Harley-Davidson Sprint 350 SS
Harley-Davidson Sprint 350 SS | ||||||||||||||||
ฉบับที่ |
415 | ปรับปรุงข้อมูลวันที่ : 17/11/2547 14:47:06 | ||||||||||||||
คอลัมน์ |
Classic Bike | |||||||||||||||
เรื่อง |
AJS | |||||||||||||||
ภาพ |
AJS | |||||||||||||||
ย้อนรอยไปในปี...1961 ของ "ยุคล่าอาณานิยคม" โดยใช้ "การค้า" เป็นแม่สื่อแม่ชั กยังคงเดินเครื่องในแถบยุโรปที่เศรษฐกิจกำลังขาลง...Harley-Davidson เข้าถือครองธุรกิจผู้ผลิตรถจักรยานยนต์อิตาลีนาม Aeronautica Amcchi เครื่องยนต์สูบนอนรูปทรงสปอร์ตของ Aermacchi แบบ 4 จังหวะ ขนาด 250 ซี.ซี. รุ่นขายดีอย่าง "Ala Azzurra" ถูกผลิตออกขายภายใต้แบรนด์ "ลุงแซม" ซึ่งมีการปรั บแต่งบางจุดเสียใหม่ และไม่ลืมขยายความจุให้เพิ่มขึ้นพอฟัดพอเหวี่ยงกับอเมริกั นชนที่พิสมัยรถซี.ซี.สูงเป็นทุน เครื่องยนต์บล็อกเดิมที่ถูกอัพเกรดเป็น 350 ซี.ซี. ถูกผลิตส่งขายเฉพาะในโลกในชื่อ "Sprint" ทั้งเวอร์ชั่นโมโตครอส (SX) และ สปอร์ตสตรีท (SS) และผลพลอยได้คือ Harley-Davidson เองก็ใช้เครื่องยนต์บล็อกนี้ลงชิงชัยในเกมโมโตครอส ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้มาแล้วมากมาย...ปลายยุค60 ใครจะเชื่อ?...ว่าโรงงานผลิตรถจั กรยานยนต์ระดับโลกอย่าง Harley-Davidson จะเข้าตาจน!!! ต้องขายกิจการบางส่วนให้กับกลุ่มธุรกิจเหล็กของอเมริกา American Metal Foundaries (AMF) หวังประคองธุรกิจที่ใกล้ล้มละ ลายให้ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจโลกให้จนได้ และเมื่อเห็นว่าการลงทุนไม่คุ้มกับกำไร Harley- Davidson ตัดสินใจขาย Aermacchi ให้กับกลุ่ม Cagiva อีกต่อในปี 1978...แต่หลั งจากนั้นเพียง 2-3 ปี (1981) Harley-Davidson ซื้อกิจการทั้งหมดคืนจาก AMF และตั้งหน้าตั้งตาผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่เคียงคู่การสร้างภาพลักษณ์ให้ผู้บริโภคทั ่วโลกได้เชื่อมั่น...กระทั่งปัจจุบัน...!?!?!
ด้วย DNAในตัวที่ถูกถ่ายทอด Sprint 350SS คันนี้จึงถูกเลือกสรรมาใช้งานเฉพาะ กิจที่ต้องขับเคี่ยวกับคู่แข่งในแบบ Road Racing ประเภท Vintage ที่เกิดขึ้นอีกครั ้งในสยาม หลังลองผิดลองถูกในแบบต่างๆ ตามตำราชาวบ้าน ท้ายสุด Sprint 350SS คั นนี้ก็บรรลุผลหลังงัด แงะ แกะ เกา จนเข้าฝัก...เวอร์ชั่นที่ 3 เครื่องยนต์ก้านกระ ทุ้งเดิมที่แรงเป็นทุนยังคงเป็นขุมพลังหลักในการรีดม้าศึก ลูกสูบไม่ปรากฏสัญชาติขนาด 78 มิลฯ อาสาอัดพลังในห้องเผาไหม้ ช่องพอร์ทต่างๆ ที่เป็นทางเดินของอากาศได้รับการขัดลื่นสะดวกโล่ง ในขณะที่สปริงกดวาล์วนั้นก็ถูกเปลี่ยนชนิดแข็งปั๋ง ลูกปืนและบู๊ชต่างๆ ในตำแหน่งจุดหมุนถูกยกยวงเปลี่ยนเป็นเซ็ตเพื่อให้มันไหลลื่นรับรอบ ชุดไฟทองทุ่นหน้าขาวเดิมถูกแทนที่ด้วยระบบจ่ายไฟอ่านกล่องฯ แบบ CDI จากเครื่องยนต์ 4 ล้อ "หนุ่ย ปทุมฯ" ได้ไอเดียหลังลองขยับแล้วลงความเห็นว่ามันเวิร์ค! ใช้ได้ ส่วนชุดคลัตช์พันธมิตรร่วมวงการอย่าง "ปู'71" ที่กรุแตก ปล่อยแผ่นคลัตช์เอี่ยมๆ มาร่วมวงไพบูลย์ม้าศึกคันแรง |