ทำความรู้จักกับโบทอกแต่ละประเทศก่อนอ่านรีวิวทำโบทอก

  • มอไซค์ คาเฟ่
  • nanatnichaa
  • 0
  • 10 ก.ย. 2567 14:51
  • 147.50.178.***


 

สาวๆ ทั้งหลายฟังทางนี้ มาทำความรู้จักกับโบทอกแต่ละประเทศกันก่อนอ่านรีวิวทำโบทอกต่างๆ เพื่อข้อมูลในการตัดสินใจดีกว่า จะได้เลือกใช้โบทอกให้เหมาะสมกับใบหน้าของเรา เพราะโบทอกแต่ละชนิดเองต่างก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งราคา การกระจายของตัวยา ความคงทน หากเราเลือกอ่านแต่รีวิวทำโบทอกแต่ไม่รู้รายละเอียดของตัวยา เวลาที่เข้าพบแพทย์ก็อาจทำให้เกิดความสับสนและไม่ได้เลือกสิ่งที่เหมาะกับเราที่สุดนั่นเอง

 

ต้นกำเนิดของโบทอกคือโปรตีนที่สร้างมาจากคลอสตริเดียมโบโทลินั่ม ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท เกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อเล็กๆ ในบริเวณที่ฉีดโดยจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน ซึ่งแรกเริ่มใช้เพื่อรักษาตาเหล่  ตาเข แต่พบว่าผิวบริเวณที่ฉีดมีความเรียบตึงขึ้น

 

โดยโบทอกจะมีหลักๆ อยู่ 2 ประเทศคือของอเมริกาเกาหลี ซึ่งคุณสมบัติก็จะแตกต่างกันไปดังนี้

    1.โบทอกอเมริกา

โบทอกอเมริกาหรือ Allergan เป็นบริษัทโบทอกที่มีงานวิจัยรองรับมาอย่างยาวนานกว่า 3,500 งานวิจัย  เป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นตัวโบทอกเพื่อการลดริ้วรอย โดยโบทอกของอเมริกาตัวนี้จะเห็นผลหลังจากฉีดภายใน 2-3 วัน อยู่ได้นาน 6-8 เดือน มีการใช้มาอย่างยาวนานจึงมีข้อมูลด้านความปลอดภัยและผลข้างเคียงรองรับ เปอร์เซ็นต์การดื้อยามีน้อย ยากระจายตัวแคบที่สุด แพทย์จึงสามารถควบคุมตัวโบทอกไม่ไหลไปกล้ามเนื้อมัดอื่นได้ง่าย 

 

2.โบทอกเกาหลี 

โบทอกเกาหลีเริ่มแพร่หลายมากขึ้นและมีหลายยี่ห้อจากกระแสเกาหลีในไทย ซึ่งผลลัพธ์ใกล้เคียงกับโบทอกอเมริกาแต่ราคาถูกกว่ามาก จึงเป็นที่นิยมสำหรับหลายๆ คน การกระจายอาจจะทำได้ไม่ดีเท่า ซึ่งข้อควรระวังคือโบทอกเกาหลีมีความเสี่ยงที่จะเจอของปลอมสูงกว่า นอกจากนั้นคุณสมบัติของโบทอกเกาหลีจะเห็นผลหลังจากฉีดประมาณ 4-5 วัน อยู่ได้ราว 3-5 เดือน เสี่ยงต่อการดื้อยามากกว่าโบทอกอเมริกา ซึ่งหากเราอ่านรีวิวทำโบทอกของเกาหลี ก็ควรคำนึงถึงยี่ห้อที่ใช้ เพราะแต่ละตัวก็ให้ผลที่แตกต่างกันเล็กน้อย 

 

ดังนั้นหากเลือกที่จะฉีดโบทอกอย่าอ่านรีวิวทำโบทอกเพียงอย่างเดียว เพราะหากเลือกรีวิวทำโบทอกแต่ไม่หาข้อมูลตัวผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เมื่อผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ตรงกับที่เห็นในรีวิวก็อาจพาลให้รู้สึกไม่สบายใจ เพราะแต่ละคนก็ควรได้รับการรักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้นการหาข้อมูล เข้าไปคุยกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ แล้วจึงค่อยตัดสินใจทำ จะช่วยลดความประหม่าและความคาดหวังได้