Kawasaki เปิดตัว Nina ZX-4RR อย่างเป็นทางการ มาพร้อมกับ 4สูบเรียง Redline 15,000 ต่อนาที

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2023 คาวาซากิได้เปิดตัว Ninja ZX-4RR KRT Edition ใหม่อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา ออกแบบมาเพื่อสาย Racing Replica โดยเฉพาะ และวันนี้เราจะมาเจาะสเปกของเจ้ายักษ์เขียวตัวใหม่ล่าสุดนี้กันว่าจะมีความน่าสนใจมากแค่ไหน

อย่างแรกที่ทุกคนถามหากันมากที่สุดก็จะเป็นเครื่องยนต์ที่มาในขนาด 399cc 4 สูบเรียง 4 จังหวะ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยของเหลว กระบอกสูบและระยะชัก 57.0 x 39.1 มิลลิเมตร ตัวเลขแรงบิดสูงสุดของเจ้าตัวนี้ทำได้อยู่ที่ 35.92 นิว ตันเมตรที่ 11,000 รอบต่อนาที และที่น่าสนใจอีกจุดนั่นก็คือ Redline มีขนาดมากถึง 15,000 รอบต่อนาที ถ้าหากทำไม่ดีจริงลูกสูบออกมาคุยนอกเครื่องยนต์แน่ๆ มีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 12.6:1 ระบบเกียร์ 6 สปีด มาพร้อมกับระบบ Assist Slipper Clutch และ Quick Shifter

Redline ลากไปได้ขนาดนั้น Kawasaki เขาทำกันยังไง ทางผู้สร้างได้กล่าวว่าตัวลูกสูบและกระบอกสูบสร้างจากอลูมิเนียมหล่อและก็เคลือบไปด้วยสาร Molybdenum เพื่อความทนทานสูงสุด ใช้วาล์วไอดี 22.1 มม. และวาล์วไอเสีย 19.0 มม. เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ และมุมวาล์วแคบ 24.8 องศาได้รับการออกแบบโดยคํานึงถึงประสิทธิภาพการเผาไหม้และความกะทัดรัดของเครื่องยนต์

เคล็ดลับอื่น ๆ ภายในเครื่องยนต์ ได้แก่ Crankshaft ที่มีน้ำหนักเบาและสปริงวาล์วแบบเดียวกันกับ ZX-10R ที่ไล่น้ำหนักเบา และวาล์วปีกผีเสื้ออิเล็กทรอนิกส์ 34 มม. น้ำหนักของตัวรถอยู่ที่ 188 กิโลกรัม ความสูงของเบาะนั่ง 31.5 นิ้วฐานล้อ 54.3 นิ้ว

ระบบช่วงล่างของเจ้ายักษ์เขียวตัวนี้ ด้านหน้าได้รับโช้คจาก Showa ขนาด 37 มม. สามารถปรับระดับความแข็งอ่อนของสปริงและพรีโหลดได้จากหัวโช้ค ระบบเบรกประกอบด้วยดิสก์หน้าแบบคู่ขนาด 290 มม. จับคู่กับคาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ Monoblock และด้านหลังเป็นแบบเดี่ยวขนาด 220 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว พร้อมกับระบบ ABS  ขนาดล้อ 17 นิ้วที่ออกแบบมาพิเศษโดยมีความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา ก้านคลัตช์และก้านเบรกปรับระดับได้ 5 ระดับ

พระเอกที่ Kawasaki อยากนำเสนอมากที่สุดคือ ระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่าง Traction Control ที่จะสามารถตัวรถนั้นออกโค้งได้อย่างมั่นใจและนุ่มนวลแบบไม่มีสะดุด ซึ่งถ้าหากจะทำได้ขนาดนี้ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ใน Superbike 1000cc กันทั้งนั้น แต่ทาง Kawasaki เองได้หยิบเข้ามาใส่ใน Sportbike 400cc ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ Ninja ZX-4RR ยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ถึง 4 โหมดด้วยกันทั้ง Sport , Street , Rian และ Rider (manual).

สวิงอาร์มและจุดศูนย์ถ่วงได้รับแรงบันดาลใจจาก ZX-10RR ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย มาแบบ LED หน้าจอ TFT สีเต็มรูปแบบพร้อมโหมดการแสดงผลที่แตกต่างกันสองโหมดเพื่อให้ผู้ขับขี่เลือกใช้ และมียังCircuit Mode ที่สามารถจับเวลาต่อรอบ และสามารถบันทึกข้อมูลสำคัญอื่นๆ โดยเชื่อมต่อเข้ากับ Smartphone ได้โดยใช้แอพ  Rideology the App ของ Kawasaki

และราคาเปิดตัวอยู่ที่ 9,699 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ  300,000 บาท ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่ยังไม่มีการรวมภาษีนำเข้าในแต่ละประเทศ ในประเทศไทยก็มีลุ้นอยู่พอสมควรกับงาน Motor Show 2023 นี้!!!

ขอขอบคุณที่มาจาก : Rideapart

ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : Mocyc.com
Youtube : มอไซค์
IG : MocycThailand