ทั้งสองคอร์สนี้จะเรียนวันเดียวกัน   เมื่อเราเข้าไปไปเรียนสิ่งแรกที่เราจะได้เจอคือการกรอกใบสมัคร หลังจากนั้นครูฝึกจะให้พวกเรานั้นไปเปลี่ยนชุดเพื่อที่เราจะได้ทำการขับขี่รถ  อุปกรณ์เราไม่ต้องเตรียมมาเลยเพราะทางศูนย์ฝึกนั้นมีให้เราครบทุกอย่าง  ไม่ว่าจะเป็น สนับเข่า สนับศอก ถุงมือ หมวกกันน๊อค เสื้อเกราะอ่อน   เสื้อเบอร์  แต่รองเท่าผ้าใบเราต้องเตรียมมาเอง

 

 

เมื่อเราแต่งตัวเสร็จทางครูฝึก  จะพาเราไปยังโรงรถเพื่อที่จะให้พวกเรานั้นเลือกรถที่จะใช้ในการฝึก รถที่ใช้ในการฝึกวันแรกสำหรับคนที่ขับขี่รถยังไม่เป็นหรือยังไม่มั่นใจในการขับขี่นั้น  ทางครูฝึกจะให้ใช้รถออโตเมติกก่อน   ส่วนใครที่ขี่ได้แล้วแล้วอยากขี่รถมีคลัทช์ ครูฝึกจะให้ใช้รถมีคลัทช์ในการฝึกขับขี่

 

 

จากนั้นครูฝึกจะพาเราอบอุ่นร่างกาย  ก่อนเพื่อให้ร่างกายของเรานั้นยืดหยุ่นได้ดี หลังจาก นั้นครูฝึกก็จะอธิบายและแนะนำอุปกรณ์ต่างๆของรถจักรยานยนต์ตั้งเต่เรื่มต้นไปจนครบกันทีเดียวครับ  คือง่ายๆ จากคนที่ไม่รุ้เรื่องอะไรเลยก็สามารถเข้าใจหลักการง่ายๆๆ    ต่อจากนั้นครูฝึกจะพาพวกเราขับขี่เพื่อที่ทำการวอมรถและให้ทุกคนนั้นรู้จักกับตัวรถก่อน จะทำการขี่วนให้ทั่วสนามประมาน 3-5 รอบ หลังจากนั้นครูฝึกก็จะทำการแนะนำในเรื่องต่างๆตั้งแต่ท่าทางการขับขี่ และแนะนำเรื่องท่าทางการขับขี่ 7 จุดสำคัญในการขับขี่

ได้แก่

1. สายตา-- สายตานี้จะเป็นตัวนำพารถไป เรามองไปทางไหนรถก็จะไปตามที่เรามอง

2. หัวไหล่-- ต้องไม่เกรงจนเกินไปเวลาเลี้ยวต้องหันไปทั้งไหล่

3. แขน-- แขนต้องไม่ตึงหรือหย่อนเกินไปต้องพอดีๆ

4. มือ --เวลาเบรคให้ใช้ทั้งหมด 4 นิ้ว เพราะเราใช้เพื่อหยุดรถ ถ้าเป็น Dirt จะใช้ทั้งนิ้ว 1-2 นิ้ว เพื่อใช้ชะลอรถ จะไม่มีเอามือมาคลอเบรค คลอคลัทช์

5. ท่านั่ง --ท่านี้จะนั่งตรงกึ่งกลางของตัวรถ แต่ละคนความสูงอาจจะไม่เท่ากันให้ขี่ไปแล้วยืนขึ้นแล้วนั่งลงใหม่จะเป็นท่านั่งที่กึ่งกลางของแต่ละคน

6. เข่า-- เข่าเป็นส่วนสำคัญในการช่วยในการพลิ๊กรถเข่าต้องชี้ไปข้างหน้าเสมอ

7. เท้า—เท้าต้องชี้ไปข้างหน้าไม่กางออกจากตัวรถ

 

 

หลังจากแนะนำการขับขี่ไปแล้ว  ทางครูฝึกจะให้เราลงไปขับขี่ซึ่งจะมีครูฝึกขี่นำอยู่ 1 คน แล้วปิดท้ายอีก 1 คน ส่วนครูฝึกที่เหลือนั้นจะไปยืนตามโค้งตามจุดต่างๆ  เพื่อแนะนำผู้ขับขี่ว่าผู้ขับขี่นั้นลืมทำอะไร และจะคอยปรับท่าทางการขับขี่ให้แก่ผู้เรียนทุกคน ซึ่งขอบอกเลยครับว่า  ที่นี่เขาดูและเอาใจใส่กับผู้มาเรียนทุกคนเลยครับ เพราะถ้าใครขี่ไม่ได้หรือทำไม่ได้ก็จะทำการสอนแบบตัวต่อตัวเลยครับ จึงทำให้ผู้มาเรียนนั้นรู้สึกว่าทางครูฝึกที่นี่ดูและพวกเราเป็นอย่างดีเลยครับ

 

 

ช่วงบ่ายเข้าสู่การขับขี่อีกครั้งโดยประมาน 10-15 นาทีแรก  ครูฝึกจะนำเราวอมอัพเหมือนเดิม หลังจากนั้นครูฝึกก็จะสอนเกี่ยวกับการใช้เบรค  เพื่อที่จะทำการหยุดรถ โดยครูฝึกจะแนะนำการใช้เบรกที่ทำให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเราขับขี่

แล้วจะให้นักเรียนทุกคนลงมือปฏิบัติตาม โดยครูฝึกจะมายืนตรงจุดเบรค  เพื่อที่จะบอกวิธีแก้ไขในการขับขี่และการเบรคให้ถูกต้องตามหลักการของการขับขี่ปลอดภัย

 

 

 ครูฝึกจะให้ขับขี่เป็นเวลา 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะเพิ่มการขับขี่แบบสลาลอม   ใช้การฝึกโดยประมานครึ่งชั่วโมง และการฝึกสุดท้ายของวันที่ 1 เป็นการฝึกบาลานซ์ ประมาน 40 นาที ในส่วนของการฝึก Pre-Riding วันแรกนั้นก็เสร็จสิ้นลง

 

 

ในส่วนของวันที่2ของการฝึกขับขี่แบบเบื้องต้น (Pre-Riding) และฝึกหัดขับขี่รถมีคลัทช์

ครูฝึกจะให้ทำการเปลี่ยนรถ ใครที่ขี่รถออโตเมติกจากวันแรก จะให้เปลี่ยนมาขี่รถแบบมีเกียร์ และในวันแรกใครที่ขี่แบบคลัทช์ จะให้เพิ่ม cc รถขึ้นมาเป็น 150 cc

 

 

หลังจากที่เราได้รถแล้วครูฝึกจะพาเราทำการวอมอัพเพื่อให้ชินกับตัวรถก่อน   หลังจากนั้นจะทบทวนการขับขี่ของเมื่อวาน โดยจะเพิ่มความยากของการขับขี่เพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยเพราะรถที่เปลี่ยนไปจากเมื่อวานหลักๆจะเป็นการทรงตัวและขี่ผ่านลูกระนาดครับ

 

 

 วันนี้ครูฝึกจะทำการปรับปรุงท่าทางการขับขี่ของแต่ละคน โดยจะบอกเป็นรายบุคคลเลย เป็นการเอาใจใส่ผู้ที่เข้ามาเรียนมากครับ หลังจากนั้นก็ทำการฝึกแบบวันแรก พอเรียนในส่วนของวันที่ 2 เสร็จแล้วตอนเย็นก็จะมีการถ่ายรูปหมู่และมีการแจกในประกาศให้แต่ละคนด้วยครับ สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจในการขับขี่สามารถเข้าไปเรียนซ้ำได้ครับ หรือใครที่มั่นใจแล้ว สามารถลงคอร์สต่อไปได้เลยครับ

 

 

 

สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปติดต่อศูนย์ Honda Safety Riding Park ได้เลยครับ

มีศูนย์อยู่ที่กรุงเทพ (Tel.02 735 3999)

สมุทรปราการ (Tel.02 757 6111 ต่อ 3003-3007)

เชียงใหม่ (Tel. 053294933)

และภูเก็ต (Tel.076 562 999)

 

ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand