ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ใครว่าไม่สำคัญ ?

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์เป็นแผ่นฟิล์มสำหรับติดตั้งบนกระจกหน้า กระจกข้าง และกระจกหลังของรถยนต์เพื่อช่วยลดความร้อนในรถ และป้องกันแสงแดดที่เข้ามาในรถยนต์ ซึ่งช่วยปรับอุณหภูมิภายในรถยนต์ให้เย็นลงและทำให้รถของคุณไม่กลายเป็นเตาอบเมื่อจอดทิ้งไว้นาน ๆ  นอกจากนี้ฟิล์มยังช่วยป้องกันแสง UV และชะลอการซีดของสีเบาะ และส่วนประกอบและของตกแต่งต่าง ๆ ของภายในรถยนต์ ซึ่งทำให้ภายในรถยนต์มีความสวยงามได้ยาวนานยิ่งขึ้น

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

- ฟิล์มแบบสีทึบ (Dyed Film) - มีการใช้สีเพื่อกรองแสงแดด ทำให้บรรยากาศภายในรถยนต์เงียบสงบและมีความเย็น แต่ไม่สามารถกรองแสง UV ได้ ทำให้ไม่ป้องกันการเสียหายของผิวพรรณคนใช้รถ ทั้งคนขับ และคนนั่งจากแสง UV แต่ในปัจจุบันก็มีฟิล์มกรองแสงประเภทนี้ที่กรอง UV ได้บ้างเช่นกัน

- ฟิล์มแบบเงา (Metalized Film) - ฟิล์มนี้มีการเพิ่มชั้นโลหะที่ช่วยกรองแสงแดดและควบคุมอุณหภูมิในรถยนต์ แต่อาจทำให้สัญญาณวิทยุหรือโทรศัพท์มือถือไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ฟิล์มแบบเงายังมีความหนาและหนักมากกว่าฟิล์มแบบสีทึบ

ผู้ใช้รถยนต์สามารถเลือกฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการได้ โดยควรคำนึงถึงความเข้มแสงที่ต้องการลดลงเท่าไหร่ เพื่อความปลอดภัยในการขับรถของตนเองและผู้โดยสารเพราะหากฟิล์มทึบเกินไปก็จะมองเห็นได้ยาก และอาจก่อให้เกิอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้รถยนต์ควเลือกฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มีความทึบเหมาะสม ให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางจราจรด้วย และควรติดตั้งฟิล์มที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพสูงเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในการขับรถ ทั้งนี้เพื่อให้การขับขี่รถยนต์ปลอดภัยและมีความสะดวกสบายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกสถานการณ์

การไม่ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์อาจมีข้อเสียหลายอย่างดังนี้

- การไม่ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์อาจทำให้ระดับแสงที่เข้ามาในรถยนต์สูงมาก ทำให้มองไม่เห็นถึงวัตถุหรือผู้อื่นบนท้องถนนได้ และเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น

- การไม่ติดฟิล์มกรองแสงบนรถยนต์อาจทำให้รถยนต์ร้อนขึ้นเร็วขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่แดดมีความร้อนแรง การติดฟิล์มกรองแสงบนรถยนต์จะช่วยลดอุณหภูมิภายในรถยนต์ลงได้เป็นอย่างมาก

- การไม่ติดฟิล์มกรองแสงบนรถยนต์อาจทำให้บุคคลภายนอกมองเห็นภายในรถยนต์ได้ง่าย ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณเปิดเผยได้