ทัพนักบิดยามาฮ่าสยบคู่แข่งอย่างเหนือชั้น คว้าชัยศึกชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่น SS1 และ ST1 ศึก ALL THAILA |
ทัพนักบิดสังกัด YAMAHA RIDERS' CLUB RACING TEAM โชว์ฟอร์มสุดเจ๋งสมศักดิ์ศรีแชมป์ประเทศไทย กระชากคันเร่งรถแข่งตระกูล R-Series สยบคู่แข่งอย่างเหนือชั้น ก่อนทะยานเข้าเส้นความชัยชนะอันดับ 1 มาครองได้สำเร็จถึง 2 รุ่นที่มีตำแหน่งแชมป์ประเทศไทยเป็นเดิมพันในการแข่งขัน ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 201 รายการ R2M THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 1 โดยในรุ่น Professional SS1 เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ #95 กระชากคันเร่งรถแข่ง YZF-R6 ทะยานเข้าเส้นชัยทิ้งห่างคู่แข่งแบบขาดลอยพร้อมกับคว้าอันดับ 1 ไปครองได้สำเร็จ ส่วน โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 ที่ลงชิงชัยในรุ่น Professional ST1 ด้วยรถแข่ง YZF-R1 สามารถเอาชนะคู่แข่งเข้าเส้นชัยอันดับที่ 1 ด้วยเวลาที่ห่างกว่า 5 วินาที ส่วนรุ่น Professional SB1 ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 นักบิดซุปตาร์ที่ไล่บู๊กับคู่แข่งได้แบบสุดมันส์ก่อนจะเข้าเส้นชัยคว้าอันดับที่ 2 ตอกย้ำความแรงของรถแข่งตระกูล R-Series เป็นการส่งท้าย โดยการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้น ณ สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อเร็วๆ นี้
ทัพนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM โชว์ฟอร์มสุดแกร่งสมศักดิ์ศรี “แชมป์ประเทศไทย 2016” กระชากคันเร่งรถแข่งตระกูล R-Series สยบคู่แข่งอย่างเหนือชั้น ในการแข่งขันรายการ R2M THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 ซึ่งเป็น 1 ใน 3 รายการของศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 โดยในการชิงชัยในสนามที่ 1 นี้ ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 และ โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 ควบ YZF-R1 คว้าชัยอันดับ 2 รุ่น SB1 และ อันดับ ที่ 1 รุ่น ST1 ได้สำเร็จตามลำดับ ส่วน เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ก็สามารถนำ YZF-R6 ทะยานเข้าเส้นชัยชนิดทิ้งห่างคู่แข่งแบบขาดลอยคว้าชัยรุ่น SS1 ตอกย้ำความแรงของรถสายพันธุ์สปอร์ตตระกูล R-Series ได้สำเร็จ!!
สำหรับการแข่งขันรายการ R2M THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 1 นี้ จัดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน 2560 ณ สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยทัพนักบิดสังกัด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ลงทำการชิงชัยตำแหน่งแชมป์ประเทศไทยในปีนี้ด้วยกันถึง 3 รุ่น นำทัพโดย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 ในรุ่น Professional SB1, โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 ในรุ่น Professional ST1 และ เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ในรุ่น Professional SS1 ต่างลงสนามชิงชัยเพื่อป้องกันตำแหน่ง “แชมป์ประเทศไทย” ด้วยความคึกคัก และเต็มไปด้วยความกระหายในชัยชนะแบบเต็มพิกัด ทำให้บรรยากาศภายในพิทเต็มเปี่ยมไปด้วยสปิริต และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งตัวนักแข่ง ทีมแมคคานิค และทีมงานทุกคน
โดยนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM เริ่มต้นฤดูกาลแข่งขันด้วยความมุ่งมั่นตั้งแต่ในรอบของการซ้อม จนกระทั้งเข้าสู่รอบของการจับเวลาควอลิฟายเพื่อหาตำแหน่งสตาร์ท ซึ่ง ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 ที่รับหน้าที่ลงชิงชัยในรุ่น Professional SB1 ก็กดคันเร่งรถแข่ง YZF-R1 ทำสถิติใหม่ของสนามสนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี ด้วยเวลา 1’19.080 นาทีต่อรอบ พร้อมกับคว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นในการออกสตาร์ทจากกริดหัวแถวได้อย่างร้อนแรง ส่วนในรุ่น Professional ST1 โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 ก็โชว์ฟอร์มได้เร้าใจไม่แพ้กัน สามารถนำ YZF-R1 ทะยานคว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นด้วยเวลา 1’21.439 นาที และปิดท้ายความยอดเยี่ยมของนักบิดทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ด้วยผลงานของ เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ในรุ่น Professional SS1 กับการคว้าตำแหน่งกริดสตาร์ทหัวแถวด้วยการกดคันเร่ง YZF-R6 ทำเวลาในรอบควอลิฟายที่ 1’22.981 นาที ทิ้งห่างคู่แข่งแบบขาดลอยถึง 4.546 วินาที ส่งผลให้ตำแหน่งโพลโพซิชั่นในรุ่นชิงแชมป์ประเทศไทยทั้ง 3 ตำแหน่ง ตกเป็นของทัพนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ไปแบบเบ็ดเสร็จเป็นการข่มขวัญคู่ต่อสู้ในการลงประเดิมการชิงชัยในสนามแรกของปีนี้
ในรอบชิงชนะเลิศของเกมการชิงชัยรายการ R2M THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 1 ของทัพนักบิดยามาฮ่าทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ประเดิมความมันส์กันด้วยรุ่น Professional SS1 ที่ได้หนุ่มเมืองเหนืออย่าง เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ #95 กับรถแข่ง YZF-R6 ลงทำการแข่งขันด้วยการออกสตาร์ทในตำแหน่งหัวแถว และเมื่อสัญญาณไฟแดงเริ่มการแข่งขันดับลง เจ้าของตำแหน่งโพลโพซิชั่นที่ออกตัวได้ดีก็ไม่พลาดที่จะทะยานขึ้นนำพร้อมกับเข้าโค้งแรกคว้าโฮลช๊อตได้สำเร็จ และเมื่อขึ้นเป็นผู้นำ “เจ้าเบิร์ด” ก็ไม่ปล่อยโอกาสให้คู่แข่งได้ไล่กดดันแม้แต่น้อย กดคันเร่งรถแข่งคู่ใจพุ่งทะยานฉีกตัวออกห่างกลุ่มผู้ตามไปอย่างรวดเร็ว
ตลอดเกมการแข่งขันรุ่น Professional SS1 เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ที่แม้จะอยู่ในตำแหน่งผู้นำ และทิ้งห่างคู่แข่งอยู่มาก แต่นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้กลุ่มหลังไล่เข้ามาสร้างความกดดันได้แม้แต่น้อย ยังคงมุ่งมั่นกับการขับขี่รักษาเวลาของตัวเองให้คงที่ในทุกรอบของการแข่งขัน จนกระทั้งครบทั้ง 17 รอบของการชิงชัย “เจ้าเบิร์ด” ก็ควบ YZF-R6 พุ่งทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกเป็นคันแรกได้แบบไม่มีพลิกโผ คว้าชัยชนะอันดับ 1 รุ่น Professional SS1 มาครองได้สำเร็จแบบนำม้วนเดียวจบ
โดย เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “ก่อนการแข่งขันในสนามนี้ เราก็ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว นำมาทบทวนในส่วนที่ยังขาดอยู่เพื่อทำการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผลการแข่งขันในสนามแรกของปีนี้เราสามารถคว้าแชมป์มาได้ ผมก็รู้สึกภูมิใจกับผลงานที่ทำได้สำเร็จในวันนี้ครับ และผมก็มีเป้าหมายว่าจะพยายามที่จะรักษาให้อยู่กับทีมยามาฮ่าให้ได้ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่าน ขอบคุณทีมงาน ที่มีส่วนช่วยผลักดันให้ผมสามารถทำผลงานได้สำเร็จในวันนี้ และขอบคุณกองเชียร์ทุกคนที่เป็นกำลังใจให้กับผม ยังไงก็อยากฝากแฟนๆ กองเชียร์ยามาฮ่าเป็นกำลังใจให้กับผม และทีมงานกันในสนามต่อๆ ไปด้วยนะครับ”
ขยับความเร้าใจในการแข่งขันมาที่รุ่น Professional ST1 ซึ่ง โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 รับหน้าที่ลงต่อกรกับคู่แข่งซึ่งมีฝีมือระดับพระกาฬให้กับ YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM พร้อมกับตำแหน่งโพลโพซิชั่นในการออกสตาร์ท และทันทีที่เกมการแข่งขันเริ่มขึ้นนักบิดลุคแบดบอยของทีมยามาฮ่าก็กดคันเร่งรถแข่งคู่ใจ YZF-R1 ทะยานออกตัวไปอย่างร้อนแรงพุ่งขึ้นไปเป็นผู้นำได้ตั้งแต่ต้นเกมพร้อมกับคว้าโฮลช๊อตให้กับทีมยามาฮ่าได้อีกครั้ง เมื่อออกขึ้นนำเป็นจ่าฝูงได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ทำให้ “เจ้าโซ่” ขยับทิ้งห่างคู่แข่งออกไปได้หลายช่วงตัวเมื่อผ่านรอบแรกของการแข่งขัน
จากนั้นนักบิดมาดแบดบอย โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 ก็บิดขยี้คันเร่งรถแข่ง YZF-R1 ทำเวลายืดระยะห่างจากกลุ่มผู้ตามที่อยู่ด้านหลังออกไปเรื่อยๆ ชนิดที่คู่แข่งยากที่จะขยับเข้ามาสร้างความกดดันให้กับนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ได้ แต่ถึงแม้ว่าจะทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่งออกไปไกลมากแล้ว “เจ้าโซ่” ก็ไม่มีท่าทีจะผ่อนคันเร่งลงแม้แต่น้อย ยังคงเดินหน้าไล่แซงนักแข่งที่ช้ากว่าน็อครอบได้อีกถึง 5 คันเลยทีเดียว
จนกระทั้งเกมการชิงชัยครบทั้ง 17 รอบ โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 ที่ควบ YZF-R1 นำม้วนเดียวตั้งแต่เริ่มเกมการแข่งขันก็ทะยานรับธงตราหมากรุกเป็นคันแรกได้สำเร็จ ทิ้งห่างคู่แข่งที่ตามมาถึง 5.362 วินาที พร้อมกับคว้าชัยชนะอันดับ 1 รุ่น Professional ST1 ให้กับ YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ได้สำเร็จแบบไร้เทียมทาน
โดย โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 ได้กล่าวหลังจากจบการแข่งขันว่า “วันนี้ก็เป็นเกมสนามแรกของปี คู่แข่งแต่ละคนก็มีฝีมือที่ไม่ธรรมดา และปีนี้ก็มีการเพิ่มรอบการแข่งขันขึ้นมา ซึ่งเป็นจำนวนที่เราไม่เคยขี่กันมาก่อน โดยในช่วงแรกผมก็พยายามปั่นหนีออกมาให้ได้มากที่สุด จนมั่นใจว่าคู่แข่งไม่สามารถที่จะไล่เข้ามาได้ทันก็ขี่ประคองเวลาไว้จนกระทั้งจบการแข่งขัน แม้ผมยังไม่พอใจกับเวลาในวันนี้เพราะรอบควอลิฟายเวลาดีกว่า แต่เราวางแผนว่าต้องการคะแนนและเป้าหมายอยู่ที่การคว้าแชมป์ปลายปี ทำให้เราเน้นที่ผลของการแข่งขันมากกว่าเวลา ชนะด้วยเวลาเท่าไหร่เราก็ถือว่าชนะ ซึ่งผมก็สามารถทำได้สำเร็จตามที่วางแผนกันไว้ โดยความยากของเกมในวันนี้คือ ความกดดันของตัวเองที่อยากจะทำผลงานในสนามแรกให้ดีที่สุด และอยากจะป้องกันแชมป์ให้กับทีมให้ได้ ซึ่งผมก็รู้สึกดีใจที่วันนี้สามารถทำได้ และคว้าชัยชนะให้กับทีมได้อีกครั้งครับ”
ปิดท้ายความมันส์ชนิดเดือดทะลุปรอทกับการชิงความเป็นเจ้าความเร็วรุ่นใหญ่สุดของเมืองไทยอย่างรุ่น Professional SB1 ที่นักบิดยามาฮ่า YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM อย่าง ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 เป็นเจ้าของตำแหน่ง “แชมป์ประเทศไทย 3 ปีซ้อน” ก็ลงชิงชัยด้วยการประเดิมทำสถิติใหม่ของสนามแห่งนี้ด้วยเวลาในรอบควอลิฟาย 1’19.080 นาที พร้อมกับได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งหัวแถวได้อย่างยอดเยี่ยม
สำหรับเกมการชิงชัยในรุ่นใหญ่นี้ ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 ก็พารถแข่ง YZF-R1 ทะยานขึ้นนำได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นออกตัว จากนั้นก็ขยับทิ้งคู่แข่งอย่าง ติ๊งโน้ต-ฐิติพงศ์ วโรกร #100 ออกไปได้พอสมควร ก่อนที่ในช่วงกลางของการชิงชัย “ซุปตาร์” จะมีปัญหาเรื่องยางที่เริ่มหมดกริบทำให้ไม่สามารถที่จะเปิดคันเร่งออกจากโค้งได้เร็วเหมือนรอบแรกๆ ทำให้คู่แข่งสามารถขยับเข้ามาใกล้ได้ในที่สุด ก่อนที่จะถูกแซงไปได้หลังจากที่นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ขึ้นเป็นผู้นำได้อยู่ 13 รอบสนาม
ในช่วงท้ายเกมแม้ว่า ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 จะเสียเปรียบในเรื่องของยาง แต่ก็ยังพยายามที่จะไล่บี้คู่แข่งแบบไม่ยอมท้อถอย แต่เวลาก็ยังไม่สามารถขยับเข้ามาได้มากกว่าเดิม จนกระทั้งจบการชิงชัยทั้ง 17 รอบ “ซุปตาร์” ก็เข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกคว้าอันดับที่ 2 มาครองแบบได้ใจกองเชียร์ยามาฮ่า
โดย ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “เกมในวันนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่สำหรับทุกคน เพราะมีการเพิ่มรอบการแข่งขันจาก 12 มาเป็น 17 รอบ และยังต้องแข่งในสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน ทำให้มีการบ้านที่ต้องทำกันเยอะทั้งในเรื่อของการเซ็ทอัพรถ และการเลือกใช้ยาง ซึ่งวันนี้ต้องยอมรับว่าคู่แข่งมีการเซ็ทอัพมาได้ดีกว่าเรา ซึ่งแม้ในรอบแรกๆ เราจะทิ้งออกไปได้ค่อนข้างไกล ผมพยายามที่จะหนี เพราะเรารู้กว่ายางที่เราใช้จะทำเวลาได้ดีในช่วงแรกๆ แต่พอในรอบหลังๆ เขาสามารถขยับใกล้เข้ามา ซึ่งผมเองก็เริ่มช้าตั้งแต่รอบที่ 6 เพราะตั้งการที่จะประคองรักษายางเอาไว้ให้สามารถแข่งได้จนจบการแข่งขัน ทำให้เมื่อคู่แข่งตามมาทันแ ละแซงไปได้ เราก็ไม่สามารถที่จะกดเวลาไล่ได้ทันแล้ว จึงทำได้เพียงขี่ประคองเท่านั้น ถือว่าเป็นบทเรียน และเป็นการบ้านที่เราจะต้องเอาไปปรับปรุงแก้ไขในสนามต่อๆ ไป ผมก็ต้องขอโทษกับทุกๆ คนที่ไม่สามารถจบการแข่งขันในอันดับสูงสุดได้ แต่ครั้งต่อไปผมจะพยายามให้ดีกว่าวันนี้ และจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังครับ”
นอกจากนี้ นายธีระพงษ์ แสงทอง ผู้จัดการส่วนกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวถึงผลงานของทัพนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ในสนามนี้ว่า “เนื่องจากสนามนี้เป็นสนามแรกของฤดูกาล ทำให้ทุกคนมีความรู้สึกตื่นเต้น และคู่แข่งปีนี้ก็มีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว ซึ่งทางทีมก็พยายามกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุด และก็ถือว่าสนามนี้เราเปิดเกมได้ค่อนข้างดี แต่ก็ยังไม่ถึงกับที่เราตั้งเป้าไว้ โดยในรุ่น SS1 ก็ถือว่าเราสามารถทำผลงานได้ดี ส่วนในรุ่น ST1 กับ SB1 นั้นพึ่งมีการปรับเปลี่ยนกติกาใหม่ และจำนวนรอบที่เพิ่มขึ้น ทำให้สิ่งที่เราวางแผนมานั้นไม่สมบูรณ์นัก โดยเฉพาะรุ่น SB1 ที่ปัญหาใหญ่ก็คือเรื่องของยาง ทำให้สนามหน้าเราต้องทำการบ้านเรื่องยางมากขึ้น ว่าคอมปาวด์ไหนที่เหมาะ และสามารถยืนระยะได้จนจบเกม ซึ่งเราต้องกลับไปเทสต์กัน และทำความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงในส่วนของนักแข่งก็ต้องทำการบ้านหนักขึ้นเพราะคู่แข่งแข็งแกร่งมากขึ้น ต้องทำการฟิตร่างกายให้สามารถยืนระยะกับจำนวนรอบที่เพิ่มขึ้น และการควบคุมรถในช่วงที่ยางลดประสิทธิภาพลงเพื่อให้สามารถรักษาเวลาต่อรอบให้ได้ เพื่อให้อยู่ในเกมของเราให้ได้ ก็อยากให้แฟนๆ ยามาฮ่าติดตามเชียร์ และให้กำลังใจทีมกันต่อไป เพราะสนามนี้เป็นสนามแรกที่พึ่งเริ่มการแข่งขันเท่านั้น ฤดูกาลแข่งขันปีนี้ยังมีอีกหลายสนาม เราเชื่อว่าจะพัฒนาทีม และแก้ไขข้อผิดพลาดเพื่อทำผลงานได้ดีกว่านี้ และดีที่สุดอย่างแน่นอนครับ”