ยามาฮ่า คาดตลาดรวมรถจักรยานยนต์ปีนี้ดิ่ง15% เหลือแค่ 1.45 ล้านคันจากปีที่ผ่านมาขายได้ 1.7 ล้านคัน เหตุภาวะเศรษฐกิจซบและการเมืองไม่นิ่ง ตั้งเป้าขาย 4 แสนคัน ครองแชร์ 28% เน้นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ทำการตลาดฉีกแนว พร้อมขยายเครือข่ายการขาย

       ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัททำยอดขายได้รวม 4.5 แสนคัน และมียอดจดทะเบียน 4.4 แสนคัน ถือว่าเป็นตัวเลขทางการขายดีที่สุดของยามาฮ่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 26%
       
       สำหรับภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้ คาดว่าจะลดลงประมาณ 15% หรือประมาณ 1.45 ล้านคัน ลดลงจากปี 2008 ที่มียอดขาย 1.7 ล้านคัน โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าการขายอยู่ที่ 4 แสนคัน หรือครองส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 28%
       
       " จากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก กอปรกับสภาวะทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถจักรยานยนต์ของผู้บริโภค จึงทำให้เราคาดว่าตลาดรวมปีนี้น่าจะลดลงกว่าปีที่ผ่านมา โดยราคาสินค้าการเกษตรจะเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญต่อความความมั่นใจของผู้ บริโภค"
       
       ส่วนรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ในปีนี้จะมีการเปิดตัวอย่างแน่นอน และจะรุกรถแบบเกียร์ธรรมดามากขึ้นกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่ยามาฮ่ายังสามารถเติบโตได้อีก จากเดิมมีสัดส่วนการขายอยู่เพียง 5% โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จะต้องทำควบคู่แผนการตลาด ที่จะเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง พร้อมหาความแตกต่างเพื่อความพึงพอใจลูกค้า ขณะเดียวกันมีแผนขยายโชว์รูมเพิ่มอีก 50 แห่งทั่วประเทศจากเดิมมีอยู่ 291 แห่ง
       
       นายประพันธ์กล่าวว่า สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ปี 2008 ยามาฮ่าทำยอดขายได้ 100 คัน จากเป้าที่ตั้งไว้ 120 คัน ซึ่งปีนี้คาดว่าจะได้เท่าเดิม โดยล่าสุดมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ "ทีแมกซ์ 500" ขณะที่ผลิตภัณฑ์ยานยนต์ทางน้ำปีที่ผ่านมาหดตัว 10% และปีนี้คาดว่าจะทำยอดขายได้เท่าเดิม
       
       " ปกติช่วงปลายปีจะเป็นฤดูการขายของรถประเภทบิ๊กไบค์และผลิตภัณฑ์ทางน้ำ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการจะซื้อไปเพื่อรองรับลูกค้านักท่อง เที่ยวชาวต่างชาติ แต่ทว่าในช่วงปลายปีที่ผ่านมาเกิดวิกฤตทำให้ ลูกค้าชะลอการซื้อลง"ประพันธ์กล่าว