Ducati เตรียมวางจำหน่ายสายลุยกับโมเดล Desert X พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ

Ducati Desert X ก็ได้มีกระแสมานานพอสมควร เป็นโมเดล Dirt Bike ของทางค่าย Ducati ที่ออกแบบมาเพื่อลุยแบบ 100% มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Testastretta Desmodromic 937cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังเครื่องยนต์อยู่ที่ 110 แรงม้าที่ 9,250 รอบต่อนาที และทำแรงบิดสูงสุดได้อยุ่ที่ 92 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที ใกล้เคียงกับ Monster และ Multistrada V2 โฉมล่าสุด มีคลัตช์ 8 ชั้นที่มีน้ำหนักเบา มีอัดตราการทดเกียร์ที่สั้นลงเพื่อให้มีรอบต้นที่จัดขึ้น

นอกจากนี้ยังมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ล้ำสมัยที่เป็นมาตรฐานอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DesertX มีโหมดการขี่ทั้งหมด 6 โหมด แต่ก็มีข้อแนะนำที่ว่าโหมดของ Enduro จะเป็นโหมดที่มีการขับขี่ง่าย เพราะสามารถปรับแต่งกำลังหรืออัตราทดทุกอย่างได้ตามใจชอบ มีไว้เพื่อให้ผู้ที่มีประสบการณ์น้อยได้ลองสัมผัส และโหมดที่ขับขี่มันส์ที่สุดก็จะเป็นโหมด Rally ที่จะให้เครื่องยนต์ทำงานแบบเต็มกำลัง ตัดการช่วยเหลือทุกอย่างออกไป เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่เป็นมืออาชีพหรือโปรเท่านั้น

และยังมีโหมดหลักอย่าง Sport , Touring , Urban และ Wet เข้ามาให้มีตัวเลือกในการขับขี่ในแต่ละภูมิประเทศ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเหลือต่างๆ ก็จะมี การควบคุมเบรกเครื่องยนต์ (EBC) , Ducati Traction Control (DIC) , ระบบควบคุมล้อลอย Ducati Wheelie (DWC) , Ducati Quick Shift (DOS) ขึ้นและลง , และ ABS Cornering ที่สามารถปรับระดับได้ 3 ระดับ และยังสามารถปิดได้อีกด้วย

แชสซีประกอบด้วยโครงเหล็กโครงตาข่ายแบบใหม่ซึ่งทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหลังที่ยาวยกสูง โช้คด้านหน้ามีขนาด 46 มม. ระยะยุบ 230 มม. ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยวที่มีระยะยุบที่ 220 มม. โช้คทั้งหน้าและหลังใช้ของ Kayaba ระยะจากพื้นถึงรถ 250 มม. ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว ใส่ยางของ Pirelli Scorpion Rally STR รุ่น 90/90 R21 และ 150/70 R18 ระบบเบรกของ Brembo M50 monobloc 4 Pot ดิสก์หน้าคู่ ขนาด 320 มม. และด้านหลังมีเบรกของ Brembo เช่นกัน 2 Pot เป็นแบบดิสก์เดี่ยวขนาด 265 มม.

เบาะนั่งสูงจากพื้น 875 มม. ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 21 ลิตร และยังสามารถติดตั้งถังน้ำมันเสริมไว้ด้านหลังได้อีก 8 ลิตร ที่สามารถติดตั้งจากโรงงานได้เลยทันที หน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับ Ducati Multimedia System ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้

เรื่องการวางจำหน่ายคาดว่าจะมีการวางจำหน่ายโซนของสหราชอาณาจักรก่อนเป็นที่แรกภายในเดือน พฤษภาคม จะเปิดราคาออกมาอยู่ที่ 13,795 ปอนด์ หรือราวๆ 614,500 บาท ซึ่งราคานี้ยังไม่รวมภาษีนำเข้าในแต่ละประเทศ

ขอขอบคุณที่มาจาก : www.morebikes.co.uk

ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : www.mocyc.com
Page Facebook : www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : instagram.com/mocycthailand