[รีวิวและทดสอบ] GPX CR5 200cc. กับการยิงยาวจัดหนัก 1,200 กม. เชียงใหม่ - เขาค้อ
สวัสดีครับวันนี้ทางทีมงาน Mocyc TV ก็ได้รับรถมาทดสอบอีกแล้วโดยเป็นรถแบรนด์ไทย GPX โดยในครั้งนี้ได้ส่งมาทดสอบในรุ่น CR5 200 ซีซี แน่นอนแล้วครับรถในพิกัดนี้ จะให้แค่ขี่ทดสอบ 10 - 20 กิโลเมตร จะไปได้ผลทดสอบอะไรมากมาย งานนี้ทีมงานตั้งเป้าไว้เลยว่าต้อง 1,000 กิโลเมตร เท่านั้น!!!
ว่าแล้วก็ไม่รีรอครับ จัดแจงวางเส้นทาง เพื่อให้ครบทุกๆการทดสอบจริงๆ ขี่แค่ทางเรียบๆก็คงจะไม่ได้อะไร ขี่แค่ทางตรงๆก็คงจะน่าเบื่อ จัดไปงานนี้ต้องครบรส เชียงใหม่ - ลำพูน - ลำปาง - อุตรดิตถ์ - พิษณุโลก - ชาติตระการ - นครไทย - ภูหินร่องกล้า - ภูทับเบิก - เขาค้อ งานนี้เรียกว่ามีทั้งทางตรงๆ โค้งๆ ขึ้นลงเขาชันๆ ครบรสแน่นอน ซึ่งระยะทางขาเดียวก็ราวๆ 500 กิโลเมตร โดยขี่ยาวภายใน 1 วัน
แต่ก่อนออกเดินทางเรามาทำความรู้จักกับ GPX CR5 200 ซีซี คันนี้กันก่อนดีกว่า โดยที่รถรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจากตัวเดิมที่มีเครื่องยนต์ 150 ซีซี โดยในรุ่นนี้ได้ทำการขยับมาเป็น 200 ซีซี ทางทีมงานเองก็เคยทดสอบแบบหนักๆมาแล้วกับ CR5 150 ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอีก 50 ซีซี ที่เพิ่มมาจะได้ซักแค่ไหน โดยตัวเครื่องยนต์นั้นจะเป็นแบบ แคมเดี่ยว SOHC จ่ายน้ำมันด้วยคาร์บูเรเตอร์สูญญากาศ แถมพกออยคูลเลอร์มาให้ด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้ดียิ่งขึ้น
รูปทรงโดยรวมแล้วเหมือนเดิม เพิ่มเติมมาก็คือไฟ Day light อยู่ด้านข้างของตัวรถซึ่งดูเท่ไม่เบาเลยทีเดียว ไฟหน้าเป็นแบบ H4 โดยโคมไฟหน้ามีไฟหรี่ตรงมุมของโคมไฟด้วย ไฟเลี้ยวและไฟท้ายเป็นแบบ LED เรือนไมล์ลวดลายสวยงามผสมผสานระหว่างวัดรอบแบบเข็มและมาตราวัดต่างๆเป็นแบบดิจิตอล โดยแสดงผลความเร็ว ตำแหน่งเกียร์ ปริมาณเชื้อเพลิง ทริปต่างๆ ด้านถังน้ำมันเชื้อเพลิงจุได้ 10 ลิตร พร้อมฝาถังแบบติดกับตัวรถทำให้สะดวกในการใช้งานทีเดียว
ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิค ที่ดูใหญ่และบึกบึนยังกับรถในคลาส 300-500 ซีซีกันเลยทีเดียว แฮนด์เป็นแฮนด์บาร์ ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบโช๊คเดี่ยวที่สามารถปรับ Preload ได้ ในด้านระบบเบรคนั้นเป็นแบบดิสก์เบรคทั้งหน้าและหลัง โดยหน้าจะเป็นแบบ 2 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบ 1 ลูกสูบ ส่วนล้อนั้นเป็นล้อแม๊กขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยางจุ๊ปเลสของ IRC รุ่น Roadwinner ขนาดยางหน้า 110/80 ส่วนด้านหลัง 130/70 ยาง 62 P แปลว่าสามารถรับโหลดได้ที่ 265 กิโลกรัม และรองรับความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม.
และแล้วก็ถึงเวลาเอาออกไปทดสอบกันครับ เช็คความพร้อมของคนของรถพร้อม ก็ออกเดินทางกันได้เลย....
จากการทดสอบรถ GPX CR5 200 ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างดีในท่าทางในการขับขี่ไกลๆ ด้วยแฮนด์ที่กว้าง ท่าขับขี่ไม่ก้มมาก การวางขาที่ค่อนข้างสบายทำให้ไม่มีอาการเมื่อยมากมายนัก 200-300 กิโลนี่ขี่ไปได้สบายๆเลยไม่มีเมื่อย เรายืนพื้นเดินทางกันที่ 120 - 130 กม./ชม. อัตราเร่งทำได้ดีทีเดียวในช่วงเกียร์ 4 - 5 - 6 ในส่วนของเกียร์ 1 - 2 - 3 เกียร์ค่อนข้างชิดไปหน่อย เริ่มบิดมันส์ในช่วงเกียร์ 3 - 4 ขึ้นไปที่สามารถลากยาวๆได้สนุกติดมือ 50 ซีซี ที่เพิ่มขึ้นมาถือว่าทำได้พอดีกับรถมากยิ่งขึ้น ทำให้เกียร์ 6 ไม่มีอาการห้อยเหมือนตัว 150 อีกแล้ว
โดยเมื่อทดสอบอัดเต็มที่ความเร็วบนเรือนไมล์เดิมๆสามารถพาไปได้ 130 กม./ชม. ได้แบบสบายๆ และไต่ไปเรื่อยๆ จนในบางช่วงสามารถไต่ไปได้ถึง 150 กม./ชม. เลยทีเดียว แต่เรือนไมล์เดิมของรถค่อนข้างจะอ่อนไปนิดโดยเมื่อเทียบกับรถที่ขี่ไปด้วยกันจะอยู่ที่ราวๆ 140 กม./ชม. แต่การวัดระยะทางถือว่าค่อนข้างตรงกับรถรุ่นอื่นๆครับ
เมื่อถึงคราวต้องวิ่งบนเขาชันๆ ต้องบอกเลยว่าขอยกนิ้วให้กับเจ้า CR5 200 เลยทีเดียว เพราะมีแรงในการไต่เนินชันๆได้อย่างดีมาก ไม่ต้องมัวรีดรอบให้มากเพราะมีแรงไต่ตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ จนบางช่วงบางเนินก็ทำเอารถญี่ปุ่นที่ไปร่วมทริปด้วยยังอายเวลาขึ้นเนินชันๆ ส่วนขาลงเนินนั้นมี Engine Break ให้ใช้แบบเหลือๆ บางเนินแทบไม่ต้องพะวงเรื่องการใช้เบรคเลยทีเดียว สับ 3 ปล่อยไหลลงไปแบบสบายๆไม่ต้องคอยแตะเบรคเลยก็ยังได้
ในช่วงบนเขาสูงๆ ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆ รถมีอาการเปิดแล้ววูบบ้างในช่วงกระแทกคันเร่ง และมีอาการยิงปุ๋งปั๋งๆบ่อยพอสมควร ซึ่งอาการนี้คงต้องให้ทาง GPX นำรถไปทดสอบเองและปรับจูนน้ำมัน อากาศ หรือส่วนอื่นๆกันหน่อย ถือว่าเป็นการบ้านให้ทาง GPX แล้วกันกับเรื่องนี้ครับ
ระบบช่วงล่างของรถคันนี้ ขอยกนิ้วให้ในระบบกันสะเทือนหน้าที่ทำได้นิ่งมากๆ ซัดมาเต็มๆ 130+ ยังนิ่งๆ เข้าโค้งก็ทำได้แบบนิ่งๆ ไม่มีสั่นไม่มีส่าย รถค่ายญี่ปุ่นบางรุ่นเข้าโค้งแรงๆเกิน 120 บางทีหน้านี่สั่นเลยก็มี ส่วนโช๊คหลังนิ่มดีครับหากการขับขี่ทั่วไปแล้วถือว่าทำได้ดี แต่หากเข้าโค้งแรงๆอาจจะมีความรู้สึกว่าย้วยไปบ้างนิดนึงในจังหวะที่เข้าโค้งเร็วๆ 120+ ในถนนเป็นคลื่น โดยรวมแล้วก็ถือว่าดีครับ
