Mocyc TV : รีวิว ทดสอบ Benelli Leoncino 500 ครบเครื่องในคันเดียว !!

 

คุณเคยเบื่ออะไรเดิมๆไหม
การใช้ชีวิตเดิมๆ
ความวุ่นวายแบบเดิมๆ
และเมื่อผมได้เจอกับ มัน........ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป !!!

 


 

Leoncino 500
เริ่มต้นกับความสนุกแบบดิบเถื่อน
ความดุร้ายที่พร้อมจะกระชากหัวใจคุณ
สัตว์ร้ายตัวนี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 500 CC.

 

 

BENELLI  LEONCINO 500 เป็นรถแนว SCRAMBLER  ของค่าย BENELLI และได้มีการเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว สิงโตน้อยตัวนี้ได้รับกระแสความน่าสนใจมากมายจากคนที่มาชมในงาน แล้ววันนี้ทีมงาน mocyc.com ก็ได้รับเจ้าสิงโตน้อยตัวนี้มารีวิวแบบจัดเต็ม 

 

 

LEONCINO 500   ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 499.6 CC   2 สูบ 4 จังหวะ DOHC 8 วาล์ว ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด ระบบเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด กำลังเครื่องยนต์ที่ทำได้ 46.9 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิด 45 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที มาตรฐานไอเสีย EURO 4

 

 

ถังน้ำมันมีขนาด 12.7 ลิตร สำรองอีก 2 ลิตร น้ำหนักรถอยู่ที่ 207 กิโลกรัม

 

 

BENELLI  LEONCINO 500 มาพร้อมกับโช๊คหน้าแบบ Up – Silde Down ขนาด 50 mm. ซึ่งมีขนาดใหญ่และโดดเด่นมากครับ สำหรับโช๊คหน้านั้นยังสามารถปรับรีบาวได้ด้วยครับ

 

 

โช๊คหลังเป็นแบบ STROKE ABSORBER ซึ่งสามารถปรับ รีบาวได้ด้วย ในส่วนของเบรคหน้าเป็นดิกส์เบรคแบบ 4 พอท มีจานเบรกขนาด 320 มิลลิเมตร เบรกหลังเป็นแบบดิกส์เบรก 1 พอท จานดิกส์มีขนาด 260 มิลลิเมตรเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยระบบ  ABS ซึ่งอ๊อฟชั่น ABS สามารถปิดและเปิดได้อีกด้วย 

 

 

ล้อหน้าและล้อหลังเป็นล้อแม็กซ์ขนาด 17 นิ้ว ยางหน้ามีขนาด 120/70 บังโคลนหน้าได้ติดโลโก้รูปสิงโตไว้ด้วย ทำให้เพิ่มความหรูหรา  โด่นเด่น  มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

 

 

ยางหลังมีขนาด 160/60 ยางที่ติดมากับรถยังเป็นยางของ Pilleri ทำให้มั่นใจมากยิ่งขึ้นในการขับขี่ ท่อไอเสียเดิมออกจากโรงงานมีเสียงเร้าใจอีกด้วย หล่อๆออกจากโรงงานเลย

 

 

ไฟหน้าไฟท้ายและไฟเลี้ยวยังเป็นไฟแบบ LED รอบคัน ทำให้ดูเท่ห์ยิ่งขึ้นไปอีก ไฟหน้าเป็นแบบไฟกลมซึ่งซึ่งมีกลิ่นอายของความเป็น Retro สไตล์มากขึ้น และยังมีไฟเดย์ไลท์อีกด้วยข้างในไฟหน้ายังมีโลโก้ของ BENELLI  

 

 

  ท้ายจากโรงงานได้ท้ายแบบท้ายสั้นมาเลยครับ แถมยังมีกันดีดจากโรงงานมาให้อีกด้วย  แฮนด์เป็นแบบแฮนด์บาร์ขนาดใหญ่ตามสไลต์ของรถ Scrambler ทำให้ดูลงตัวไปอีก

 

 

หน้าปัดเรือนไมล์เป็นแบบ Fully Digital บอกครบทุกอย่างที่ควรจะมี เช่น ไฟบอกเกียร์ มาตรวัดปริมานน้ำมัน อุณภูมิเครื่อง อุณภูมิภายนอก นาฬิกา ทริป A,B ,Total   และในส่วนของเรื่องไมล์นั้นยังสามารถปรับให้เป็น KM/HR หรือว่าเป็น MPH/HR ได้อีกด้วย

 

 

TEST-RIDE

 

 

ในส่วนของท่าทางการขับขี่ ท่านั่งเป็นท่าที่ยื่นแขนไปข้างหน้ามากไปหน่อยครับ  เนื่องจากแฮนด์ที่เซ็ทมาจากโรงงานนั้นค่อนข้างยื่นไปข้างหน้า  จึงทำให้เลี้ยวยากและขี่ในทางไกลๆทำให้เมื่อยได้ แต่แก้ได้ด้วยการปรับให้ขยับเข้าหาตัวได้ครับ  เพื่อที่จะให้เราสามารถควบคุมรถได้ง่ายมากขึ้นครับ

 

 

และเรื่องอาการสั่นขึ้นมือเป็นเรื่องปกติของรถสองสูบที่ทอร์กเยอะครับ ส่วนในการเลี้ยวหรือยูเทิร์นอาจจะเลี้ยวยากไปสักหน่อยครับ เนื่องจากรถมีน้ำหนักค่อนข้างมากและรถสูงนิดหน่อย  จึงทำให้อาจจะมีปัญหาเวลายูเทิร์นสำหรับคนตัวเล็กได้ครับ (ระวังเรื่องล้มแปะครับ)

 

 

การทดสอบในการขับขี่ของเรานั้นมีระยะทางมากกว่า 300 KM. และทางที่เราได้ทดสอบนั้นมีทุกสภาพถนนไม่ว่าจะเป็นแบบฝนตก แบบทางปกติ ในสนามแข่ง ทางขึ้นเขา ลงเขา โค้งต่อเนื่อง โค้งสั้นๆ  โค้งยาวๆ และทางดิน ซึ่งของบอกว่า สิงโตน้อยคันนี้ทำได้สุดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพละกำลัง อัตราเร่ง หรือว่าเบรก

 

 

ช่วงทางเรียบอัตราเร่งต้นทำได้ดีเอามากๆเลยครับเรียกว่าดีเกือบๆเทียบตัว 650 ที่มีตามท้องตลาดเลย ทางขึ้นเขานั้นรถมีอัตราเร่งที่ดีครับแซงได้อย่างมั่นใจ ทางโค้งต่อเนื่องรถสามารถพลิกได้แต่ไม่ถึงกับพลิกได้ไว เนื่องด้วยเป็นรถแนว RETRO และแฮนด์เป็นแฮนด์บาร์ที่กว้างทำให้ท่าทางการขับขี่และพลิ๊กรถนั้นทำได้ช้า

 

 

ทางลงเขารถยังมีเอ็นจิ้นเบรกที่ดีและให้มามากพอสมควร  จึงไม่ต้องกังวลเรื่องทางลงเขาเลยครับ ทางโค้งยาวๆ รถยังยึดเกาะกับถนนได้ดี เพราะด้วยยางที่ให้มานั้นเป็นยางของ Pilleri จึงทำให้มั่นใจในโค้งได้ครับประกอบกับช่วงล่างที่เซ็ทมาจากโรงงานนั้นทำได้ดีและหนึบด้วยครับ

 

 

ทางดินนั้นรถสามารถไปได้ครับ แต่อาจจะมีอาการลื่นไถลนิดหน่อยในทางที่แฉะ เพราะยางที่ติดกับรถเป็นยางขี่ทางเรียบ แต่ถ้าเปลี่ยนไปเป็นยางแทร็คเกอร์ รับรองความมันบังเกิดแน่นอน 

 

 

การขับขี่ในสภาวะฝนตกนั้น เจ้าสิงโตน้อยทำได้ดีครับไม่ว่าจะเป็นการยึดเกาะถนน หรือการทรงตัว  บวกกับช่วงล่างที่เซ็ทมาจากโรงงานนั้นทำได้เยี่ยมครับ

 

 

สำหรับการขับขี่ในสนาม Go Kart การเอียงรถนั้นอาจจะทำได้ไม่มากเนื่องจากสนามค่อนข้างแคบ อาจจะต้องใช้ตัวเอียงลงไปช่วยเพื่อให้รถเลี้ยวง่ายครับ ช่วงล่างที่เซ็ทมาจากโรงงานก็ยังทำได้ดีครับ เบรกที่ติดมากกับรถก็ไว้ใจได้ครับเรื่องการเบรกแบบหนักๆ ข้อเสียของ Leoncino ก็มีเรื่องความร้อนครับ อาจจะร้อนขึ้นขาไปสักหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับร้อนมากครับ

 

 

แฮนด์ที่ไกลกับตัวผู้ขับขี่ไปครับแต่สามารถปรับระดับแฮนด์ได้ เวลาเลี้ยวยูเทิร์นอาจจะเลี้ยวยากไปนิดหน่อยครับ เนื่องจากรถค่อนข้างหนักเลยทำให้        ยูเทิร์นยากไปหน่อย อัตราการสิ้นเปลืองนั้นอยู่ที่ 24 กิโลเมตรต่อลิตร

 

 


 

ความสนุกบนท้องถนน ความรู้สึกที่เราได้เดินทาง

 

 

มันเป็นความรู้สึกที่คุณจะต้องไปลองด้วยตัวเอง

 

 

ชีวืตที่มีสีสันและสนุกมากขึ้น ด้วย Leoncino 500

 

 

มาเจอกับสัตว์ร้ายตัวนี้ด้วยตัวคุณเอง

 

 

แล้วกลับมาพบกับการรีวิวรถแบบจัดหนักจัดเต็มได้ที่ รายการ mocyc TV รายการดีๆที่ไม่ได้มีแค่เรื่องมอไซค์