ตู้แขวนผนังเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะช่วยให้ของเป็นระเบียบและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ตู้ประเภทนี้ยังมีหลากสไตล์ หลายรูปแบบ ตอบโจทย์การใช้งานไม่เหมือนกันด้วย!

ทว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือกแบบไหนถึงจะคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด วันนี้เราขอมาแนะนำเทคนิคเลือกตู้แขวนผนังง่าย ๆ ให้คุณผู้อ่านทุกท่านทราบ รับรองว่าเลือกตามนี้ ไม่มีผิดหวังแน่นอน!

1. เลือกขนาดให้เหมาะกับพื้นที่ของห้อง

สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนเลือกซื้อตู้ ก็คือขนาดและพื้นที่ของห้อง โดยหากห้องมีขนาดเล็ก ก็ควรเลือกตู้ที่มีขนาดกะทัดรัดเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ หากห้องมีขนาดใหญ่ก็อาจเลือกตู้ที่ขนาดและจำนวนชั้นใหญ่ขึ้นมาหน่อย

นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงตำแหน่งที่จะติดตั้งด้วย โดยควรเลือกตำแหน่งที่ใช้งานสะดวก และหลีกเลี่ยงการติดตั้งในตำแหน่งที่แสงแดดส่องถึงโดยตรงเพื่อช่วยยืดระยะการใช้งาน

2. เลือกตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

ตู้แขวนผนังมีหลายประเภทให้เลือกสรรขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ตู้เก็บของทั่วไป ตู้เก็บของโชว์ ตู้สำหรับจัดเก็บหนังสือ ตู้สำหรับจัดเก็บของใช้ในห้องครัว เป็นต้น

โดยหากต้องการตู้สำหรับเก็บของทั่วไป ก็ควงเลือกตู้ที่มีชั้นวางหลายชั้นเพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บ อย่างไรก็ดี หากต้องการตู้สำหรับจัดเก็บของโชว์ ก็ควรเลือกตู้ที่มีบานกระจกใสเพื่อให้มองเห็นของภายในตู้ได้ชัดเจนขึ้น

3. เลือกตามวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา

โดยทั่วไป ตู้แขวนผนังแต่ละวัสดุก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป โดยที่ทำจากไม้ มีข้อดีในแง่ของความแข็งแรงทนทาน ตู้จากพลาสติก น้ำหนักเบากว่า ติดตั้งง่าย แต่ก็อาจแข็งแรงน้อยกว่าวัสดุอื่น ส่วนตู้จากวัสดุเหล็ก มีจุดเด่นในเรื่องของความทนทานเช่นกัน แต่ก็ตามมาด้วยน้ำหนักที่มากกว่าวัสดุอื่นที่อาจทำให้ผนังเสียหายได้ ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อแนะนำให้สำรวจความต้องการและความทนทานของผนัง เพื่อจะได้เลือกวัสดุได้แข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา ตอบโจทย์มากที่สุด

4. สีและสไตล์สร้างบรรยากาศใหม่ให้บ้าน

การเลือกตู้แขวนผนังควรเลือกสีและสไตล์ให้แมตช์กับการตกแต่งบ้านโดยรวมด้วยเช่นกัน โดยหากบ้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ก็อาจเลือกตู้ที่มีรูปแบบเรียบง่าย ทรวดทรงทันสมัย แต่หากตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจคลาสสิก ก็อาจเลือกเป็นวัสดุไม้สไตล์ใกล้ ๆ กัน ก็จะช่วยให้ตู้และบรรยากาศโดยรวมสวยงามและกลมกลืนมากยิ่งขึ้น

5. ราคาสมเหตุสมผล จับต้องได้

ราคาของตู้แขวนผนังมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำ ขนาด ประเภท และยี่ห้อของตู้ ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อจึงควรพิจารณางบประมาณที่มีอยู่ และเปรียบเทียบราคาตู้จากตัวแทนจำหน่ายหลาย ๆ แห่ง ก็จะช่วยให้เลือกได้อย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์มากที่สุด

ตู้แขวนผนังนับเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่นอกจากช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ยังช่วยตกแต่งให้บ้านสวยงามมากขึ้นได้ ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อจึงแนะนำให้พิจารณาจากปัจจัยข้างต้นที่เราแนะนำนี้ก่อน ก็จะช่วยให้เลือกซื้อได้ตอบโจทย์ความต้องการและใช้งานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด