ตลาด บิ๊กไบค์ เดือด เปิดศึกราคา-รถใหม่ |
สังเวียนรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ในไทยคึกคัก
ทั้งหน้าเก่า-ใหม่ตบเท้าเขย่าตลาดในไทย “ดูคาติ”
ประกาศส่งรถรุ่นใหม่ “มอนสเตอร์ 795” หรืออาเซียนโมเดล รถรุ่นแรกที่ประกอบในไทย
เปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ปลายปีนี้
เผยมีการปรับและออกแบบบางส่วนใหม่ ให้เหมาะสมกับลูกค้าในอาเซียน เคาะราคา 4 แสนบาท
บวกลบ 10% ขณะที่คู่แข่งตรง “เคทีเอ็ม” ไม่หวั่น
สยายปีกรุกตลาดต่อเนื่อง นำเข้า “ดุ๊ก 200” มาเสริมทัพ คาดราคาประมาณ 2 แสนบาท
หรือต่ำกว่า พร้อมเผยตุลาคมนี้ชัดเจน
ผลเจรจาถือสิทธิ์บิ๊กไบค์แบรนด์ดังจากอิตาลี
หากไม่มีอะไรผิดพลาดเปิดตัวในสิ้นปีนี้แน่นอน ราคามีตั้งแต่กว่า 6 แสนบาท ไปจนเกือบ
2 ล้านบาท ด้านค่าย “คาวาซากิ”
เขย่าตลาดบิ๊กไบค์อีกรอบ เปิดตัวโฉมใหม่ “อีอาร์-6 เอ็น” งานบีโอไอแฟร์
เดือนพฤศจิกายนนี้ เคาะราคาไม่เกิน 2.6 แสนบาท ส่วนค่าย “ซูซูกิ-ยามาฮ่า”
กำลังพิจารณาเลือกย้ายฐานผลิตจากญี่ปุ่นมาอาเซียน เชื่อไทยมีโอกาสสูงพอๆ
กับอินโดนีเซีย |
||||
“บริษัทแม่จากอิตาลีดูตลาดในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานแล้ว และเห็นว่ามีการเติบโตที่ดีมาก ในแต่ละปีมียอดขายรวม จากหกร้อยเป็นหนึ่งพันคัน จากหนึ่งพันเป็นสามพันคัน จึงตัดสินใจขยายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทย เพื่อผลิตบิ๊กไบค์รุ่นมอนสเตอร์ 795 ซึ่งปลายปีนี้ แฟนๆ ที่รอคอยเตรียมเจอกันได้ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 โดยพร้อมโชว์ตัวและขายจริงภายในงานด้วย” เป็นคำกล่าวของ “อภิชาติ ลีนุตพงษ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ “ดูคาติ” (DUCATI) ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถึงความคืบหน้าในการทำตลาด หลังจากบริษัทแม่ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนผลิตบิ๊กไบค์ “ดูคาติ มอนสเตอร์ 795” หรือที่เรียกว่ารุ่น “อาเซียนโมเดล” ในไทย เพื่อจำหน่ายทั่วภูมิภาคอาเซียนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา |
||||
ส่วนสนนราคายังไม่สรุปเป็นทางการ ซึ่งหากดูจากรุ่นมอนสเตอร์ 796 ที่ปัจจุบันนำเข้ามาราคา 629,000 บาท หากเป็นรุ่น 795 ที่ประกอบในประเทศไม่ต้องคิดภาษีนำเข้า อาจจะลงมาเหลืออยู่ที่ประมาณ 4 แสนบาท บวกลบไม่เกิน 10% แต่ทั้งนี้ต้องรอความชัดเจนจากบริษัทแม่อีกครั้ง แต่เชื่อมั่นว่าการเปิดตัวมอนสเตอร์ 795 ที่ประกอบในไทย จะได้รับความนิยมอย่างมาก โดยถึงสิ้นปี 2556 ตั้งเป้ายอดขายเฉพาะรุ่นนี้ประมาณ 650 คัน |
||||
