วัดช้างไห้ ที่เที่ยวปัตตานี

  • ทริป ท่องเที่ยว
  • lovethailand2020
  • 0
  • 15 ก.พ. 2566 13:54
  • 182.232.58.***

วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม

วัดช้างไห้ ที่เที่ยวปัตตานี เป็นวัดเริ่มแรกสร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ตามตำนานกล่าวว่า พระยาแก้มดำกษัตริย์ไทรบุรี มุ่งมาดปรารถนาหาชัยภูมิสำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว ก็เลยได้เสี่ยงอธิฐาน ปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีพระราชารวมทั้งไพร่พลเดินติดตามไป จนกระทั่งมาถึงวันหนึ่ง ช้างได้หยุดอยู่ในที่แห่งหนึ่ง แล้วร้องขึ้นสามครั้ง พระยาแก้มดำก็เลยได้ถือได้ว่าเป็นนิมิตที่ดี จะใช้บริเวณนั้นสร้างเมือง แม้กระนั้นน้องสาวเกลียดชัง พระยาแก้มคำก็เลยให้สร้างวัดในบริเวณดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วแทน แล้วให้ชื่อว่า วัดช้างไห้ แล้วนิมนต์สงฆ์รูปหนึ่ง ที่ประชากรเรียกว่า ท่านลังกา หรือ สมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดจาง คำบอกเกริ่นของ พระครูวิสัยสวย (บุญคุณณคุณครูทิม ธมฺมธโร)

วัดช้างให้สร้างขึ้นกว่า ๓๐๐ ปี ถึงแม้ไม่รู้จักแจ่มชัดว่าผู้ใดกันแน่เป็นผู้สร้าง ตามตำนานพูดว่า พระยาแก้มดำ เจ้าเมืองไทรบุรี อยากได้หาชัยภูมิสำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว(นางเจ๊ะสิตี) ก็เลยได้เสี่ยงอธิษฐานปล่อยช้างคู่เมืองประเทศราชเดินป่า โดยมีพระยาแก้มดำน้องสาวและไพร่พลเดินติดตามช้างมาหยุดในป่าแห่งหนึ่งพร้อมเดินวนเวียนและร้องขึ้น ๓ ครั้ง(วัดช้างให้ในตอนนี้) พระยาแก้มดำก็เลยมีข้อคิดเห็นว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ก็เลยจะใช้บริเวณดังที่กล่าวถึงแล้วสร้างเมือง แต่น้องสาวเกลียดก็เลยให้ช้างเริ่มเดินทางหาทำเลใหม่พบกระจงขาววิ่งอยู่ น้องสาวก็เลยเชื้อเชิญไพร่พลวิ่งจับกระจงวิ่งไปบริเวณชายทะเลสีขาว (ตำบลกรือเซะเวลานี้) แล้วหายไป นางรู้สึกชอบใจ พระยาแก้มดำก็เลยสร้างเมืองให้

แล้วก็เลยเดินทางกลับเมืองไทรบุรีมาถึงที่ช้างเคยหยุดก็เลยค้างแรมถางป่าและก็สร้างวัดชื่อ วัดช้างให้ เมื่อเดินทางถึงเมืองไทรบุรีได้นิมนต์พระสงฆ์ซึ่งประชาชนเรียกว่า “ท่านลังกา” หรือ ”สมเด็จพระโคะ” หรือ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดจาง มาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ท่านลังกาเดินทางธุดงค์เทียวไปเทียวมาระหว่างเมืองไทรบุรีกับวัดช้างให้แล้วก็ได้สั่งลูกศิษย์ว่าแม้ท่านตายขอให้นำศพไปทำการการฌาปนกิจศพในวัดช้างให้ เมื่อท่านตายที่เมืองไทรบุรี ลูกศิษย์ได้นำพระศพกลับวัดช้างให้เพื่อการฌาปนกิจศพ ระหว่างเดินทางหยุดที่ไหนก็จะปักไม้ไว้ (ในขณะนี้ก็เลยมีเจดีย์ จากที่ต่างๆ) ลูกศิษย์ได้นำอัฐิส่วนหนึ่งส่วนใดกับเมืองไทรบุรี และส่วนใดส่วนหนึ่งฝังไว้ที่วัดช้างให้มีผู้คนเยอะแยะราบไหว้บนอธิษฐาน ได้ผลตามความประสงค์ความศักดิ์สิทธิ์ ก็เลยเลื่องลือไปไกล ภายหลังวัดช้างให้ก็ร้างไปนาน

ปี พ.ศ.๒๔๘๐ พระครูมนูญเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสวัดพลานุภาพ หัวหน้าคณะสงฆ์ตำบลทุ่งพลาให้พระตอนมาเป็นเจ้าอาวาส พระตอนได้ชวนพลเมืองมาแผ้วป่าสร้างกุฏิศาลาการเปรียญหลังคามุงจาก พร้อมเสนาสนะอื่นๆแล้วก็ได้ลาสึกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๔

ปี พ.ศ.๒๔๘๔ บุญคุณคุณครูทิม ธมฺมธโร (พระครูวิสัยสวย) เป็นเจ้าอาวาสได้ตั้งชื่อตามกรมการศาสนาว่า “วัดราษฎร์ปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซม” สร้างศาลาการเปรียญใหม่ กุฏิ ๘ ด้านหลัง สร้างหอฉัน(โรงครัว) สร้างหอระฆัง สร้างพระเครื่องลางสมเด็จหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืดจางเนื้อว่านรุ่นแรก ปี พ.ศ.๒๔๙๗ สร้างโบสถ์ สร้างวิหารจัดตั้งรูปหล่อหลวงพ่อทวดสร้างเจดีย์ใส่อัฐิหลวงพ่อทวด สร้างเจดีย์ สร้างกำแพงวัด แล้วก็ซื้อที่ดินตรงกันข้ามวัดสร้างโรงเรียนสมเด็จหลวงพ่อทวด ช่วงวันที่ ๑๑ ธ.ค. ๒๕๐๗ นำต้นโพธิ์จากอินเดียมาปลูกไว้ บุญคุณณอาจารย์ทิมตายปี พ.ศ.๒๕๑๒ (เป็นเจ้าอาวาส ๒๘ ปี)

ในขณะนี้ได้มีการสร้างรูปเหมือนกับหุ่นขี้ผึ้งบุญคุณคุณครูทิมเท่าองค์จริง ตั้ง ในวัดช้างให้ ปี พ.ศ.๒๕๑๒ พระครูใบฎีกาขาว เป็นเจ้าอาวาส ได้จัดงานพิธีกรรมยกฉัตรทองยอดเจดีย์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธียกฉัตรทอง ยอดพระเจดีย์วัดราษฎร์ซ่อมแซม (ช้างให้) ช่วงวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๒๐ และปรับปรุงแก้ไขเจดีย์สมเด็จหลวงพ่อทวด จัดซื้อที่ดินสร้างอาคารสถานที่เรียนราชมุนีรังสฤษฎิ์ (เป็นเจ้าอาวาส ๙ ปี)ปี พ.ศ.๒๕๒๑ พระครูอุปถัมภ์ค้ำชูปริยัติธุระ ( ความก้าวหน้า อรุโณ ) เป็นเจ้าอาวาสมาจนกระทั่งในช่วงเวลานี้ นอกจากนี้ใครอยากจะหาที่เที่ยวยะลาก็สามารถติดตามได้ในตอนต่อไป