ระบบเบรคหน้าทำงานได้ดีเยี่ยม ทั้งเบรคแรงๆ กรอเบรค ต่างๆทำได้ดั่งใจมากๆ ส่วนเบรคหลังนั้นถือว่าติดดีทีเดียว แต่บางทีกดแรงไปนิดก็ล้อล๊อคได้ง่ายๆเช่นกัน ต้องขับขี่ให้เคยชินแล้วจะใช้งานได้ดีเยี่ยมครับ ตัวยางนั้นก็ถือว่าทำงานได้ดีทั้งการท่องเที่ยว และการนำไปเข้าโค้งก็ถือว่าให้ความมั่นใจที่ดีในระดับหนึ่ง แต่หากใครที่รักการเล่นโค้งมากๆ ก็คงต้องแนะนำให้เปลี่ยนยางเป็นเกรดที่ดีขึ้นกว่านี้ครับ
เรื่องของการบริโภคน้ำมันนั้น กับการใช้งานแบบซัดและจัดเต็มแทบล๊อคคันเร่งกันเลยทีเดียว 120+ จะกินน้ำมันอยู่ที่ราวๆ 20-25 กิโลเมตร/ลิตร และหากขับขี่แบบชิวๆสบายๆ 70-80 กม./ชม. ก็จะอยู่ที่ประมาณ 30 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งเมื่อมาคำนวนแล้ว 1 ถังก็จะมีระยะการวิ่งได้ราวๆ 200 - 250 กิโลเมตร
เมื่อเรามาถึงเขาค้อก็เริ่มสำรวจว่าผ่านการขี่ยาวๆมากว่า 500 กิโลเมตรแล้วเป็นยังไงบ้าง สิ่งที่เจอก็คือ โซ่ที่หย่อนมากๆ แนะนำว่าหากใครเน้นขี่เที่ยวไกลๆ หาโซ่ดีๆ มีราคาซักหน่อยมาใช้ แนะนำว่าหาแบบมีโอริงยิ่งแจ่ม จะได้วิ่งกันยาวๆหายห่วง และจุดอื่นที่เจอก็คือเกียร์เริ่มเข้ายากตอนนี้ไมล์รถวิ่งมาได้ 1,000 กิโลแล้ว เข้าเกียร์ยากโดยเฉพาะเวลาถอนเกียร์ต้องได้ปล่อยคลัทซ์เป็นจังหวะๆเพื่อถอนเกียร์กันเลยทีเดียว ก็ต้องไปจัดแจงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องถึงดีขึ้น
โดยรวมไม่ขอเอาไปเทียบกับรถรุ่นอื่นๆก็แล้วกันนะครับ เอาตัวรถและสมรรถนะที่ได้เทียบเอากับราคาของรถเองที่ 59,800 บาท แล้วทำได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าเป็นรถรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว ทนไม่ทนก็อยู่ที่คนใช้อีกส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน สำหรับการทดสอบยิงยาวแบบจัดเต็มทำได้ขนาดนี้ก็ไม่ธรรมดาแล้วครับกับ GPX CR5 200 ซีซี หากสนใจก็เข้าไปดูตัวจริงได้ตามตัวแทนจำหน่าย GPX ทั่วประเทศครับ
ขอขอบคุณ...
GPX ที่เอื้อเฟื้อรถในการทดสอบและยินยอมให้เราจัดหนักในครั้งนี้
บจก.ตรีธวัฒน์ มอเตอร์ไบค์ เชียงใหม่ ที่เป็นธุระในการจัดส่งรถทดสอบให้ครับ