ด้านความคืบหน้าแผนการนำเข้า “เคทีเอ็ม ดุ๊ก200” (KTM DUKE200) มาทำตลาดช่วงปลายปีนี้ ตอนนี้กำลังรอดูการประกอบจากโรงงานที่ประเทศอินเดีย ซึ่งมีปัญหาเรื่องไลน์ผลิตนิดหน่อย ทำให้ต้องเลื่อนการผลิตจากแผนเดิมไปบ้าง ซึ่งภายใน 2 สัปดาห์นี้ ทางบริษัทแม่จะให้รายละเอียดอีกครั้ง แต่ยังเชื่อว่าจะนำเข้ามาทำตลาดภายในปีนี้แน่ ในราคาบวกลบประมาณ 2 แสนบาท ทั้งนี้ เคทีเอ็ม ดุ๊ก 200 จะเป็นโฉมใหม่ วางเครื่องยนต์ขนาด 200 ซีซี ซึ่งใช้พื้นฐานร่วมกับรุ่น 125 ที่มีผลิตและจำหน่ายอยู่ในประเทศอินเดีย โดยกลุ่มเป้าหมายจะทำตลาดต่อยอดจากคนที่เคยขับขี่รุ่นเคเอสอาร์ (KSR) ของคาวาซากิ (ราคา 6 หมื่นกว่าบาท) เพราะรูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกัน แต่มีสมรรถนะที่เหนือกว่าชัดเจน พร้อมกันนี้บริษัทคุณค่าฯ กำลังจะเจรจากับบิ๊กไบค์จากอิตาลีอีกยี่ห้อ เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายในไทย และน่าจะจบข้อสรุปได้ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ คาดว่าหากไม่มีปัญหาจะเปิดตัวได้ในช่วงก่อนสิ้นปีนี้เช่นกัน ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพียงแต่ยืนยันเป็นแบรนด์ชั้นนำของอิตาลี ราคาน่าจะอยู่ระดับ 6 แสนบาท ไปจนถึงเกือบ 2 ล้านบาท |
||||
โดยคาวาซากิ อีอาร์-6เอ็น เวอร์ชัน 2012 เป็นการประกอบในประเทศเช่นเดิม เพื่อส่งขายทั่วโลก นับเป็นการปรับโฉมแบบ Major Change ทุกอย่างออกแบบใหม่หมด ยกเว้นเครื่องยนต์ 649 ซีซี 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ เกียร์ 6 สปีด และโช้กหน้า-หลังที่เหมือนเดิม ซึ่งจากรายงานข่าวราคาน่าจะขยับนิดหน่อย จากรุ่นปัจจุบันอยู่ที่ 2.45 แสนบาท แต่ปรับขึ้นไม่เกิน 2.6 แสนบาท ส่วนช่องทางการขาย ล่าสุดคาวาซากิได้ปิดโชว์รูมที่ถนนพระราม 9 เพื่อให้ลูกค้าไปซื้อรถกับดีลเลอร์ที่เปิดเพิ่งใหม่แทน โดยในเขตกรุงเทพฯ มี 2 แห่ง คือ ย่านฝั่งธนบุรีเป็น บจก.โมโตฮอลิค และย่านรามคำแหง บจก.เรียล โมโตสปอร์ต ซึ่งการเปิดดีลเลอร์ขึ้นมาแทน เพื่อให้ลูกค้าสามารถหาซื้อรถได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเข้ามาที่ศูนย์ใหญ่ พระราม 9 อย่างเดียว |
||||
เช่นเดียวกับยามาฮ่าที่ประสบปัญหาต้นทุนการผลิตเช่นเดียวกัน เพราะมีรายงานข่าวทางสื่อหนังสือพิมพ์ว่า บริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังศึกษาและตัดสินใจว่าจะใช้ประเทศใดเป็นฐานการผลิตบิ๊กไบค์ในภูมิภาคอาเซียน นอกเหนือจากปัจุบันที่ผลิตอยู่ในญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งนับว่าไทยและอินโดนีเซียมีความเป็นได้สูง โดยคาดจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในปีหน้า นับว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่คึกคักทีเดียว ซึ่งไม่ว่าจะมีการเปิดตัวรถใหม่ แบรนด์ใหม่ ปรับราคาต่ำลง หรือย้ายฐานการผลิตเข้ามาไทย สุดท้ายแล้ว...ประโยชน์ย่อมตกอยู่กับผู้บริโภคแน่นอน!! โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ |
23 พ.ย. 2554
28 ต.ค. 2554
16 ต.ค. 2554
13 ต.ค. 2554