วิเคราะห์เงาปริศนา Honda พร้อมขยายปีกกับ 9 โมเดลที่พร้อมจะเปิดตัวภายในปี 2020 นี้

ปี 2020 นี้ Honda เตรียมเปิดตัวโมเดลทั้งหมด 9 โมเดล จะเห็นได้จากเงาในรูปภาพที่ได้เผยแพร่ไปไม่นานมานี้ เราลองมาวิเคราะห์กันดีกว่าว่าเงาปริศนานี้มีรุ่นอะไรกันบ้าง

เงาแรกเลย Honda Rebel มอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์มาในสไตล์โมเดริ์นคลาสสิคกับเครื่องยนต์ 471 ซี สามารถปรับแต่งได้แบบอิสละ ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เหมาะสำหรับใช้งานในเมืองหรือท่องเทียวทางไกลได้อย่างสบายๆ เพราะรถมีดีไซน์ท่านั่งมาให้นั่งสบาย ทำให้การขับขี่ทางไกลไม่เหนื่อยจนเกินไป ดูเท่มีสไตล์กับโทนสีดุๆของรถ โครงสร้างแบบมินิมอล ไฟหน้าทรงกลมเดี่ยวสไตล์รถคลาสสิค ไฟท้ายเป็นเหลี่ยมสวยงาม กระจกมองข้างทรงกลม เบาะนั่งเป็นแบบสองตอนแยกให้อารมณ์คลาสสิกได้เป็นอย่างดี
มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ DOHC 8 วาล์ว ขนาดเครื่องยนต์ 471.00 cc. ใช้ระบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 67.0 ? 66.8 มม. อัตราส่วนแรงอัด 10.7 : 1 กำลังสูงสุดอยู่ที่ 44 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 44.6 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบ/นาที ระบบคลัทช์แบบ คลัทช์มือ ระบบสตาร์ท สตาร์ตไฟฟ้ามือ ระบบจุดระเบิด Computer-Cortrolled Digital Transistorized with Electronic Advance ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ หัวฉีด (PGM-FI) ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), แก๊สโซฮอล์ 91, เบนซิน 95 ไฟหน้าแบบกลม ให้ความคลาสสิคย้อนยุก ดูเท่ในตัว ให้ความสว่างในตอนกลางคืนเห็นชัดแต่ไกลเลยทีเดียว หน้าจอแสดงผล LED แบบกลม ให้ความรู้สึกถึงความคลาสสิคพร้อมทั้งความทันสมัยในตัวอีกด้วย ด้านขาวของแฮนด์มีปุ่มสตาร์ท ปุ่มไฟฉุกเฉิน และปุ่ม Off Run ส่วนด้านซ้าย มีปุ่มไฟต่ำไฟสูง และปุ่มแตร 191 กิโลกรัม

 

 

 

ต่อมาน้องใหม่ที่หลายๆคนจับตารอคอยกับ Honda CT125 สายออฟโรดขนาดเล็กถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอน ด้วยดีไซน์ที่ออกแบบมาแบบเรโทรอย่างเป็นเอกลักษณ์ มีความคล้ายคลึงกับ CT110 ในปี 1981 แต่ได้ทำการอัปเกรดเป็นเครื่องยนต์ 125cc ในเมื่อคุณสมบัติที่รถเป็นออฟโรดแล้วการออกแบบก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปเช่นกันในส่วนของรูปลักษณ์ที่มาพร้อมแผงด้านข้างออกแบบใหม่ เผยให้เห็นเฟรมจากด้านนอก ล้อขนาดใหญ่ที่เพิ่มการัขบขี่ได้แบบสายลุยมากขึ้น มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องยนต์กันบ้าง
Honda CT125 2020 มาพร้อมเครื่องยนต์ SOHC ขนาด 124.8 ซีซี 2 วาล์ว ระบบเกียร์ 4 สปีด ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยอากาศ มาพร้อมความแรงถึง 9 แรงม้า ติดตั้ง ABS ระบบดิสก์เบรกด้านหน้าและด้านหลัง ขนาดมอเตอร์ไซค์ 1,910 มม.x 718 มม.x 1,002 มม. ความสูงของเบาะเพียง 780 มม. ระยะห่างจากพื้นดิน 136 มม. น้ำหนัก 108 กก. ยางหน้าขนาด 70 / 90-17 M / C 38P และยางหลังขนาด 80 / 90-17 M / C 50P ล้อแบบซี่ลวดสไตล์ออฟโรด เห็นแค่นี้ก็กระชากใจสายออฟโรดได้ไม่น้อยเลยที่รูปทรง ทั้งสเปกที่ให้มาคุ้มค่าเป็นอย่างมาก

 

 

 

 

