MINI REVIEW การทำงาน Honda PCX Hybrid จากทีมงาน Mocyc.com

 

มาเริ่มกับ Honda PCX Hybrid 

การทำงานเรียกได้ว่านี่คือการเริ่มต้นสู่ยุคกึ่งไฟฟ้าได้เต็มปากเต็มคำ หน้าตาคล้าย PCX  ทุกอย่างครับมีโลโก้ Hybrid ติดมาด้วยเรา (ซึ่งโลโก้เป็นโลโก้ตัวเดียวกับที่ติดอยู่บนรถยนต์ของฮอนด้า) ไปทำความรู้จักกันครับ

 

 

การทำงานของมันจะอธิบายง่ายๆนะครับ

  • รถมีแบตตามปรกติ แต่เพิ่มแบตคุณภาพสูงอีกหนึ่งก้อน (Li-Ion Batterry ขนาด 48 แอมป์ มีอายุการใช้งาน 8 ปี)
  • เวลาวิ่งไฟฟ้าจะทำการหมุนช่วยกำลังเครื่องยนต์และชาร์จไปในตัว (Motor Assist ให้กำลังได้ถึง 1.9 แรงม้า )
  • ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ประหยัดมากครับ (เครื่องยนต์ขนาด 150 cc.)
  • ควบคุมด้วยกล่อง PDU ( Power Deliver Unit )
  •  ทั้งหมดนี้ ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ ESP 150 cc

 

 

ทำงานในลักษณะนี้ครับ

  • พอเราเปิดคันเร่งปั๊ป ระบบจะส่งสัญญาณไปที่กล่องอันนึงที่ชื่อว่า PDU (Power Delivery Unit)
  • ตัวรถจะนำไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ LI-ION (ลิเธียมไอออน) แบบที่ใช้กับโทรศัพท์เรานี่แหละ
  • ไฟฟ้าจะส่งกำลังไปที่มอเตอร์ไฟฟ้า (Motor Assist) ที่เพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์เพิ่มแรงหมุนทำให้รถวิ่งควบคู่ไฟฟ้าไปด้วยกัน
  • แต่พอผ่อนคันเร่งหรือขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ ระบบจะทำการชาร์จพลังงานไฟฟ้าเพื่อกลับมาที่แบตเตอรี่ LI-ION ทำให้การทำงานมันต่อเนื่องกันครับ

 

 

มาถึงมินิรีวิวบ้างครับ รูปร่างภายนอกเหมือน PCX 2018 เลยครับ

ที่ต่างกันก็จะมีไฟหน้าไฟท้ายที่มาในสไตล์ของ HyBrid นั่นก็คือกรองสีใสตัดด้วยแถบสีฟ้า และมีโลโก้ HyBrid ติดอยู่ที่รถทำให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้นไปด้วยครับ 

 

 

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า Honda PCX Hybrid ยังมี Riding Mode หรือ โหมดปรับเปลี่ยนการขับขี่ ที่ปรับได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ได้แก่

  • Drive Mode (D)   โหมดขับขี่ปกติ,
  • Sport Mode (S) โหมดขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยเพิ่มกำลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมการทำงานให้เครื่องยนต์ตอบสนองการขับขี่ได้แรงเร้าใจมากยิ่งขึ้นกว่าปกติเมื่อมีการเร่งความเร็ว 
  • Blank Mode (-)  โหมดปิดการทำงานระบบ Idling Stop ซึ่งแต่ละโหมดจะให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างกัน

 

 

เราเริ่มที่โหมด D มันก็คือโหมดการขับขี่แบบปกติ ให้ความรู้สึกพุ่งกว่าตัว 2018 นิดหน่อยเร่งได้ดีครับแต่ที่แอดรู้สึกคือ เหมือนว่าช่วงล่างของรถได้ทำการอัพเกรดให้ดีขึ้นกว่าตัว 2018 น้ำหนักที่ขึ้นมีอีกเกือบ 5 กิโลกรัมเรียกว่าแทบไม่มีผลเลยครับ

 

 

โหมด S หรือโหมด สปอร์ต ให้อัตราเร่งที่ดีมากครับ เรียกว่าพุ่งเลยครับเข้าโค้งอยู่พลิ๊กรถแล้วเติมคันเร่ง เรียกได้ว่าหน้าแทบลอยเลยครับ เร่งแซงได้มั่นใจแน่นอน

เรื่องความเร็วหรือ TOP Speed แอดยังไม่ได้ลองแบบเต็มๆครับถ้าได้ลองแบบเต็มๆรับรองจัดหนักจัดเต็มให้ได้ชมกันแน่นอนครับผม

 

 

ราคาทางฮอนด้าบอกมาว่าเปิดราคาไม่เกิน 120,000 บาทแน่นอนครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ดิลเลอร์แต่ละที่ด้วยครับ

สำหรับรถจะถึงดีเลอร์ วันที่5 สิงหาคม 2561 นี้แน่นอนครับ


 


 

 

ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand