มอเตอร์ไซค์ที่จะเปิดตัวภายในงาน The Bangkok International Motor Show 2017 | Suzuki, Yamaha, Honda
ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ซึ่งจัดขึ้น ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 9 เมษายน 2560 ที่จะถึงนี้ โดยในงานนี้มีรถมอเตอร์ไซค์หลายๆ ค่าย ที่จะมาร่วมเปิดตัวกันเยอะมาก ซึ่งวันนี้ทาง Mocyc.Com ก็ได้รวบรวมข่าวสารค่ายรถที่จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่มาให้ได้ชมกันก่อน มาไว้เป็นข้อมูลกันก่อนที่จะเข้าชมงาน ไปดูกันเลย
2017 All New Honda CBR1000RR
ต้องบอกก่อนเลยครับว่าเจ้า All New Honda CBR1000RR 2017 FIRE BLADE นั้นมีด้วยกันอยู่ 2 เวอร์ชั่น นั่นก็คือ SP version ที่เป็นเวอร์ชั่นปกติ และ SP2 ที่ใช้วัสดุและส่วนประกอบบางอย่างมาจาก Honda RC213V รถสำหรับใช้แข่งขันในรายการ MotoGP นั่นเอง
ในส่วนของการดีไซน์นั้นตัวรถมีการเปลี่ยนแปลงกันใหม่แทบจะทุกจุดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงในการออกแบบ ล้อแม็กส์แบบใหม่ และท่อไทเทเนียมแบบใหม่ก็มีความแข็งแกร่งแต่ให้น้ำหนักที่ค่อนข้างเบา จุดศูนย์ถ่วงรถถูกวางมาต่ำ ทำให้เวลาเข้าโค้งหนักๆ นั้นทำได้อย่างง่ายดาย สำหรับตัวโครงรถและเฟรมนั้นก็มีการปรับให้กระชับมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อเพิ่มความคล่องตัวสำหรับการใช้งาน อาจมีหลายคนสงสัยว่าเจ้า All New Honda CBR1000RR STD 2017 และ All New Honda CBR1000RR SP แตกต่างกันอย่างไร ถ้าอยากรู้เข้าไปอ่านบทความ “ไขข้อสงสัย เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง 2017 All New Honda CBR1000RR STD และ All New Honda CBR1000RR SP” ได้ที่นี่เลย
Honda X-ADV 2017 เป็นรถสกู๊ตเตอร์ขาลุยสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวทั้งออนโร้ด และ ออฟโร้ด รูปทรงดีไซน์ที่ดุดันมาพร้อมกับออพชั่นที่น่าสนใจหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นชิลด์บังลมขนาดใหญ่แบบปรับระดับได้, แฮนด์รถอลูมิเนียมเสริมแฮนด์การ์ดเช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง Africa Twin, ไฟหน้า LED, เรือนไมล์ดิจิตอลดีไซน์ทันสมัย สามารถปรับระดับองศาในการมองได้, ช่องเสียบปลั๊กไฟใต้เบาะ 12V, และระบบ Smart Key system ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้โดยไม่ต้องบิดกุญแจ, กล่องเก็บของสำรอง Top Box ที่มีให้เลือกขนาด 45 ลิตร และ 35 ลิตร เครื่องยนต์เป็นแบบ Parallel Twin 2 สูบเรียง 745 ซีซี. หัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงม้าถึง 54 ตัว ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch Transmission (DCT) มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 2 โหมด คือ Drive และ Sport โหมด Drive จะให้ความสมูทในการขับขี่ เหมาะกับถนนทั่วไปในชีวิตประจำวันที่ไม่หวือหวาและสำหรับโหมด Sport จะสัมผัสได้ถึงการตอบสนองต่อคันเร่งอย่างรวดเร็วทันใจ น้ำหนัก 258 กิโลกรัมของ X-ADV ซึ่งมากกว่าน้ำหนักของพี่ใหญ่ขาลุยอย่าง Africa Twin ถึง 6 กิโลกรัม ความสูงเบาะนั่ง 820 มม., น้ำหนักรถ 238 กก., ช่องเก็บของใต้เบาะ 21 ลิตร และถังน้ำมันความจุ 13 ลิตร โช๊คหน้าหัวกลับ (USD) ที่สามารถปรับพรีโหลด รีบาวด์ได้, โช๊คอัพหลังแบบเดี่ยว, สวิงอาร์ม Pro-Link น้ำหนักเบา, ล้อซี่ลวด Tubeless หน้า 17 นิ้ว และหลัง 15 นิ้ว หุ้มยางแบบ Off-Road และดิสก์เบรคคาลิปเปอร์เบรค 4 สูบ พร้อมด้วยระบบเบรค ABS
ส่วนการเปิดตัว X-ADV ก็มีเปอร์เซ็นต์น่าเชื่อถือจาก Honda สูงอยู่เหมือนกัน ถ้าหาก Big Wing คอนเฟิร์มเสียงแข็งมาแบบนี้ คงไม่ปล่อยให้อยากแล้วจากไปอย่างแน่นอน…
