สกุ๊ปพิเศษ : วิธีการเคลือบฟิลม์
พอดีผ่านไปเจอในเว็บบอร์ดของเว็บมีการโพสการติดฟิล์มเคฟล่าไว้ แต่เท่าที่ผมจำได้เคยนำเสนอไปแล้วรอบหนึ่งแต่ไม่เป็นไรครับ ผมเอามาฝากอีกครั้งก็ได้ครับต้องขอขอบคุณ คุณ childsmile ด้วยที่นำมาฝากและก็ขอบคุณเว็บ http://www.weloveshopping.com/shop/kevlar/ ที่นำเปิดเผย มาเริ่มกันเลยครับ
1.ทำความสะอาดชิ้นงานที่ต้องการเคลือบโดยการล้างด้วยน้ำยาขจัดคราบไขมัน และตากหรืออบให้แห้ง ทำผิวให้เรียบด้วยการแต่งผิวด้วยกระดาษทราย แล้วพ่นรองพื้นด้วยสีรองพื้นที่ ผสมให้ได้ตามสีพื้นที่ต้องการแล้วปล่อยให้แห้ง การใช้สีรองพื้นควรที่จะใช้สีที่เหมาะแก่ชิ้นงานเพื่อการยึดเกาะที่ดี เช่นสีที่ใช้กับพลาสติก ABS จะต้องใช้กับสีประเภทพลาสติกหรือรองพื้นกันร่อน
2.ตัดฟิล์มตามขนาดให้กว้างกว่าชิ้นงานด้านละประมาณ 2 นิ้ว จากนั้นใช้มีดกรีดขอบฟิล์มห่าง2-3นิ้วทุกด้านให้ขอบฟิล์มขาดเพื่อป้องกันการม้วนของฟิล์มขณะอยู่บนน้ำ ใช้กระดาษกาวหรือตัวหนีบติด4มุมให้ยึดกับกระดาษหรือไม้ เพื่อไม่ให้ฟิล์มปลิวขณะพ่นกาว
3.ใช้กาวพ่นโดยใช้จากกระป๋องสเปรย์เพื่อให้กาวกระจายติดได้ทั่วและเสมอกัน ไม่ควรพ่นเกิน2 ครั้งบนฟิล์ม และพ่นในแนวตั้ง( กาวต้องไม่น้อยหรือมากเกินไปหากมากไปสีจะละลาย) ให้พ่นด้านที่สีลอกได้ ทดสอบได้ด้วยการใช้นิ้วแตะกาวแล้วถูไปบนฟิล์มสีลอกด้านใดให้พ่นกาวด้านนั้น
4. นำฟิล์มที่พ่นกาวแล้ววางลงบนน้ำได้ทันที โดยนำด้านที่พ่นกาวไว้ด้านบน จากนั้นเป่าลมโดยใช้ไดเป่าหรือปืนพ่นลม เป่าตั้งฉากกับฟิล์ม เพื่อไล่น้ำและฟองอากาศ ไม่ควรใช้ลมแรงมากเกินไปและ รอจนฟิล์มเป็นผิวเดียวกับน้ำใช้เวลาประมาณ 1-2นาที
5. ระวังอย่ากันฟิล์มตามขนาดของฟิล์มที่ตัดขณะลงน้ำเพราะฟิล์มยังไม่ขยายตัว รอจนกว่าผิวฟิล์มเรียบ และอย่าให้ฟิล์มขยายตัวมากเกินไป เพราะจะทำให้ลายไม่สวยและไม่ชัดเจน ควรกันด้วยวัสดุแข็ง,กระดาษ,ไม้หรือโฟมเพื่อไม่ให้ฟิล์มขยายตัวมากไป
6. นำชิ้นงานที่เตรียมไว้แล้วลงจุ่มบนฟิล์มที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ไม่ควรเกิน3-5 นาที หลังจากที่ฟิล์มเรียบเป็นผิวเดียวกับน้ำ การจุ่มให้ชิ้นงานทำมุม30-60องศากับผิวน้ำการจุ่มต้องจุ่มช้า ๆเพื่อที่จะไล่อากาศ หากส่วนใดของผิวชิ้นงาน อากาศระบายออกไม่ได้ฟิล์มจะไม่ติด
8. หลังจากนั้น นำขึ้นมาล้างน้ำได้ทันที โดยใช้น้ำเปล่าฉีด ให้เป็นละออง หรือน้ำฝักบัว จนผิวที่ลื่นๆหมด หรือแช่ไว้ในน้ำ 10 นาทีแล้วค่อยล้างก็ได้ หรือใช้ฟองน้ำลูบเบาจนความลื่นหมดไป
9.เมื่อล้างน้ำเสร็จแล้วนำมาเป่า,ตากแดด หรืออบให้แห้ง ตามอุณหภูมิที่เหมาะสม ของวัตถุชิ้นงานที่ชุบ เช่น PU ทนร้อนน้อย กว่าABS
11.เมื่อแห้งแล้วนำมาพ่นเคลือบเงาด้วยแล๊กเกอร์ด้าน ,แล็คเกอร์เงา หรือโพลียูรีเทรน ( PU 2 K )ตามที่ต้องการ
12. ทำให้แห้งอีกครั้ง ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน ถ้าต้องการให้เงามากควรพ่นแล็คเกอร์หลายๆชั้น
ข้อควรระวัง
1.สีที่ชุบแล้วจะติดแน่นทนนาน ต่อเมื่อ ใช้สีรองพื้นที่ใช้กับชิ้นงานประเภทนั้น และก่อนพ่นสีพื้นจะต้องทำ ความสะอาดผิวชิ้นงาน มิให้มีคราบน้ำมัน หรือ เคมีที่ทำให้ลื่น เป็นเงามัน
2.การพ่นกาวต้องระวังอย่าให้กาวไปติดอีกด้านหนึ่งของฟิล์ม เพราะจะทำให้เกิดการละลายของฟิล์มไม่เท่ากันแล้วจะเกิดการย่น ,พับ หรือการแตกของฟิล์ม
3.เครื่องพ่นลมต้องมีตัวดักน้ำ มิให้มีละอองน้ำ ในขณะพ่นกาว และพ่นลม
4.ผิวน้ำในขณะชุบต้องสะอาดมิให้มีคราบกาวลอยบนผิวน้ำ หรือตะกอนในขณะวางฟิล์มลงน้ำ
5.การหัดชุบครั้งแรกควร เริ่มต้นจากชิ้นงานที่ขนาดไม่เกินฝ่ามือ หากชำนาญขึ้นจะสามารถชุบงานชิ้นใหญ่ได้ดีและสวยงาม
6.หากชิ้นงานที่ชุบแล้วลวดลายไม่สวยงามหรือ ฟิล์มยับไม่ชัดเจน แก้ไขได้ด้วยการนำไปชุบใหม่แต่ต้องล้างชิ้นงานเดิมให้ฟิล์มหมดแล้วทำให้แห้งแล้ว จึงพ่นสีพื้นทับ แล้วจึงนำไปชุบใหม่ได้
7.การเก็บรักษาฟิล์มที่เหลือควรเก็บในห้องที่อากาศแห้ง ไม่ร้อน ไม่ชื้น และมีการห่อหุ้มด้วยวัสดุกันน้ำและความชื้นได้ จะสามารถเก็บได้นาน
ที่มา : http://www.mocyc.com/board/view.php?idboard=10851
ข้อมูล : http://www.weloveshopping.com/shop/kevlar/