พรสวรรค์ไม่ใช่ผลรวมของยีนส์และสิ่งแวดล้อม แต่สามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นได้

  • จิปาถะ อื่นๆ
  • mimi
  • 0
  • 11 ก.ค. 2566 10:41
  • 101.108.126.***

จากการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ พรสวรรค์ไม่ใช่สิ่งที่กำหนดโดยยีนส์และสิ่งแวดล้อมทั้งหมด แต่พรสวรรค์คือสิ่งที่ทุกคนสามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นได้ และการพัฒนาทักษะสู่ความเป็นเลิศนั้น เกิดขึ้นได้จากการฝึกฝนแบบเชิงลึกของคนที่มีแรงจูงใจและมีโค้ชที่เชี่ยวชาญดูแล

 

ตอนเด็กๆ คงไม่ใช่เราคนเดียวที่เข้าใจผิด คิดว่าคนที่มีพรสวรรค์คือคนที่มีความสามารถติดตัวมาตั้งแต่เกิด คนที่ไม่ต้องออกแรงฝึกฝนเรียนรู้ก็ยังทำได้ดีกว่าเรา คนที่เราได้แต่อิจฉาในความพิเศษนั้น

ความเชื่อผิดๆ เรื่องพรสวรรค์อาจทำให้บางคนล้มเลิก เพราะไม่เห็นทางที่จะประสบความสำเร็จหรือเป็นที่หนึ่งได้ จะพยายามไปทำไมในเมื่อไร้พรสวรรค์ คิดแบบนี้ทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาตัวเอง

ในขณะที่คนมีพรสวรรค์กลับกลัวที่จะพยายาม เพราะเชื่อว่าคนที่มีพรสวรรค์นั้นไม่จำเป็นต้องพยายาม ความพยายามทำให้กลายเป็นคนธรรมดา แล้วเราก็ไม่ต้องการเป็นคนธรรมดา ทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น สล็อตpg

ในขณะที่คนไร้พรสวรรค์ล้มเลิก คนที่มีพรสวรรค์กลับกลัวความพยายาม น่าแปลก ทั้งที่ไม่มีใครสอนตอนยังเด็ก แต่กลับมีความเชื่อแบบนี้เกิดขึ้นได้

พรสวรรค์ไม่ได้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับพรสวรรค์ต่างหากที่ติดตัวและตามติดเราจนโต

จากหนังสือ The Talent Code: Greatness Isn’t Born. It’s Grown. Here’s How. โดย Daniel Coyle ที่เขียนขึ้นจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับบทบาทของ Myelin ที่มีต่อการพัฒนาทักษะ

Myelin และ White matter เป็นองค์ประกอบที่มีน้ำหนักมากกว่าครึ่งในสมอง แต่ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์กลับให้ความสำคัญกับ Neuron และ Synapse มากกว่า ซึ่งสามารถอธิบายกิจกรรมที่เกิดขึ้นในสมองได้ ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำ อารมณ์ การควบคุมกล้ามเนื้อ การรับรู้ตรวจจับสัญญาณ แต่สิ่งที่ Neuron ไม่สามารถใช้อธิบายได้นั่นคือ ทำไมคนเราต้องใช้เวลานานในการเรียนรู้ทักษะที่ซับซ้อน

ทักษะกับวงจรในสมอง

กิจกรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือผลของการส่งสัญญาณไฟฟ้าเข้าไปยังโครงข่ายเส้นใยประสาท สมองเราประกอบไปด้วย Neuron หลายพันล้าน เชื่อมต่อระหว่างกันด้วย Synapse ไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม สมองก็จะส่งสัญญาณเข้าไปยังโครงข่ายเส้นใยประสาทเหล่านั้น ส่งไปยังกล้ามเนื้อที่ต้องการเคลื่อนไหวหรือใช้งานทุกครั้ง

ทุกครั้งที่เราฝึกฝน ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง ตีลูกเทนนิส อ่านหนังสือ วงจรส่วนที่เกี่ยวข้องของกิจกรรมนั้นก็จะสว่างขึ้น ทักษะแต่ละอย่างนั้น เกิดขึ้นจากวงจรที่ประกอบไปด้วยเส้นใยประสาทและ Synapse นับพัน

ลองจินตนาการหลังจากที่เรามองเห็นลูกบอล เรารู้สึกได้ถึงตำแหน่งของแร็กเกตที่ถือในมือ เราตัดสินใจตีลูก และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ สัญญาณที่ส่งผ่านไปยังกล้ามเนื้อที่เอวหัวไหล่และแขน ในปริมาณและในเวลาที่เหมาะสม

วงจรคือการเคลื่อนไหว มันกำหนดระดับพลังงานและจังหวะเวลาที่เราใช้เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดรูปแบบและเนื้อหาความคิด วงจรที่ทำงานช้าและไม่มีความแน่นอนก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ช้าและไม่แน่นอน แต่ถ้าวงจรมีความรวดเร็วสามารถส่งสัญญาณได้รวดเร็วประสานกันได้ดี ก็หมายถึงการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นได้รวดเร็วและแน่นอน Muscle memory หรือความทรงจำของกล้ามเนื้อ ที่จำระดับพลังงานและจังหวะเวลาของการเคลื่อนที่ ก็คือวงจรนี่เอง

ยิ่งเราพัฒนาวงจรของทักษะมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ไม่รู้ตัวว่าเราใช้งานมันอยู่ในขณะนั้น เราถูกสร้างมาให้ใช้ทักษะแบบอัตโนมัติ ให้ใช้จิตใต้สำนึก ให้สามารถทำได้โดยที่เราไม่รู้ตัว เราวิวัฒนาการมาแบบนี้เพราะว่า ยิ่งเราสามารถใช้ทักษะได้โดยไร้จิตสำนึก มันก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะมองเห็นศัตรูได้เร็วขึ้น ช่วยให้เราหาทางหนีได้ทัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราพัฒนาทักษะนี้ได้ มันก็จะทำให้รู้สึกว่า ทักษะมันติดตัวเรามาตลอด หรือเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้