ข้อแตกต่างระหว่าง ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 กับ ประกันชั้น 2 ที่คนมีรถควรรู้

  • มอไซค์ คาเฟ่
  • jbtsaccount
  • 0
  • 27 มิ.ย. 2566 23:18
  • 171.6.157.***

 

การทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ถึงจะไม่ได้มีกฎหมายบังคับแต่ทุกคนที่มีรถก็ควรทำ เพราะประกันภัยภาคบังคับวงเงินคุ้มครองมีจำกัดและไม่คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน และควรเลือกให้ถูกว่าจะทำประกันแบบไหน ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นการทำประกันที่คนมีรถใหม่มักจะเลือกทำ ยอมจ่ายแพงหน่อยแต่ให้ความมั่นใจสำหรับรถป้ายแดงที่เพิ่งถอยออกมา หรือเป็นมือใหม่ที่ยังขับรถยนต์ไม่ชำนาญ
 
แล้วถ้าไม่อยากจ่ายแพงล่ะ จะการทำประกันชั้น 2 ได้ไหม ถ้าพูดในแง่ของค่าใช้จ่ายก็ต้องตอบว่าได้ สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัด แต่หากมองในแง่ของความคุ้มครองแล้ว ทั้งสองแบบมีความต่างอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของรถจะยอมรับได้ไหมถ้า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองน้อยกว่า ก่อนจะตัดสินใจลองเทียบความแตกต่างดูว่า ชั้น 1 กับ ชั้น 2 ความคุ้มครองต่างกันอย่างไร
 
ความคุ้มครองของ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 
ต้องบอกว่าคุ้มครองสูงสุดไม่ว่ารถจะเสียหายด้วยเหตุอะไร แม้แต่การขับรถไปเฉี่ยวชนหรือเกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณีก็สามารถเคลมได้ถ้าเป็น ประกันภัยชั้น 1 นอกจากเคลมค่าซ่อมรถที่พังหรือบุบสลายแล้ว ยังรวมถึงความเสียหายอื่น ๆ อีกด้วย เจ้าของรถไม่ต้องจ่ายเงินค่าซ่อมเลย เพราะบริษัทประกันจะจัดการให้ทั้งหมด บวกกับความคุ้มครองผู้ขับขี่ที่ได้รับบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 บางกรมธรรม์มีจ่ายค่าชดเชยรายได้ในช่วงรักษาตัวที่ไม่ได้ทำงานรวมถึงค่าศัลยกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังคุ้มครองกรณีภัยพิบัติ เช่น ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ รถจอดไว้แล้วหาย ถูกขโมยก็เคลมได้เช่นกัน
 
ประกัน ชั้น 1 เหมาะกับใคร
ผู้ที่ซื้อรถใหม่ ถอยออกจากศูนย์ ร้อยทั้งร้อยเลือกใช้ ประกันชั้น 1 
มือใหม่หัดขับ ขับรถยังไม่แข็งเฉี่ยวชนได้ทุกที่แม้ไม่มีคู่กรณี ซื้อประกันแบบนี้เคลมได้
ผู้ที่ใช้รถเป็นประจำทุกวัน ขับรถทางไกลบ่อย
 
ความคุ้มครองของประกันชั้น 2 
คุ้มครองน้อยกว่าประกันชั้น 1 ถ้ารถเกิดอุบัติเหตุชนกับคันอื่นและเราเป็นฝ่ายผิด ประกัน ชั้น 2 จะจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ให้แค่คู่กรณีเท่านั้น ส่วนรถของเจ้าของกรมธรรม์ต้องจ่ายค่าซ่อมเอง และถ้าไม่มีคู่กรณี เกิดไปชนเสาไฟฟ้า ต้นไม้ รั้วบ้าน ก็เคลมไม่ได้ 
ประกันชั้น 2 เหมาะกับ
รถมือสอง หรืออายุรถเกิน 7 ปีไปแล้ว 
คนขับรถที่มีความชำนาญมาก เคลมน้อย 
ขับรถในระยะทางใกล้ ๆ และมีพฤติกรรมขับรถไม่เร็วนัก ใช้รถน้อย
 
จะเห็นได้ว่า ประกัน ชั้น 1 ครอบคลุมกว่า แต่ถ้าใช้รถน้อย ไม่ได้ขับทางไกลหรือขับเร็ว ประกัน ชั้น 2 ก็เป็นอีกทางเลือกที่ประหยัดงบประมาณ อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุเป็นเรื่องของความไม่แน่นอน รถทุกคันเมื่อนำออกมาขับย่อมมีความเสี่ยง แนะนำเลือกประกันขับดี FlexiDrive จาก AIS Insurance Service ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 สำหรับผู้ที่ใช้น้อย จ่ายค่าเบี้ยตามเลขไมล์ที่ขับได้เลย ประหยัดแต่คุ้มครองครบ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
 
ที่มาข้อมูล 
https://promotions.co.th/โปรโมชั่นอื่น ๆ /insurance/motor/1st-and-2nd-class-insurance-which-one-should-i-buy.html
https://www.autospinn.com/2022/06/car-insurance-90390