เมื่อวันที่ 31 ส.ค.พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.(ปส.)  พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรักษา (สบ.10) (ปส 1)  พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5  พล.ต.ต.ภานณุเดช บุญเรือง ผบก.ปส.3 นายวิชัย ไชยมลคล ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 เจ้าหน้าที่ ทหาร กกล.รส.จทบ.ช.ร. ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม ตรวจค้น และอายัดทรัพย์สิน เครือข่ายยาเสพติดตระกูลแซ่เติน ทั้งหมด 61 เป้าหมาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย 27 เป้าหมาย จ.พะเยา 3 เป้าหมาย จ.เชรบุร 10 เป้าหมาย จ.นนทบุรี 5 เป้าหมาย จ.ปทุมธานี 2 เป้าหมาย จ.ชัยนาท 7 เป้าหมาย จ.นครสวรรค์ 3 เป้าหมาย จ.นครปฏม 2 เป้าหมาย และจ.สงขลา 2 เป้าหมาย  

           ทั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้จำนวน 10 คน เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ 40 คน  ตรวจยึดของกลางเป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง หอพัก รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เงินสด ทองรูปพรรณ อายัดเงินในบัญชี ซึ่งรวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 100 ล้านบาท 

           พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมเครือข่ายตระกูลแซ่เติน ครั้งนี้สืบเนื่องมาจากวันที่ 15-16 มี.ค.57 กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดได้ทำการจับกุมตัวนายกรทอง ลีสายเกิด พร้อมกับพวก 9 คน ซึ่งเป็นผู้ลำเลียงยาเสพติดโดยยึดยาบ้าจำนวน 3 ล้านเม็ด รถยนต์จำนวน 5 คัน ที่ถนนสามัคคีชัย ม.10 ต.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยจากการสอบสวนและขยายผลทราบว่ายาบ้าดังกล่าวได้มีการลำเลียงมาจาก สปป.ลาว ผ่าน อ.ท่าลี จ.เลย จนสามารถขยายผลและทำให้ได้ข้อมูลเครือข่ายของผู้กระทำผิดเพิ่มเติมโยงเป็นเครือข่ายระดับประเทศ 

           ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พบว่าเป็นส่วนที่อยู่ในการสั่งซื้อและจัดหาผู้ลำเลียงยาเสพติด โดยมีนางกอยเจียว แซ่เติน หรือเงินอ่อน เป็นผู้ประสานงานและจัดหายาเสพติดจากเครือข่ายยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นได้นำยาเสพติดส่งต่อให้กับเครือข่ายชาวเขาเผ่าม้งให้ลำเลียงยาเสพติดไปตามลำน้ำโขงเข้าสู่ สปป.ลาว แล้วมุ่งหน้าเข้าสู่จ.เลย ก่อนจะส่งต่อไปยังภาคกลาง โดยจะมีการส่งต่อเป็นช่วงๆ ซึ่งพบว่าเมื่อเข้าสู่ภาคกลางแล้วจะส่งขายให้ลูกค้ารายย่อยในแหล่งชุมชนต่างๆ ภายในภาคกลาง 

           ซึ่งการจับกุมเครือข่ายของตระกูลแซ่เตินนี้ จะเป็นต้นแบบในการปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดในเครือข่ายอื่นๆ อีกต่อไป โดยจะเชื่อมต่อโครงข่ายทั้งพยานหลักฐานทั้งในด้านการเงิน การใช้อุปกรณ์สื่อสาร ซึ่งโดยพฤติกรรมของผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดมาซื้อทรัพย์สินเอาไว้เป็นจำนวนมาก หรือ เปิดกิจการขึ้นมาบังหน้า หากเป็นเงินสดก็จะนำไปใว้ในบัญชีของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัว เพื่อปิดบังเจ้าหน้าที่  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ทำการติดตามและขยายผลจนถึงที่สุด

 

ที่มา posttoday.com