ประกาศความพร้อมเปิดขายตั๋วศึกโมโตจีพี "พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018" ราคาถูกที่สุดในโลก!! พร้อมร่วมชม "วินเทอร์เทส" ฟรีและกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย หาซื้อได้แล้วที่ "ออลล์ทิคเก็ต" ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการบรัษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด, นายบุรณิณ รัตนสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และนายวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ร่วมแถลงข่าวความพร้อมการจัดการแข่งขันโมโตจีพี วินเทอร์เทส ระหว่างวันที่ 16-18 ก.พ.61 และการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ "พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018" ระหว่างวันที่ 5-7 ต.ค. 61 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ภายในงานได้ทำการเปิดจำหน่ายตั๋วเข้าชมการแข่งขันอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.61 เป็นต้นไป โดย นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เป็นคนแรกที่ซื้อตั๋วเข้าชมใบแรกของประเทศไทย ซึ่งราคาบัตรแกรนด์แสตนอยู่ที่ราคา 4,000 บาท และไซด์แสตนราคา 2,000 บาท
ทั้งนี้หากซื้อบัตรภายในวันที่ 19 ก.พ.61 จะได้รับส่วนลดทันที 15 % และหากใช้สิทธิ์ส่วนลดของ ปตท. หรือ พีทีที ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลัก จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 25 % ทำให้บัตรแกรนด์แสตนที่ราคาเต็ม 4,000 บาท จะคงเหลือเพียงใบละ 2,550 บาทเท่านั้น และไซด์แสตนอยู่ที่ใบละ 1,275 บาท จึงเรียกได้ว่าเป็นบัตรเข้าชมการแข่งขันโมโตจีพี ที่มีราคาบัตรถูกที่สุดในโลก พร้อมยังรับสิทธิเข้าชมและมีส่วนร่วมกับการจัดกิจกรรมวินเทอร์เทสฟรี ตลอด 3 วัน รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ในงาน Thailand Grandprix Expo ฟรี โดยบัตรทุกยังลุ้นชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท สามารถหาซื้อบัตรได้แล้วผ่าน เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ทิคเก็ต ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิส รวม 12,000 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์
allticket.com และยังเพิ่มความสะดวกด้วยเครื่อง i-touch ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาทำการซื้อได้ด้วยตัวเองซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 220 จุด
นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย และแผนพัฒนานักกีฬาไทยสู่ระดับโลก ว่า "หลังจากที่ทางภาครัฐได้พยายามดำเนินการดึงการแข่งขันโมโตจีพีซึ่งเป็นรายการระดับโลกมาจัดที่ประเทศไทยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์สู่ประเทศมหาศาล มีเงินไหลเวียนเข้าสู่ประเทศไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทแน่นอน นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจแก่เยาวชนไทยที่หลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ต เด็กไทยจะได้เห็นการแข่งขันอย่างมืออาชีพและเกิดความใฝ่ฝันที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักแข่งระดับโลกในอนาคต ซึ่งดีกว่าการแข่งขันกันตามท้องถนนจนเป็นการรบกวนชาวบ้าน ที่สำคัญการกีฬาแห่งประเทศไทยยังมีโครงการพัฒนาเยาวชนสู่กีฬาชีพ ซึ่งเราจะเฟ้นหาเด็กที่มีทักษะการขับขี่และมีพลังความฝันมาเข้าร่วมโครงการเพื่อพัฒนาทักษะและผลักดันให้ไปแข่งต่างประเทศเหมือนที่เคยสนับสนุนนักกีฬาดังๆ มาแล้ว"
ด้าน นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เผยถึงความพร้อมของจังหวัดบุรีรัมย์ในการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ว่า "ในฐานะที่ได้รับเกียรติเป็นพื้นที่จัดการแข่งขัน ตอนนี้เราเตรียมความพร้อมแล้วทุกด้านเพื่อรองรับผู้ที่จะเข้ามาร่วมงานทั้งนักแข่ง ทีมงาน คนดู และนักท่องเที่ยว กว่า 1 แสนคน โดยเฉพาะ 3 ข้อสำคัญคือ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายเรื่องที่พักซึ่งตอนนี้ภายในจังหวัดเต็มหมดแล้วเราจึงได้ประสานไปที่จังหวัดข้างเคียงตลอดจนพื้นที่กางเตนท์ และสุดท้ายคือแพ็คเกจท่องเที่ยวทั้งภาคอีสานเพื่อให้ผู้เดินทางมาได้ความเพลิดเพลินนอกจากชมการแข่งขัน"
ขณะที่ นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการบรัษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด กล่าวถึงความพร้อมของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในการจัดงานวินเทอร์เทส และวันแข่งขันจริงว่า "ขอยืนยันว่าสนามตอนนี้พร้อมแล้ว 100 % เราได้เซตติ้งทุกอย่างและให้ทาง ดอร์นา สปอร์ต ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และฝ่ายจัดการแข่งขันตรวจสอบเรียบร้อย นอกจากนี้เรายังจัดกิจกรรมมากมายไว้ต้อนรับผู้ที่เดินทางมาชมวินเทอร์เทสมากมายตลอดวันที่ 16-18 ก.พ.นี้ ไม่ว่าจะเป็น การประกวดเครื่องเสียงรถยนต์ การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์แต่งรถ และผลิตภัณฑ์ของผู้นิยมกีฬามอเตอร์สปอร์ต มากกว่า 80 ร้าน คาราวานบิ๊กไบค์จากกรุงเทพฯ นำโดยท่านผู้ว่ากกท. ซึ่งจะเริ่มขบวนวันที่ 17 ก.พ. ณ การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงปาร์ตี้คอนเสิร์ตที่จะมีของที่ระลึกจากนักแข่งดัง เช่น หมวกกันน็อก มาเปิดให้แฟนคลับได้ร่วมประมูล"
ทางฝั่งของ นายบุรณิณ รัตนสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกิจกรรมพิเศษสำหรับลูกค้า ปตท. ว่า "เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำการแข่งขันระดับโลกอย่างโมโตจีพีมาจัดการแข่งขันที่เมืองไทย ซึ่งเราได้เตรียมสิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้า โดยเฉพาะส่วนลดบัตรเข้าชมการแข่งขันจากพีทีทีบลูการ์ด และกิจกรรมนอกสถานที่ที่สถานีบริการน้ำมันทุกแห่งทั่วประเทศ"
ด้านนายวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ในฐานะเจ้าของสิทธิผู้บริการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันศึกโมโตจีพี รายการ "พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018" แต่เพียงผู้เดียวเป็นระยะเวลา 3 ปี เผยว่า "เราได้ใช้ศักยภาพทุกช่องทางเพื่อรองรับผู้ที่จะซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน ทั้งทางออนไลน์ แอพพลิเคชั่น และออนกราวด์ที่ตั้งอยู่ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิส รวม 12,000 สาขาทั่วประเทศ ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิส จึงพร้อมให้ความมั่นใจทั้งเรื่องระบบการจัดการต่างๆ ของบริษัทฯ ว่าจะทำให้แฟนโมโตจีพี ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ในการซื้อตั๋วเข้ารับชมในครั้งนี้อย่างแน่นอน"