Yamaha YZF-R15 ยามาฮ่า อาร์15 ปี 2017
ดีไซน์ใหม่ทั้งคัน ฟังก์ชั่นต่างๆ มีให้มาอย่างมากมายนั้นไม่ว่าจะเป็น LED, เครื่องยนต์ 155cc ทำงานร่วมกับ VVA, ระบบ Assist Slipper clutch, โช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ เครื่องยนต์ตัวใหม่ Yamaha R15 ปี 2017 ขนาด 155 ซีซี โดยของใหม่ให้มา 19แรงม้า (มากกว่าตัวเดิม 3 Hp) เป็นแบบหัวฉีด 1 สูบ 4 จังหวะ ใช้ระบบวาล์วแปรผัน VVA แปรผัน ซึ่งทำให้รถมีแรงบิดทั้งต้น กลางปลาย ที่แรงยิ่งขึ้น แรงม้ามากกว่าเดิม ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบเกียร์เป็น 6 สปีด ฯลฯ โดยที่ R15 โฉมใหม่นั้นราคาที่จะวางขายบ้านเราก็น่าจะอยู่ที่ในช่วงประมาณ 95,000 บาท เมื่อเทียบในส่วนต่างนั้นก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลยทีเดียว
Yamaha X-MAX 300
รูปทรงภายนอก X-Max 300 ถอดแบบมาจากรุ่นใหญ่อย่าง TMAX โดยมีจุดเด่นคือไฟหน้าคู่แบบ Full-LED ในส่วนเครื่องยนต์เป็นแบบ Blue Core ขนาด 300cc 4 จังหวะ ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมันไปในตัวด้วย ระบายความร้อนด้วยน้ำ น้ำหนักรถ 179 kg ถังน้ำมันมีความจุ 13 ลิตร
โดยจุดเด่นของ X-MAX 300 ก็คือ ไฟด้านหน้าเป็นไฟ LED แบบคู่ และทำงานร่วมกับไฟ LED high beam ส่วนด้านหลังก็เป็น LED แบบ taillight หน้าจอแสดงผล LCD ที่มีมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอลกึ่งอนาล็อค และยังมีพอร์ทชาร์จโทรศัพท์ขนาด 12V ระบบ Keyless พร้อมระบบกุญแจอัจฉริยะ ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้องนำกุญแจออกจากกระเป๋า ภายใต้เบาะยังมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ สามารถใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบได้ถึง 2 ใบแล้ว ยังใส่ของอย่างอื่นได้ด้วย ซึ่งน่าจะเหมาะสมสำหรับคนที่ชอบเดินทางเอามากๆ และยังมีออฟชั่นที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ ระบบ ABS และ Traction Control System (TCS) หรือระบบป้องกันล้อหลังหมุนฟรี ซึ่งมีไม่บ่อยเลยที่จะใส่มาให้ในระดับคลาสนี้
Syzuki GSX150
ตัวรถโดยรวม GSX-150R รถทรงสปอร์ตแบบแฟร์ริ่ง และ GSX-S150 รถทรงสปอร์ตเนกเกต โดยทั้งสองโมเดลนั้นมีพื้นฐานของรถที่เหมือนกัน เว้นแต่ในส่วนของแฟร์ริ่งและตำแหน่งของแฮนด์ โดย GSX-150R นั้นไฟหน้าที่ยังคงเป็นไฟแบบเดี่ยว เป็นแบบฉบับของรถในตระกูลนี้อย่างเต็มตัว โดยไฟหน้านั้นเป็นแบบ LED ถังน้ำมันที่เล็กค่อนข้างจะกระชับ ระบบเบรกนั้นเป็นดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง มาพร้อมกับระบบ ABS หน้าจอแสดงผลเป็นแบบดิจิตอลทั้งหมด และ ********ที่เด่นเลยคือระบบ Keyless Ignition System ที่เราเองนั้นไม่ต้องเสียบกุญแจเพื่อสตาร์ท แค่พกกุญแจติดตัวก็สามารถสตาร์ทรถได้แล้ว********
ในส่วนของขุมกำลังเครื่องยนต์ ให้มาที่ 147cc. แบบ 1 ลูกสูบ วาวล์ว 4 จังหวะ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด Fuel System Fuel Injection (Fi) ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบเกียร์ 6 สปีด ให้แรงม้ามาอยู่ที่ 18.6 bhp และทอร์คหรือว่าแรงบิดสูงสุดนั้นอยู่ที่ 14 นิวตันเมตร ส่วนถังน้ำมันนั้นจุมาให้อยู่ที่ 11 ลิตร ซึ่งก็ถือว่าพอดีกับรถในคลาสนี้ ในส่วนของโชคหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิกแบบธรรมดา ด้านหลังเป็นแบบโมโน ในส่วนของขนาดยางนั้นยางหน้าขนาด 90/80 และยางหลังขนาด 130/70 ล้อแม็ก 10 ก้าน ขนาด 17 นิ้วทั้งคู่
ถือว่าเป็นคู่แข่งที่หน้ากลัวเลยทีเดียว สำหรับทางค่าย Yamaha ในรุ่น 150 cc.