อย่าพึ่งเบื่อกันกับ Honda CRF สำหรับสายวิบากนี้สามารถคิดได้อยู่ 2 ทาง คือ 1.นำเข้า Honda CRF150 เพราะทางอินโดนีเซียได้ทำการเปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยในไทยก็ได้มีลุ้นเช่นเดียวกับ CBR150R 2.Honda ได้ทำการอัปเกรดให้กับ CRF450R และ CRF250R ทางค่ายนั้นพร้อมที่จะอัปเกรดโดยจะใช้โมเดลจากการแข่งขัน World MXGP ในปี 2019 มาพัฒนาต่อยอดให้กับ CRF ทั้ง2รุ่นได้แก่ CRF450R โดยจะมีการปรับในเรื่องของระบบช่วงล่างใหม่ ด้วยโช้คอัพหน้าหลังรุ่นใหม่จาก Showa ผ้าเบรกใหม่ที่จะปรับวัสดุให้มีความทนทานมากขึ้น รวมไปถึงระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์อย่าง ระบบ Launch Control ที่จะเพิ่ม HRC Luanch Control 3 และโหมดการขับขี่ 3 โหมด Smooth, Standard และ Aggressive ซึ่งแต่ล่ะโหมดนั้นจะปรับอัตราการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงที่แตกต่างกัน ทำให้ได้ประสิทธิภาพในการขับขี่ที่แตกต่างกันออกไป และการอัพเกรดนี้ก็จะมีการอัพเกรดในรุ่นย่อยอย่าง CRF450RX อีกด้วย
และ CRF250R ที่จะเป็นตัวต่อยอดไปยัง CRF250L, CRF250 Rally และ CRF250RX  ซึ่งจะใช้ข้อมูลจากการแข่งขัน MX2 รายการรองของ MXGP โดยจะมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Lode Cam หัวลูกสูบใหม่ พอร์ตทางเข้าไอดี รวมไปถึงอัตราทศเกียร์ที่จะชิดกันมากขึ้น โดยอัตราทดเกียร์สองจะอยู่ที่ 1.75 ลดลงจาก 1.8 เกียร์สามเหลือ 1.47 และจากการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในใหม่จะทำให้เพิ่มพละกำลังสูงสุดได้ถึง 4% แรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นอีก 8% และใน CRF250R จะมี Rev Limit ที่สูงขึ้นไปแตะ 14,300 รอบต่อนาทีเลยทีเดียว

 

 

 

 

คันที่ 4 ผมเชื่อว่ายังไงทุกๆคนก็เดาออกแน่นอนว่าเป็นรถอะไร แน่นอนเลย Scoopy I และถ้าให้เดาอีกก็คงเดาได้ไม่ยากว่ามี All new อะไรเพิ่มขึ้นมา 1.สติ๊กเกอร์ 2.ไฟหน้าแบบใหม่ 3.ตัว U Box ออกแบบใหม่ 4.ล้อมีให้เลือก 2 แบบ แบบซี่รวดและแบบแม็ก 5.สีใหม่

 

 

 

เงาคันที่ 5 อันนี้ก็สามารถแยกออกได้หลายแบบเหมือนกัน รุ่นได้เหมือนกัน 1.CBR300R 2.CBR250RR 3.CBR650R .CBR1000R รูปทรงที่ดูจากเงานี้แทบจะแยกกันไม่ออกเพราะรูปทรงแทบจะคล้ายกันมากๆ ถ้าเป็นคลาส 250-300 Honda ก็หวังที่จะเตรียมพร้อมรับมือกับการมาของ Kawasaki ZX-25R และ Yamaha YZF-R3 ที่จะอัปเกรดเป็น 3 สูล Crossplane แต่ถ้าหากเป็นในคลาส 1000cc ก็คงต้องลุ้นกับตัวแรง เกียร์ 4 ในความเร็ว 298km/hr กับ CBR1000RR-R ก็อาจจะมีโชว์ตัวให้ทุกคนได้โยลโฉมก็เป็นได้

 

 

 

 

เงาที่ 6 เอาใจสาย Rally กันบ้างกับ CRF250Rally ด้วยรูปทรงทรงเหมาะกับการลุยเข้าป่า ออฟชั่นชุดหน้าถือว่าให้มาเต็ม แต่ปี 2020 แล้วคาดว่า CRF250Rally จะอัพเกรดในเรื่องของเครื่องยนต์ให้มันดีขึ้นเช่นเดียวกับ CRF250R

 

 

เงาที่ 7 เข้าป่าไปแล้วมาเข้าเมืองกันบ้าง Forza 300 ถือว่าเป็นรถ Scooter Bike ขวัญใจค่ายปีกนกกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปทรงที่ดูล้ำ cc ที่ให้มามากถึง 300cc และเพรื่องความประหยัดน้ำมัน ถือว่าเป็นรถ Street Use ที่ใช้ในเมืองได้อย่างพอตัวไม่มากไม่น้อยเลยคาดว่าจะมีการอัปเกรดของเครื่องยนต์ให้มีกำลังสูงขึ้นโดยพิกัดไม่เกิน 400cc พร้อมที่จะต่อกลอนกับ Yamaha X-Max

 

 

เงาที่ 8 ขวัญใจล้อขอบ 17 สายยกตูดเป็ดที่เป็นเอกลักษณ์ Honda Dream ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีเริ่มที่จะนำมาใช้ในกับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กกันมากมาย หรือไม่ก็เป็น Honda Dream Super Club ของทาง Club House ที่ให้ของแต่งและออฟชั่นมาเต็มอย่างลาย Dragonball Limited Edition ก็เป็นได้

 

 

 

 

 

คันสุดท้ายเงาที่ 9 Honda MSX คาดเดาไม่ได้เลยว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ก็มีเสียงจากแฟนๆว่าโมเดลใหม่ของ MSX นั้นจะเปลี่ยนจาก Mini Naked Bike เป็น Neo Sport Cafe ในส่วนนี้ก็คิดว่าเป็นไปได้เช่นกันครับ

 

 

 

อย่างไรก็ตามนั้น การเปิดเผยภาพในงานการประชุมดีลเลอร์ ก็ยังคาดเดาได้ไม่ 100% ที่กล่าวไปอาจจะถูเพียงแค่ 40% จึงทำให้คอนเฟิร์มไม่ได้ว่ารถทั้ง 9 คันนี้จะมีรุ่นไหนที่เป็น All New บ้างหรือเป็นแค่การปรับสีสรรค์ขึ้นมาใหม่ หรือว่าอัปเกรดในเรื่องของเครื่องยนต์ พวกเราชาว Mocyc จะกลับมาอัปเดทข่าวให้กับแฟนๆทุกคนในเร็วๆนี้ครับ

---

ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand