เมื่อวันที่ 23 ต.ค. นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการร่วม 7 องค์กร เช่น ดีเอสไอ กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร กรมศุลกากร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ประชุมร่วมกันเพื่อเปิดโอกาสให้รถยนต์หรู บิ๊กไบค์ ประมาณ 6,000 คัน เข้ามาตรวจสอบเลขเครื่อง, เลขคัสซี, เลขที่เกียร์ ตรงกันหรือไม่

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการประกาศมูลค่าชิ้นส่วน เพื่อนำมาจดทะเบียนประกอบเป็นคันรถที่สมบูรณ์ ขณะนี้คณะกรรมการได้ใช้ราคาสะท้อนตลาดในปัจจุบัน ทำให้การเสียภาษีนำเข้าแบบชิ้นส่วนเทียบกับการนำเข้ามาแบบทั้งคันเพื่อเสียภาษีนำเข้าจะไม่แตกต่างกันเหมือนในอดีต ซึ่งรถทั้ง 2 ประเภทนับว่ากำลังได้รับความนิยมในขณะนี้จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

สำหรับเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิต ได้ตั้งเป้าหมาย จำนวน 420,000 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2558 โดยไม่ได้อยู่ในสมมติฐานการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน แต่เมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นน่าจะเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย โดยกลุ่มภาษีสำคัญยังเป็นรายได้จากภาษีน้ำมัน รถยนต์ คาดว่าจะเริ่มดีขึ้นในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ปี 2558 โดยรายได้ภาษีเครื่องดื่มจะดีในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว

ส่วนความคืบหน้าร่างประมวลกฎหมายสรรพสามิต ซึ่งรวมกฎหมายลูกทุกฉบับให้อยู่ในประมวลเดียวกัน เพื่อการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นในทางเดียวกัน ได้ให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ช่วยศึกษายกร่างและเปิดรับฟังความเห็นจากภาคเอกชนทั้งหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยขณะนี้ได้เสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เพื่อเปลี่ยนแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากเดิมประเมินราคาหน้าโรงงานมา เป็นการจัดเก็บจากราคาขายปลีกแนะนำ โดยจะเสนอคณะกรรมการประกาศราคาสินค้าปลายปี เพื่อเป็นฐานคำนวณเสียภาษี

พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการปรับอัตราภาษี แต่จะใช้แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี เมื่อกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว จะเสนอคณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าจะบังคับใช้ได้ในปีงบประมาณ 2558 ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