Suzuki GSX-R1000 และ GSX-R1000R (จุดสังเกตุเวอร์ชั่น R จะมาพร้อมระบบกันสะเทือนหน้าแบบซับแทงค์)
นอกจากรูปโฉมภายนอกที่มีความปราดเปรียวมากขึ้น (ซึ่งดูไปดูมามันก็คล้ายกับ K8) แล้ว จุดเด่นสำคัญๆของ GSX-R1000 2017 คันนี้คือระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่เคยมีมาก่อนใน Gixxer และเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนาใหม่ด้วยวิธีการที่ไม่เหมือนใคร แถมมันยังมี 2 สเปคให้ได้เลือกใช้กันอีกด้วย ได้แก่ 2017 GSX-R1000 และ 2017 GSX-R1000R
ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น 2017 GSX-R1000 ได้รับการยัดระบบวาล์วแปรผัน VVT เข้ามา ซึ่งช่วยเพิ่มย่านกำลังให้กว้างขึ้น แรงม้าเพิ่มจากเดิมอีก 5 % จนได้แรงม้าสูงสุด 199.2 bhp และแรงบิด 121.67 นิวตันเมตร แต่ขนาดมิติของเครื่องยนต์นั้นกับสั้นกว่า 22.2 มิลลิเมตร และ แคบกว่างเดิม 6.6 มิลลิเมตร เพื่อให้ตัวรถมีความเพรียวบางมากขึ้น
อุปกรณ์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์
- ชุดเบรดหน้า Brembo 4 ลูกสูบ ของ brembo
- ระบบ ABS ทำงานควบคู่กับ Motion Track Brake System ซึ่งระบบนี้จะช่วยลดอาการล้อหลังลอยใช่วงเวลาที่ใช้เบรคหนัก โดยอาศัยระยบ IMU มาช่วยประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา
- Traction Control สามารถปรับได้ 10 ระดับ
- Low RPM Assist ตัวช่วยเพิ่มรอบเครื่องยนต์ ขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ หรือเครื่องยนต์อยู่ในรอบต่ำ รวมทั้งระบบ Suzuki Easy Start System ช่วยให้สตาร์ทรถได้ง่ายขึ้น
ความแตกต่างในรุ่น GSX-R1000R
- Launch control system ระบบนี้ช่วยให้การออกสตาร์ทเป็นไปอย่างลื่นไหล ลดอาการล้อหน้ายกโดยจะควบคุมรอบเครื่องยนต์ และแรงบิดให้มีความสัมพันธ์กัน
- Quick shift system ช่วยเปลี่ยนเกียร์อย่างต่อเนื่อง ลื่นไหล และรวดเร็ว
- โช๊คหน้าแบบซับแทงค์ของ Showa ทั้งหน้า และหลัง (คล้ายกับ Kawasaki ZX-10R)
ถือว่าการมาในครั้งนี้ของ Suzuki GSX-R1000 และ GSX-R1000R ให้มาแบบไม่น้อยหน้าสมการรอคอยจริง ดั่งที่ Suzuki ตั้งใจทำสปอร์ตไบค์คันนี้ให้เป็น “The King of Sportsbikes”