปลกที่หยิบเอาค่ายนี้มา  แต่คาวาบอกมาว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ ก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ

 

ยางหน้า 120/70ZR17 

 

ยางหลัง 180/55ZR17M

 

ให้ไฟLED มารอบคันเลยครับ

 

ท่อที่จะผ่านมาตรฐาน euro 4 แน่นอนครับเงียบมาก 

 

หม้อน้ำค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากต้องมาระบายความร้อนให้ทันเครื่องรอบสูง 

 

โครงต่างๆเป็น อลูฉีดขึ้นรูปนะครับ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถคันนี้เบาขนาดนี้

 

ท้ายออกแนวสปอร์ตเต็มตัว สายซ้อนลำบากหน่อยละกัน

 


 

ความรู้สึกแรกที่ขี่ ?

ตอนแรกแอบหวั่นใจนิดหน่อยเพราะความยาวและขนาดดูใหญ่ๆยาวๆ (รถนะเออ) มันจะขับยากป่าวว๊า  มันจะหนักป่าวว๊า ไอ่ขาเราเราดั๊นคร่อมแล้วไม่ถึงสะงั้น  ลงได้ประมาณครึ่งผ่าเท้า แอดสูง 171 ต้องสไลด์ก้นถึงจะเต็มเท้า แต่พอได้ตบเกียร์เข้าสนาม มันสลัดทุกๆอย่างที่เราเห็นเลยครับ เบา นิ่ง สมูท แถมเข้าโค้งโครตง่าย หมอบก็สะดวกเหมือนออกแบบมาให้หมดแล้ว

 

ดูรถเดิมๆเข้าโค้งครับ เหยดเขร้ !!

 


 

แล้วแอดคิดยังไงกับรถคันนี้หล่ะ ?

พอดีต่อการใช้งาน เครื่องขนาด 636cc มันขี่ในเมืองแบบไม่กินน้ำเท่าตัว 1000 อยู่แล้ว  ใช้งานในเมืองสบายกระเป๋าครับ อีกอย่างมันอยู่ท๊อปในรุ่น 600cc  ที่เราออกรถมาแล้วมันสุดทุกอย่างแล้วอ่ะ แทบไม่ต้องไปทำอะไรกับมันเพิ่มกับมันเลยติดกันสะบัดนี่คือจบจริงๆ  มันคุ้มกับเงินทีเสียไปจริงๆครับ 

ราคา ที่น่าสนใจมาก !!!

ตั้งมาด้วยค่าตัวนาง 439,000 พร้อมประกันภัยชั้น 1 แต่.....แต่ !!!

มันราคานี้แค่ 3 เดือนนะครับ คาวาบอกว่าเอาใจแฟนๆ ซึ่งราคาจริงๆมันจะไปจบที่เท่าไร่เพราะรถมาจากญี่ปุ่นแบบทั้งลำ ของที่ให้ขนาดนี้ มันจะไปถึงราคาไหนกัน ?

ออกมา 1 สีนะครับคือสีนักแข่ง kawasaki ครับ

 

 

โดยรวมถือเป็นรถที่เก่งในทุกๆด้านจริงๆครับ ทั้งในเมืองและในสนาม เอามาขี่ได้หลากหลายตอบโจทย์สำหรับใครที่คิดว่าตัวเอง ใช้ตัว1000 แล้วเหลือไปแต่ก็อยากได้เทคโนโลยีดีดีมาขับด้วยเอายังไงดี นี่แหละ เจ้านี่แหละ ZX6R เป็นคำตอบของท่านเลยครับ มันเพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้วป่ะ ถือใบจองไปรอกัน