หากจะกล่าวถึงการตลาดเชิงดิจิทัล (Digital Marketing) แล้วละก็ย่อมประกอบไปด้วยเครื่องมือทางการตลาดหรือ Tools ที่มีความหลากหลายแตกต่างกันออกไป อาจจะแตกต่างกันที่แพลตฟอร์ม การเผยแพร่เนื้อหา ผลลัพธ์ที่ได้ ตลอดไปจนถึงแง่ของการงบประมาณการลงทุน ซึ่ง SEO คือหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่ได้รับความนิยม ทั้งนี้ SEO คือ Tool ที่ย่อมาจาก Search Engine Optimization นั้นคือกลไกทางการตลาดที่เน้นการทำงานบนหน้าเว็บไซต์เป็นหลัก ว่าด้วยเรื่องของการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย การคิดค้นเนื้อหาดีๆ มีความน่าสนใจ ประกอบไปด้วยคำสำคัญ (Keyword) ที่ทำหน้าที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาค้นหาข้อมูลหรือใช้งานบนหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นๆ แต่นอกเหนือจากกลไกการทำงานตามที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น SEO จะมีเคล็ดลับหรือเทคนิคสำคัญอะไรที่ควรทราบบ้าง บทความนี้มีข้อมูลดีๆ มาฝากกัน

ตำแหน่งหรืออันดับของ SEO

หากใครเคยมีประสบการณ์มาบ้างก่อนหน้านี้ก็คงจะทราบดีว่า SEO คือเครื่องมือทางการตลาดที่เล่นเรื่องการไต่อันดับบนแพลตฟอร์มการค้นหา หลักๆ เลยคือเว็บไซต์ Google แต่ทั้งนี้หลายคนก็อาจจะสงสัยเรื่องกลไกของการไต่อันดับที่ยังไม่เสถียรมากเพียงพอ มีการขึ้น-ลง ตามแต่จังหวะ ทั้งนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวโครงสร้างหน้าเว็บไซต์เองที่อาจจะยังไม่เสถียรและไม่เป็นระบบระเบียบมากเพียงพอให้ Google ตรวจจับ, ตัวแพลตฟอร์ม Google เองที่มีการออกกฎและเปลี่ยน Algorithm แทบจะทุกวัน ดังนั้นเจ้าของเว็บไซต์ต้องมีความมั่นใจว่าเว็บไซต์ของตนเองนั้นได้รับการปรับปรุงจนผ่านกฎระเบียบมากพอ อีกทั้งถ้าอันดับของเว็บไซต์ยังอยู่ในอันดับที่ต่ำอยู่ โอกาสของความไม่เสถียรหรือแกว่งตัวก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น เมื่อทราบดังนั้นแล้วแนะนำให้เริ่มแก้ไขหรือปรับปรุงที่หน้าเว็บไซต์ของตนเองให้แข็งแรงก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อหน้าเว็บไซต์ถูกต้องและเป็นไปตามที่แพลตฟอร์ม Google กำหนดแล้ว การใช้ SEO คือโอกาสในการพัฒนาหน้าเว็บไซต์ให้ไต่อันดับขึ้นมาอย่างแข็งแรงและมีเสถียรภาพแน่นอน

กลไกการทำงานของแพลตฟอร์ม Google

จากที่เกริ่นไปบ้างแล้วในข้างต้นว่า SEO คือเครื่องมือทางการตลาดที่อาศัยการทำงานบนแพลตฟอร์ม Google ด้วยการจับคำสำคัญ หรือ Keyword เป็นหลัก แต่นักการตลาดหลายท่านก็อาจจะสงสัยและอยากทราบถึงกลไกการทำงานของแพลตฟอร์ม Google กล่าวง่ายๆ เลยก็คือแม้ว่ากลไกการทำงานของแพลตฟอร์มนี้จะซับซ้อน แต่โดยแรกเริ่มนั้น Google Bot จะเข้าไปสำรวจการทำงานในแต่ละหน้าเว็บไซต์ จากนั้นจะทำหน้าที่ Index หน้าที่ผ่านการคัดเลือกแล้วว่าเหมาะสมใส่เข้าไปในลิสต์ และเมื่อใดก็ตามแต่ที่มีผู้ใช้งานต้องการจะค้นหาข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ Google ตัวแพลตฟอร์มนี้ก็จะทำหน้าที่คัดเลือกเว็บไซต์ที่อยู่ในลิสต์แล้วนำมาแสดงข้อมูลให้ปรากฏแก่สายตาผู้ใช้งานหรือนักท่องเว็บไซต์ในที่สุด